รีเซต

โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ ยก "Iron Man" เป็นบทบาทที่ดีที่สุด แต่ไม่ได้รับการยอมรับเท่าที่ควร

โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ ยก "Iron Man" เป็นบทบาทที่ดีที่สุด แต่ไม่ได้รับการยอมรับเท่าที่ควร
แบไต๋
15 มกราคม 2567 ( 07:00 )
111

แม้ตอนนี้ โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ (Robert Downey Jr.) จะหลบพ้นร่มเงาจากบทบาท โทนี สตาร์ก (Tony Stark) หรือ Iron Man ซึ่งเป็นบทบาทที่ส่งให้เขากลายมาเป็นซูเปอร์สตาร์เบอร์ต้น ๆ ของฮอลลีวูด และเขาเองก็พิสูจน์ฝีมือจนเป็นที่ยอมรับในหลากหลายบทบาท ล่าสุด บทบาท ลูอิส สเตราส์ (Lewis Strauss) จากหนัง ‘Oppenheimer’ (2023) ก็เพิ่งได้รับรางวัลนักแสดงภาพยนตร์สมทบชายยอดเยี่ยม จากเวทีลูกโลกทองคำมาหมาด ๆ

แต่อย่างที่ทราบกันดีว่า แม้ดาวนีย์ จูเนียร์จะได้รับการยอมรับในฝีมือการแสดง แต่บทบาท โทนี สตาร์ก ใน Marvel Cinematic Universe ของ Marvel Studios ที่เขารับบทบาทนี้มายาวนานถึง 11 ปี และมีแฟน ๆ ชื่นชอบไปทั่วโลก แต่ใช่ว่าแฟนหนังทุกคนจะยอมรับเขาในฐานะนักแสดงซูเปอร์ฮีโร รวมไปถึงบทบาทของหนังซูเปอร์ฮีโรที่มักเป็นหนังในระดับบล็อกบัสเตอร์ ก็มักจะถูกมองข้ามจากแฟนหนัง และมักจะไม่ค่อยมีบทบาทบนเวทีการประกวดรางวัลด้านภาพยนตร์สักเท่าไหร่

แต่ถึงกระนั้นก็ตาม ดาวนีย์ จูเนียร์ ได้เปิดเผยในรายการพอดแคสต์ ‘Literally! With Rob Lowe‘ ว่า แม้บทบาท Iron Man ของเขาจะไม่ได้เป็นที่ยอมรับ และอยู่นอกสายตาของแฟนหนังบางส่วน แต่เขาเองก็รักในบทบาทนี้ และยกให้บทบาทนี้คือหนึ่งในการแสดงที่ดีที่สุดในชีวิตของเขาเลยทีเดียว

“ผมเองรู้สึกประเจิดประเจ้อมาก ๆ ตอนที่ได้อยู่ในบ้านของ Marvel ซึ่งเป็นที่ ๆ หนึ่งที่ผมคิดว่าผมได้ทำงานที่ดีที่สุดเท่าที่ผมเองเคยแสดงมา แต่สุดท้ายก็ไม่ค่อยมีใครให้ความสำคัญกับหนังแนว ๆ นี้เท่าไหร่”

แต่หลังจากที่บทบาท Iron Man จบลงหลังการปรากฏตัวครั้งสุดท้ายใน ‘Avengers: Endgame’ (2019) ดาวนีย์ จูเนียร์ ก็ก้าวไปต่อกับการรับบทบาทเป็นด็อกเตอร์ดูลิตเติล คุณหมอผู้มีความสามารถในการพูดคุยกับสรรพสัตว์ใน ‘Dolittle’ (2020) ที่มี ซูซาน ดาวนีย์ (Susan Downey) ภรรยาของเขารับหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์ ภายใต้บริษัทโปรดักชัน Team Downey Productions ของเขาเอง

แต่ดูเหมือนชื่อเสียงจากการรับบทเป็น Iron Man จะไม่ได้ช่วยพยุงให้หนังเรื่องนี้ประสบความสำเร็จดังคาด เพราะสุดท้าย หนังเรื่องนี้กลับทำรายได้เพียงแค่คืนทุนที่ 251 ล้านเหรียญ จากทุนสร้าง 175 ล้านเหรียญ

แต่ที่หนักกว่านั้นคือ หนังเรื่องนี้กลับได้รับคำวิจารณ์ในระดับย่ำแย่ ได้คะแนนนักวิจารณ์จากเว็บไซต์ Rotten Tomatoes ไปเพียง 15% ซึ่งถือว่าน้อยที่สุดเรื่องหนึ่งในอาชีพนักแสดงของเขาเลยทีเดียว ซึ่งเขาเองมองว่า ความล้มเหลวของ ‘Dolittle’ นี่แหละที่ทำให้เขากลับมารู้สึกถ่อมตัวอีกครั้ง หลังจากที่เขาเฟ้อชื่อเสียงจากการรับบทซูเปอร์ฮีโรมาอย่างยาวนานนับทศวรรษ

“แม้มันจะเป็นหนังที่ใช้ไม่ได้ แต่ผมว่ามันก็จะเป็นสิ่งที่ดีกับตัวผมเอง เพราะสุดท้าย พรมก็ถูกดึงออกมาจากใต้เท้าผม และทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมเคยพึ่งพิงมัน สิ่งที่สร้างความปลอดภัยและมั่นใจ มันได้หายไปโดยทันที และมันทำให้ผมกลับมาเป็นคนที่รับฟังคำสอนได้อีกครั้ง”

อย่างที่ทราบกันดีว่า หลังจากที่ ดาวนีย์ จูเนียร์ ผ่านมรสุมชีวิตจากการติดยาเสพติดจนชีวิตแทบจะหาไม่ ส่วน Marvel เองก็ล้มลุกคลุกคลานจากการเกือบล้มละลายด้านธุรกิจ แต่แล้วในปี 2008 ที่ ‘Iron Man’ ภาคแรกปรากฏตัวสู่ผู้ชม ก็ทำให้คาแรกเตอร์ที่ไม่ค่อยดังในคอมิก กลายมาเป็นขวัญใจผู้ชม จนมีการสร้างต่อออกมาอีก 2 ภาค และปรากฏตัวในหนังครอสโอเวอร์ของ Marvel ทั้งใน ‘Avengers’ และในหนังเดี่ยวเรื่องอื่น ๆ จนสุดท้าย ตัวละครนี้ก็ปิดฉากลงในตอนท้ายของ ‘Avengers: Endgame’ และปิดม่าน Infinity Saga อย่างสมบูรณ์แบบ

แต่พอหลังจากนั้น หนังซูเปอร์ฮีโรก็ถึงจุดขาลงอย่างสมบูรณ์แบบ จนมีข่าวลืออกมาว่า Marvel Studios กำลังจะงัดไม้ตายก้นหีบในการดึงเอาตัวละครที่สิ้นชื่อไปแล้ว และนักแสดงเจ้าของบทดั้งเดิมกลับมาในหนัง Avengers ของ Multiverse Saga จนสุดท้าย เควิน ไฟกี (Kevin Feige) ประธานของ Marvel Studios ก็ออกมาสยบข่าวลือว่า จะไม่มีการฝืนไปแตะต้องโมเมนต์ ด้วยการย้อนเวลากลับไปดึงเอาตัวละครที่แฟน ๆ รักกลับมา (ไม่ว่าจะด้วยมุกตัวแปรจากอีกมิติ หรือปลุกผีจากหลุมแบบดื้อ ๆ ) อย่างเด็ดขาด

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ดาวนีย์ จูเนียร์เปิดเผยว่ารักในบทบาทมหาเศรษฐีฮีโรมากขนาดไหน เพราะตอนที่เขาให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร W เขาเคยเผยว่า ในช่วงชีวิตการเป็นนักแสดง มีเพียง 3 บทบาทเท่านั้นที่เขารู้สึกหมกหมุ่นในการเตรียมตัว และค้นหาวิธีการแสดงในบทบาทนั้น ๆ และ 1 ใน 3 บทบาทนั้นก็คือบท โทนี สตาร์กนั่นเอง


ที่มา: Variety, Screen Rant