สวัสดีค่ะทุกคนด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไปทำให้อะไรหลาย ๆ อย่างเปลี่ยนแปลงตัวผู้เขียนเองทันทั้งยุคแอนะล็อกและยุคดิจิตอล เรียกได้ว่าเราเห็นความเปลี่ยนของอะไรหลาย ๆ อย่างบางอย่างก็ดูตื่นตาตื่นใจดี บางอย่างก็ไม่อยากให้เปลี่ยนไป เกริ่นมาแบบนี้ไม่มีอะไรมากค่ะเพียงแต่มีหนังสือที่ผู้เขียนนั้นจะพาเราย้อนยุคไปในปี 80 ในเกาหลีมาดูกันค่ะว่าในยุค 80 ในเกาหลีใต้กับยุค 80 ในไทยเราจะแตกต่างกันหรือมั้ย และในหนังสือยังมีเรื่องราวอะไรหลายอย่างที่น่าติดตามค่ะ หนังสือที่ว่านี้ชื่อเรื่อง "ความลับในบ้านไลแลค" เขียนโดย "ซงชีอู" จาก "แพรวสำนักพิมพ์" ราคาเล่มละ 255 บาทค่ะ เนื้อเรื่องเป็นการบอกเล่าเรื่องราวจากตัวละครที่ชื่อว่า "ฮย็อนซูบิน" ซึ่งเธอผู้มีชื่อเสียงจากการเป็นนักวิจารณ์วัฒนธรรมกระแสนิยมและนักสัมภาษณ์มือทองค่ะเธอได้เขียนบทความเกี่ยวกับเรื่องราวช่วงทศวรรษ 1980 โดยบทความที่เธอเขียนมาจากความทรงจำของเธอในสมัยนั้น ซึ่งตอนนั้นเธออายุได้เจ็ดขวบ"ฮย็อนซูบิน" ในวัยเจ็ดขวบได้พักอาศัยในบ้านแบบทากากูจูแท็ก เป็นบ้านพักอาศัยแบบรวมกันหลาย ๆ ครอบครัว ความทรงจำที่เธอได้ถ่ายทอดออกมาเป็นมุมมองของเธอในสมัยเด็กค่ะ ซึ่งสำหรับเด็กแล้วมักจะเป็นความทรงจำที่สวยงาม ในหนังสือได้เปรียบเทียบความทรงจำของเธอในวัยนั้นว่าเป็นความทรงจำที่หวานหอมและบอบบางราวกับกลีบสีขาวของดอกไลแลค ซึ่งดอกไลแลคนี้ขึ้นอยู่ตรงลานบ้านหลังนั้นที่เธออาศัยอยู่รูปภาพโดย : ผู้เขียนการดำเนินเรื่องในเล่มมีการดำเนินเรื่องแบบเรื่อย ๆ เนิบ ๆ ค่ะโดยมีตัวละคร "ฮย็อนซูบิน" เป็นตัวละครหลักความจริงเรื่องนี้ค่อนข้างสนุกเลยค่ะความน่าติดตามน่าตื่นเต้นพอมีบ้าง หากเราอ่านจากด้านหลังของปก อาจรู้สึกว่าเป็นหนังสือแนวสืบสวนแต่โดยส่วนตัวรู้สึกว่าไม่ขนาดนั้นค่ะแต่จะมีความหม่น ๆ ไม่ได้สวยงามแบบดอกไลแลค เนื้อเรื่องค่อนข้างจะเล่าสลับไปมาเรื่องในชีวิตปัจจุบันสลับกับเนื้อความในบทความที่จะบอกเล่าเรื่องราวชีวิตของเธอวัยเจ็ดขวบ ขอบคุณรูปภาพจาก : Pixabayความทรงจำของตัวละคร "ฮย็อนซูบิน" ที่เธอคิดว่าความทรงจำวัยเด็กของเธอที่คิดไว้ว่าเป็นความทรงจำที่น่าเขียนเป็นบทความย้อนยุคได้อย่างสวยงาม แต่ความเป็นจริงแล้ว ยังมีบางเรื่องที่ตัว "ฮย็อนซูบิน" ก็ไม่มั่นใจในบางสิ่งบางอย่าง เราลองย้อนกลับไปถึงช่วงสมัยเราเด็ก ๆ กันดูนะคะเชื่อว่าทุกคนคงคิดเหมือนกันแน่ ๆ ถึงแม้ว่าเราจะคิดว่าเราจำเรื่องในอดีตเราได้แน่นอนแต่มันมักจะมีอะไรบางอย่างที่ทำให้เรารู้สึกว่าใช่อย่างที่เราจำได้หรือเปล่า และแล้วก็มีสิ่งที่ตัว"ฮย็อนซูบิน" ต้องทำให้คิดและให้เกิดเป็นต้นตอของการตามหาเรื่องราวในอดีตเพื่อให้มั่นใจค่ะว่าสิ่งที่เธอคิดเธอเห็นเมื่อวันวานเป็นเรื่องจริงหรือไม่แต่แล้วสิ่งนั่นก็นำไปสู่ความจริงบางอย่างที่น่าสะพรึงกลัวของคนในบ้านหลังนั้น นั่นคือเรื่องของชายคนหนึ่งที่เสียชีวิตเพราะถูกรมควันด้วยแก๊สจากถ่านอัด สมัยนั้นจะใช้ถ่านในการทำให้บ้านอุ่น การเกิดอุบัติเหตุจากระบบทำความอุ่นในบ้านเรือนที่เกิดได้บ่อยในสมัยนั้น จนถือเป็นเรื่องปกติ แต่ชายคนนั้นเกิดอุบัติเหตุจริงหรือเราจะได้ย้อนไปในอ่านเรื่องราวในอดีตจากการค้นหาความจริงไปพร้อม ๆ กับ "ฮย็อนซูบิน" รูปภาพโดย : ผู้เขียนสิ่งที่ชอบในหนังสือเล่มนี้คือการเล่าเรื่องในอดีต อย่างการเล่าเรื่องร้านขายข้าวสารที่ "ฮย็อนซูบิน" บรรยายเรื่องราวผ่านความทรงจำของเธอที่ผู้อ่านเองได้นึกภาพตาม การบอกเล่าถึงบรรยากาศในสมัยนั้นอย่างการเล่นของเล่นในยุคนั้นของเด็ก ๆ ส่วนตัวคิดว่าบรรยายได้ดี ในส่วนของคดีก็ไม่ถึงกับพีคอย่างที่บอกค่ะไม่ใช่นิยายที่ออกแนวสืบสวนขนาดนั้น เพราะเนื้อเรื่องค่อย ๆ เขียนเฉลยปมแบบกลับไปกลับมาค่ะ เหมาะกับคนที่ชอบนิยายที่เล่าบรรยากาศเก่า ๆ มากกว่าค่ะผู้เขียนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะถูกใจทุกท่าน และหวังว่าจะพอเป็นแนวทางให้หลาย ๆ ท่านไว้สำหรับหาหนังสือน่าอ่านติดบ้านไว้กันนะคะ ไว้พบกันคราวหน้าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไรนั้น ขอฝากติดตามผลงานกันด้วยนะคะ สำหรับวันนี้ต้องลาไปก่อนสวัสดีค่ะ ติดตามบทความอื่น ๆที่นี่ค่ะ : Diary Therapyสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : ร้านหนังสือนายอินทร์ , ร้านหนังสือซีเอ็ดบุ๊ค Diary Therapy