สวัสดีค่าทุกคน กลับมาพบกับซามะอีกแล้วนะคะ วันนี้ซามะมีหนังสยองขวัญจิตวิทยาที่ดัดแปลงมาจากนิยายขายดีในปี 1988 ของโธมัส แฮร์ริส ที่ว่าด้วยเรื่องราวของสาวเอฟบีไอที่ต้องตามเบาะแสของฆาตกรฆ่าหญิงสาว 5 ราย แต่ก่อนที่เธอจะตามหาฆาตกรที่ว่า เธอก็ได้พบกับจิตแพทย์ที่เคยเป็นฆาตกรโรคจิตเช่นเดียวกัน แถมหนังเรื่องนี้ยังคว้าออสการ์รางวัลใหญ่มาครองได้สำเร็จ ถือเป็นความสำเร็จที่เหนือความคาดหมายมากๆ และยังมีการสร้างภาคต่อเพื่อติดตามเรื่องราวของฆาตกรโรคจิตผู้นี้ ใช่แล้วค่ะ วันนี้ซามะจะมารีวิวเรื่อง The Silence of the Lambs อำมหิตไม่เงียบ (1991) หนังที่มีนักแสดงมากฝีมืออย่างโจดี้ ฟอสเตอร์ และนักแสดงระดับตำนานของฮอลลีวูดอย่าง แอนโทนี ฮ็อปกินส์ เรื่องราวจะหลอนโรคจิต และจะหาฆาตกรเจอได้อย่างไร และยอดเยี่ยมอย่างไรถึงได้ออสการ์มาครอง ก็เลื่อนนิ้วไปอ่านบทความเลยจ้า (การรีวิวนี้เป็นความเห็น และความรู้สึกส่วนตัวของซามะนะคะ ผิดพลาดประการใดขออภัยล่วงหน้าจ้า)ตัวอย่างคลิปตัวอย่าง [Trailer] The Silence Of The Lambs อำมหิตไม่เงียบขอบคุณคลิปจาก Youtube : TrueIDเรื่องย่อ‘แคลลิช สตาร์ลิ่ง’ นักเรียนเอฟบีไอสาวสวย เรียนเก่ง และยังมีไหวพริบกับสัญชาตญาณการเป็นตำรวจ ได้รับมอบหมายให้สืบคดีฆาตกรรมต่อเนื่องจากฆาตกรฉายา ‘บัฟฟาโล บิล’ หัวหน้าของแคลลิชที่ชื่อว่า ‘แจ็ก ครอว์ฟอร์ด’ แนะนำเธอให้ไปหา ‘ดร.ฮันนิบาล เลคเตอร์’ ฆาตกรมนุษย์กินคนที่เคยเป็นจิตแพทย์ เพราะเชื่อว่าเขามีความรู้ด้านจิตวิทยามากพอที่จะคาดเดาพฤติกรรม การกระทำของฆาตกรโรคจิตด้วยกันเองได้ แคลลิชจึงต้องไปพบกับหมอเลคเตอร์เพื่อสืบหาเบาะแสเกี่ยวกับคดีฆาตกรรม ระหว่างที่กำลังสืบคดี ลูกสาวของวุฒิสมาชิกได้หายตัวไปและคาดการณ์ว่าจะเป็นฝีมือของบัฟฟาโล บิล คนที่จะสามารถช่วยแคลลิชให้ตามหาลูกสาวของวุฒิสภาและจับตัวบัฟฟาโล บิลได้ มีแต่หมอเลคเตอร์คนเดียวเท่านั้นฆาตกรบนหน้ากระดาษสู่โลกภาพยนตร์ฮอลลีวูดThe Silence of the Lambs คือภาพยนตร์ที่ดัดแปลงจากนวนิยายสยองขวัญจิตวิทยาของ ‘โธมัส แฮร์ริส’ ที่ตีพิมพ์ในปี 1988 นิยายเรื่องนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากประสบการณ์ตอนที่เขาได้มีโอกาสเข้าไปทำข่าวลงนิตยสารในเรือนจำแห่งหนึ่งที่ประเทศเม็กซิโก เขาได้พบกับศัลยแพทย์ที่เคยเป็นฆาตกรโรคจิตและรวมถึงก่อคดีอาชญากรรมอีกหลายคดี ภายนอกของแพทย์ที่แฮร์ริสได้เจอช่างดูสุขุม มาดนิ่ง และบุคลิกต่างๆ ที่ไม่น่าเชื่อว่าหมอคนนี้จะเป็นฆาตรกรโรคจิตที่ฆ่ามาแล้วหลายศพ ความรู้สึกและภาพจำในครั้งนั้นได้กลายมาเป็นต้นแบบของตัวละคร ‘ดร.ฮันนิบาล เลคเตอร์’ นั่นเอง และต่อมา โอไรออน พิคเจอร์ส (Orion Pictures) จะซื้อลิขสิทธิ์นิยายเรื่องนี้ไปสร้างเป็นภาพยนตร์ที่ในอนาคตจะกลายเป็นตำนานหนังสยองขวัญที่ยอดเยี่ยมที่สุดเรื่องหนึ่งของวงการฮอลลีวูด และกำเนิดตัวละครฆาตกรโรคจิตในโลกภาพยนตร์ที่ผู้ชมยังคงจดจำมาได้จนถึงทุกวันนี้ก่อนจะมาถึง The Silence of the Lambs แต่ก่อนที่โลกวรรณกรรมและภาพยนตร์จะมี The Silence of the Lambs โธมัส แฮร์ริสเคยแต่งนิยายสยองขวัญเรื่อง Red Dragon ซึ่งแน่นอนว่าได้นำมาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์โดยบริษัทที่ซื้อลิขสิทธิ์ไปก็คือ เดอ ลอเรนติส เอนเตอร์เทนเมนท์ กรุ๊ป (De Laurentiis Entertainment Group) ของผู้อำนวยการสร้าง ดิโน เดอ ลอเรนติส โดยใช้ชื่อหนังว่า Manhunter (1986) ที่แสดงนำโดย วิลเลี่ยม ปีเตอร์เซน และ ไบรอัน ค็อกซ์ แต่ได้รับคำวิจารณ์ไปในทางที่ไม่ค่อยดีนักแถมยังขาดทุนด้วยซ้ำ เพราะทำรายได้ไปเพียง 8.6 ล้านดอลลาร์ จากทุนสร้าง 15 ล้านดอลาร์ หลังจากนั้นโธมัส แฮร์ริสก็เขียนนิยายเรื่องใหม่ที่ชื่อ The Silence of the Lambs และโอไรออน พิคเจอร์ส (Orion Pictures) ก็ซื้อลิขสิทธิ์ไปโดยให้ โจนาธาน เดมมี มารับหน้าที่กำกับหนัง และได้ โจดี ฟอสเตอร์ (ผู้รับบท แคลลิช สตาร์ลิ่ง) และ แอนโทนี ฮ็อปกินส์ (ผู้รับบท ดร.ฮันนิบาล เลคเตอร์) มาแสดงนำในหนังเฉิดฉายบนเวทีออสการ์คว้า 5 รางวัลใหญ่หลังจาก The Silence of the Lambs เข้าฉายในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ปี 1991 ก็ได้รับเสียงตอบรับเชิงบวกจากแฟนนิยายและผู้ชมที่ซื้อบัตรเข้าไปดูอย่างล้นหลาม และทำเงินไปมากกว่า 200 ล้านดอลลาร์ ไม่เพียงเท่านั้นหนังครองรางวัลออสการ์มาถึง 5 สาขา ซึ่งเป็นรางวัลใหญ่ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม บทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม ผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจากเวทีออสการ์ เป็นหนังสยองขวัญที่ติดลำดับที่ 41 จาก 100 ภาพยนตร์ที่ดีสุดจากการจัดอันดับของนิตยสารเอ็มไพร์ปี 2023 อีกด้วย เวลาต่อมาก็มีภาคต่อที่เล่าเรื่องราวหลังจาก the Silence of the Lambs และภาคที่เล่าชีวิตวัยหนุ่มของหมอเลคเตอร์ รวมถึงยังถูกสร้างเป็นซีรีส์ออกมาให้ผู้ชมได้ติดตาม อย่างไรก็ตาม ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตัวละครฮันนิบาลที่ยังอยู่ในความทรงจำของผู้ชมก็ยังคงเป็นนักแสดงเจ้าของรางวัลออสการ์อย่าง ‘แอนโทนี ฮ็อปกินส์’ ผู้รับบท ดร.ฮันนิบาล เลคเตอร์ และถ่ายทอดความหลอนจิตพิสดารออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมผ่านนัยน์ตาสีฟ้าอันเยือกเย็นและการแสดงของแอนโทนี ฮ็อปกินส์รีวิวจากซามะเราเคยได้ยินหนังเรื่องนี้มานานมากกว่าเป็นหนังสยองขวัญที่ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีคนดูก็ยังนึกถึงต้นฉบับฮันนิบาลจากเรื่องนี้อยู่ ฉากในหนัง พร็อพ แล้วก็เมคอัพเอฟเฟกต์สำหรับกรถ่ายหนังในยุค 90 บวกกับโทนสีที่จะเน้นหม่นหมองเทาๆ เยอะมากช่วยทำให้ดูน่ากลัว ขับความโรคจิตออกมาได้ประมาณหนึ่ง และการแสดงของแอนโทนี ฮ็อปกินส์ (ที่ออกน้อยแต่ได้ออสการ์) ก็ทำให้ตัวละครฮันนิบาลสมบูรณ์แบบในเรื่องความหลอนอย่างมีเอกลักษณ์ ถ้าพูดในมุมสืบสวน ด้วยความที่เราก็รู้อยู่แล้วว่าคนร้ายคือใคร ส่วนตัวเราเลยไม่ค่อยตื่นเต้นเท่าไหร่ แต่ก็ถือว่าไม่แย่ที่จับตัวบัฟฟาโล บิลได้ และก็สปอยล์เรื่องราวตอนต่อไปที่ปรากฏอยู่ในหนัง ก็จบกันไปแล้วนะคะกับการรีวิวเรื่อง The Silence of the Lambs อำมหิตไม่เงียบ (1991) หนังดีกรีออสการ์ที่ซามะไม่อยากให้พลาด สำหรับใครที่ยังไม่เคยดูเลย ก็ลองเปิดใจเข้าไปดูสักครั้งนะคะเผื่อว่าจะชอบ และอยากติดตามภาคต่อเวอร์ชั่นหนัง และซีรีส์จากชุดนี้ ซามะขอขอบคุณทุกคนที่อ่านบทความจนจบค่ะ ทุกคนสามารถอ่านบทความอื่นๆ โดยคลิ๊กชื่อ ซามะ และลิงก์ด้านล่างนะคะ ต่อไปจะรีวิวหนังแนวไหน หนังเรื่องอะไรต้องรอดูกันต่อไป สำหรับวันนี้ลาไปก่อน สวัสดีค่า บ๊ายบายบทความอื่นๆ:มูฟวี่รีวิว :: Spotlight คนข่าวคลั่ง (2015) เมื่อทีมข่าวเปิดโปงความจริงสุดฉาว สะเทือนคริสตจักรคาทอลิกมูฟวี่รีวิว :: 3 Idiots (2009) ภาพยนตร์เบาสมองปนฮา เสียดสีระบบการศึกษาได้อย่างเจ็บแสบมูฟวี่รีวิว :: Jin-Roh: The Wolf Brigade กองพันหมาป่าทมิฬ (1999) แอนิเมชันนอกสายตาที่สะท้อนสภาวะทางจิตวิทยาและความเป็นมนุษย์เปิดวาร์ป 6 ช่อง Youtube สาย Study ปลุกไฟ เพิ่มแรงใจในการเรียนเครดิตรูปภาพภาพปก : Canva จาก ผู้เขียน (ซามะ) I ภาพประกอบโดย Facebook: MGM Studios (1) และ The Silence Of The Lambs (2) ภาพที่ 1 จาก Twitter: Michael Warburtonภาพที่ 2, 3, 4, 6, 10, 11 จาก Facebook: The Silence Of The Lambsภาพที่ 5, 7, 8, 13 จาก Facebook: MGM Studiosภาพที่ 9 จาก Facebook: The Academyภาพที่ 12 จาก Facebook: Empire Magazineเครดิตคลิปคลิปตัวอย่าง [Trailer] The Silence Of The Lambs อำมหิตไม่เงียบ จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !