ปิดตำนาน "โรงภาพยนตร์สกาลา" เป็นความรู้สึกที่บอกได้อย่างเดียวเลยว่าเสียดายมาก แม้จะยอมรับอยู่ในใจลึก ๆ ว่าไม่มีงานเลี้ยงใดไม่เลิกรา โรงหนังซึ่งเป็นความบันเทิงของคนดูหนังค่อย ๆ หายไปอย่างน่าเสียดาย สำหรับผู้เขียนเอง นึกย้อนความหลังไปเมื่อ 30 กว่าปีที่ผ่านมา ต้องบอกเลยว่าโรงหนังสยาม โรงหนังลิโด้ และโรงหนังสกาล่า ซึ่งตั้งอยู่ในย่านสยามสแควร์ ฉายหนังในเครือเอเพ็กซ์คือสวรรค์ของคนดูหนังอย่างเราเลย เพราะหนังฝรั่งดี ๆ จะมีให้ดูที่นี่ ส่วนหนังไทยที่มีโอกาสได้ชมในช่วงเวลานั้นยังจำได้ว่า ไปดู ทวิภพ และเรื่อง อำแดงเหมือนกับนายริด ผลงานการกำกับการแสดงของ "เชิด ทรงศรี" ที่นั่น"โรงภาพยนตร์สกาล่า" เป็นภาพที่จำได้แม่นเลยว่า สมัยนั้น ชั้นล่างของโรงหนังเป็นภัตตาคาร เมื่อขึ้นบันไดไปชั้นสอง จะเป็นโถงกว้าง ด้านซ้ายมือเป็นทางเข้าไปในโรงหนัง ด้านขวามือเป็นที่ขายตั๋ว ซึ่งด้านหลังที่ขายตั๋วจะเป็นห้องทำงานของทีมงานเครือเอเพ็กซ์ มีทั้งห้องทำงาน และห้องประชุม เมื่อเราจะไปดูหนัง ซื้อตั๋วแล้วก็จะยืนรอ ๆ อยู่บริเวณริมโถงกว้างนั้น โรงหนังเปิดเมื่อไหร่ก็พร้อมที่จะเข้าไปทันที ขณะเดียวกันก็สามารถมองลงไปรอบๆ ตัว ก็ชมบรรยากาศ และสภาปัตยกรรมที่งดงาม โดยเฉพาะเพดานที่งามมาก และเมื่อเวลาผ่านมาจนถึงปัจจุบัน เราก็รู้สึกได้ว่าสถาปัตยกรรมนั้นยังคงไว้ซึ่งความงดงาม เป็นสิ่งที่เห็นกี่ครั้ง เราก็ยังรู้สึกว่าอยากให้โรงหนังแห่งนี้ยังคงอยู่ เพราะที่นี่คือประวัติศาสตร์ของวงการบันเทิงที่ยังเหลืออยู่แต่เดิมนั้นโรงภาพยนตร์ 3 โรงคือ สยาม ลิโด้ สกาล่า เราจะคุ้นเคยกับโรงหนังสยามกันมากที่สุด เพราะอยู่ริมถนน ลงรถเมล์มา เราก็เข้าโรงหนังได้ทันที เป็นทำเลที่ถูกใจคนดูหนังมาก ส่วนถ้าจะมาโรงหนังสกาล่า ก็ต้องเดินเข้ามาในซอย แต่สิ่งสำคัญที่สุดก็อยู่ที่ว่าเราเลือกที่จะดูหนังเรื่องอะไร โรงหนังทั้งสามโรงนี้ให้ความบันเทิงกันคนดูหนังมายาวนาน กระทั้งโรงภาพยนตร์สยามถูกวางเพลิงช่วงปี 2553 ซึ่งเป็นช่วงที่มีการชุมนุมทางด้านการเมือง จากนั้นสัญญาเช่าโรงภาพยนตร์ลิโด้กับจุฬาฯ ก็หมดลง ตามมาด้วยโรงภาพยนตร์สกาล่าที่จะหมดสัญญาเช่าปลายปีนี้ ที่ผู้คนจำนวนมากอยากให้อนุรักษ์สกาล่าไว้เป็นโบราณสถาน แต่ก็เป็นได้เพียงแค่ความคิดที่อยากให้เกิดขึ้น เพราะเราไม่รู้เลยว่าหลังจากหมดสัญญาแล้วจะเป็นอย่างไรต่อไป แต่ที่แน่ ๆ ผลจากที่โรงภาพยนตร์ต้องปิดตัวเพราะการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้สกาล่าปิดตัวลงโดยปริยายความทรงจำที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้เขียนอีกสิ่งก็คือ โรงภาพยนตร์สกาลา ร่วมกับหอภาพยนตร์จัดโครงการ "ทึ่ง ! หนังโลก" โดยจัดให้มีหนังดังในอดีตเข้าฉายทุกวันอาทิตย์ที่ 2 ของเดือน รอบ 12.00 น. เพียงเดือนละ 1 เรื่อง ต่อเนื่องหลายเดือน ซึ่งคนรักหนังจะได้ดูหนังดี หนังดังในอดีต อาทิ รักในม่านเมฆ, 7 Samurai, West side story, Grease in the word, E.T. ฯลฯ เราจึงได้ดูหนังที่ดีที่หาดูได้ยาก ในสถานที่ซึ่งยังคงไว้ด้วยความคลาสสิค จอหนังใหญ่อย่างเมื่อ 30 กว่าปีที่แล้ว แต่เพิ่มเติมขึ้นมาคือระบบเสียงที่ดีขึ้นกว่าเมื่อก่อน เป็นความสุขอย่างมาก โรงภาพยนต์ย่านสยามสแควร์ในความทรงจำ เริ่มจากโรงภาพยนตร์สยาม ที่ฉายหนังเรื่อง "Battle of the Bulge"ครั้งแรกในปี 2509 โรงภาพยนตร์ลิโด้ ฉายหนังเรื่อง "Guns For San Sebastian" ครั้งแรกในปี 2511 ได้ปิดตัวไปแล้ว และอีกไม่นาน โรงภาพยนตร์สกาล่าที่ฉายหนัง "The Undefeated" ครั้งแรกในปี 2512 สิ่งที่เราทุกคนจะได้เห็นก็คือ "ปิดตำนาน โรงภาพยนตร์สกาลา" ...เป็นความเสียใจ เสียดาย ... ที่จะเป็นได้เพียงความทรงจำตลอดไป..."โรงภาพยนตร์สกาล่า" ถือเป็นโรงภาพยนตร์เดี่ยว หรือ สแตนอโลน (Stand Alone) โรงเดียวที่เหลืออยู่ในใจกลางเมือง มีภาพยนตร์เด่นๆ ของโลกมาจัดที่นี่จนนับไม่ถ้วน ถือเป็นประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ที่งดงามของสยามประเทศ แต่ก็อดที่จะเเปลกใจไม่ได้ว่า .. ไฉนสถานที่ที่งดงามด้วยสถาปัตยกรรมอย่างนี้ อุดมด้วยประวัติศาสตร์แห่งภาพยนตร์เพียงนี้ กลับไม่มีหน่วยงานใดของราชการยื่นมือเข้ามาดูแลรักษาไว้เป็นมรดกของชาติ...ขอบคุณภาพประกอบจาก- Facebook โรงหนังสกาล่า- ครูบอยด์ พิศาล พัฒนพีระเดช นักแสดง และ ครูสอนการแสดง