ต่าย ชุติมา อัพเดตครอบครัว ใช้สิทธิ์คนละครึ่ง ดูแลลูกกับอดีตสามี ลั่น โสดไม่มีใคร
ต่าย ชุติมา อัพเดตครอบครัว ใช้สิทธิ์คนละครึ่ง ดูแลลูกกับอดีตสามี ลั่น โสดไม่มีใคร
ต่าย ชุติมา อัพเดตครอบครัว - วันที่ 1 ก.พ. 64 ที่ Dad Studio นักแสดงสาว ต่าย ชุติมา ทีปะนาถ มาร่วมถ่ายฟิตติ้ง ละครเรื่อง “เมียหลวง” จากนั้นได้ให้สื่อมวลชนสัมภาษณ์ถึงเรื่อง การแบ่งเวลาเลี้ยงลูก น้องพิพิม เพื่อกลับมารับงานละคร พร้อมแจงถึงสัมพันธ์กับสาวหล่อที่ลงรูปด้วยกัน หลังคนจับตาว่าเป็นคนพิเศษ
-
ต่าย-ชุติมา เผยคำตัดสิน ถูกทำร้ายร่างกายจริง มีผลกระทบต่อจิตใจ
-
ทิม น้ำตาซึม! ทนไม่ได้ ลูกทุกข์ทรมาน ฟ้องหย่า ต่าย แล้ว ศาลสั่งพ่อดูแลลูก-เผยปัญหา(คลิป)
กลับมารับงานละคร “ก็โอเค เพิ่งกลับมาเมื่อตอนปีที่แล้ว ปีนี้ก็จะมากขึ้น ดีเหมือนได้เคาะสนิมมาก่อน”
รับไว้กี่เรื่องสำหรับงานแสดง “ตอนนี้ 2 เรื่องค่ะ”
แบ่งเวลาดูแลครอบครัวยังไง “ให้คิวเฉพาะวันที่เราว่าง”
ลูกโอเคใช่ไหม เพราะว่าต้องมาถ่ายละคร “เราแบ่งเวลาอยู่แล้ว ถ้าวันไหนลูกไม่อยู่ถึงจะรับงาน”
ที่บอกว่าเคาะสนิทคือยังไง “ก็เหมือนว่าจะต้องซ้อมเยอะๆ ตอนเด็กๆจะความจำดี ตอนนี้อาจจะต้องทบทวน มีการต่อบทมากขึ้น”
ถามเรื่องคดี เรื่องลูกที่ผ่านมา เป็นยังไงบ้างจบหรือยัง “จริงๆก็เหมือนเดิมตั้งนานแล้ว ตั้งแต่แรก ตอนนี้ก็เหมือนเดิมมาตลอด คือสิทธิ์คนละครึ่งอยู่แล้ว”
ณ วันนี้ สบายใจมากขึ้นหรือยัง “เวลาก็ช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้นอยู่แล้ว”
ลงตัวแล้วการแบ่งเวลาเลี้ยงดู “ก็ถ้ามีปัญหาก็แก้กันไป”
ในเรื่องของกฎหมาย “ก็ไม่มีอะไร จริงๆตั้งแต่แรก ตั้งแต่ต้นจนจบก็มีสิทธิ์กันคนละครึ่งอยู่แล้ว”
ได้มีโอกาสเจอน้องบ่อยมากขึ้นไหม “เนี่ย ไม่เข้าใจประโยคนี้มากๆเลย เจอใครก็โดนถามแบบนี้ คือเราเจอน้องเท่าเดิม แต่แบ่งกันดูคนละครึ่ง เราก็รู้สึกว่าเราแบ่งหน้าที่ คนชอบคิดว่าเราไม่ได้เจอเราเจอตลอด”
ต่ายอยู่กับลูกตลอดเวลา “ใช่ แต่ชอบโดนถามแบบนี้ เพราะว่าอาจจะตอนที่มีข่าว อะไรที่ทำให้เข้าใจผิดช่วงนั้น รูปในไอจีเราก็ลงกับลูกตลอดเวลา”
แสดงว่าลูกส่วนใหญ่อยู่กับเรา “ใช่ค่ะ จริงๆก็ส่วนใหญ่ อย่างปิดเทอมลูกก็มาอยู่กับเราวันธรรมดา”
น้องเป็นยังไง “พัฒนาการตามอายุ แต่ก็มีความรู้สึกว่าเขาเป็นผู้ใหญ่กว่าอายุนิดหนึ่ง หรือว่าบางทีพ่อแม่เนอะ ว่าอุ๊ย ทำไมลูกพูดประโยคนี้ ประมาณเซอร์ไพรส์ค่ะ”
เขาปรับตัวได้ใช่ไหม กับการไปๆมา “คุยด้วยความเข้าใจ ถ้าเกิดเขามีอะไรกังวลใจ เราก็จะคุยด้วยเหตุผล”
ถ้าโตขึ้นเขา เข้าเน็ตแล้วดูข่าวเรา “อันนี้อีกนานค่ะ เดี๋ยวค่อยคิด”
ต้องสร้างภูมิให้เขาก่อน “ใช่ค่ะ แต่ถึงว่าเราไม่ได้อยู่ตรงนี้ เราก็จะเป็นคนที่อยากให้เขาโตมากับความที่ไม่ใช่ไข่ในหิน ให้มีภูมิ เพราะเดี๋ยวนี้โลกโหดร้าย ก็อยากให้เขาแข็งแรง มีอะไรเราก็จะคุย เราเป็นคนพูดตรงอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นกับคนในครอบครัวยิ่งพูดตรงมากๆ”
ทุกวันนี้ โอเคแล้ว แฮปปี้ “ตั้งแต่ (หัวเราะ) ให้คิดเอง”
มีใครเข้ามาไหม “เหมือนที่เคยตอบ คือไม่ได้เปิด ไม่ได้ปิดอะไรแต่ถ้ามันจะใช่ หรือมันจะอะไรก็ ถ้าจะเจอก็เจอเอง”
มีสาวหล่อ ที่ลงรูปไว้ “อันนั้นคือลงไว้ว่าเป็นเพื่อน แต่พาดหัวว่าเป็นคนคุย อันนี้งง”
เป็นมายังงไง “ก็สนิทกันมาตั้งแต่มัธยม ก็ลงว่ามีคนชอบมาถ่ายรูปแกว่าเป็นกิ๊กฉันนะ แต่สรุปคือโดนพาดหัวว่าเป็นคนคุย”
ก็ชี้แจงว่าเป็นเพื่อนสนิท “ใช่ๆ เป็นรุ่นน้อง แล้วเคยทำงานด้วยกัน”
หลายคนเข้าใจว่าคุยกับสาวหล่อ “ก็กลัวผลกระทบนะ ก็จะมีทาเก็ตนี้เข้ามาประมาณนั้น”
มาเยอะไหม ไดเร็กต์หรือเปล่า “ไม่ๆ ไม่ได้ไดเร็กต์ ถามว่าโอเพ่นไหม ก็ไม่ได้โอเพ่น แต่ถ้าเราเจอคนที้ใช่ มันก็ใช่”
เรื่องหัวใจตอนนี้เป็นยังไงบ้าง “ก็อย่างที่บอกเมื่อกี้ว่า ไม่ได้เปิด ไม่ได้ปิด แต่ถ้ามันใช่ ถ้าเจอก็คงจะมีรูปว่าคนนี้แหละ ไม่ได้หา ไม่ได้รอ หรือไม่ได้แบบว่าให้ใครมาแนะนำ และถึงคนไม่ใช่ ต่อให้เป็นคนดีมาก เทคแคร์เราหรือเปย์เราขนาดไหนก็ไม่ใช่ ก็คือไม่ใช่”