รีวิวหนัง "The Long Walk เกมเดินมรณะ" พลังหดหู่อันงดงาม สะพรั่งออกมาเป็นย่างก้าว..ขมขื่น

คงไม่ใช่สิ่งแปลกใหม่ใด ๆ ที่จะหยิบเอางานเขียนของตัวพ่อนักเขียนนิยายลึกลับเขย่าขวัญของอเมริกา อย่าง "สตีเฟ่น คิง" มาขึ้นจอใหญ่ เพราะผลงานจากปลายปากกาของเขาผู้นี้ถูกนำมาดัดแปลงเป็นหนังและซีรีส์ในวงการอยู่เสมอ และล่าสุดก็เป็นคิวของ "The Long Walk เกมเดินมรณะ" หนึ่งในงานเขียนระดับมาสเตอร์พีชของตำนานผู้นี้ ที่นับว่าเป็นงานเขียนชิ้นแรก ๆ ที่โด่งดังจากการเขียนเพียงไม่นาน และบัดนี้มันก็ได้กลายเป็นหนัง..สมใจ
เมื่อสงครามได้นำมาสู่ความพังทลายของเศรษฐกิจทุก ๆ ทางในโลกใบเดิม กลายเป็นกฎหมายใหม่ ๆ ของผู้นำที่หวังจะผลักดันให้ประเทศชาติกลับขึ้นไปเป็นชาติมหาอำนาจได้อีกครั้ง ก่อกำเนิดเป็นเกมถ่ายทอดสดไปทั่วประเทศ ที่คัดเกณฑ์จากเด็กหนุ่มผู้สมัครจากทั่วสารทิศ เข้าร่วมการแข่งขันประจำปีที่รู้จักกันในชื่อ The Long Walk การเดินทรหด ที่มีกฎห้ามหยุดเดิน ห้ามเดินช้ากว่า 4 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ห้ามหนีออกนอกเส้นทาง และไม่มีเส้นชัย บทสรุปก็คือเหลือผู้ชนะจากการย่างก้าวเดินเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น
ต้นฉบับงานเขียนเรื่อง The Long Walk ของ สตีเฟ่น คิง ตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1979 อาจจะถือว่าเป็นงานเขียนลำดับที่ 6 ของเขา ที่เป็นงานแรก ๆ ที่เขาได้ละเลงสร้างโลกในยุคดิสโทเปียสุดหลอนขึ้นมา พร้อมกับกลิ่นอายการจิกจัดชนชั้นการปกครองได้อย่างแสบสันต์ ผ่านตัวละครเด็กหนุ่มที่กำลังมีอนาคตที่สดใส เรียกได้ว่าผลงานที่มีอายุเกือบ 50 ปีแล้วอย่างเรื่องนี้ เมื่อถูกหยิบนำมาสร้างเป็นฉบับคนแสดงในยุคนี้ ก็ยังมีข้อความที่ทรงพลังและไม่หลงยุคหรือล้าสมัยเลยสักนิดเดียว
และอาจจะเป็นโชคดีที่ได้ตัวพ่อตัวแด๊ดที่ถนัดมือกับหนังแนวนี้โดยเฉพาะ อย่าง "ฟรานซิส ลอว์เรนซ์" ลงมาบริหารจัดการดูแลงานสร้างหลังกล้องให้ พร้อมกับได้ "เจที มอลเนอร์" มาช่วยดัดแปลงบทหนังเรื่องนี้ออกมาให้ กลายเป็นส่วนผสมที่ค่อนข้างลงตัวด้วยดี เพราะฟรานซิสก็คือคนที่ละเลงสรรค์สร้างตำนานหนัง The Hunger Games ออกมาได้เปรี้ยงปังเป็นปรากฏการณ์นั่นเอง จึงทำให้งานชิ้นนี้ในมือของเขา ค่อนข้างเข้าทางและเข้ามือได้เป็นอย่างดี
ถึงแม้ว่าในแง่สตอรี่และการร้อยเรียงเรื่องราวใน The Long Walk อาจจะไม่ได้หวือหวามากมายนัก เพราะขอบเขตที่มีพื้นที่จำเพาะของหนัง อาจจะตีกรอบให้ผู้ชมได้สำเร็จด้านต่าง ๆ ระหว่างเส้นทางเดินของเด็กหนุ่มไปด้วยเท่านั้น ทำให้แกนหลักของเรื่องก็ไม่ต่างจากการพาคนดูออกเดินเท้าไปพร้อม ๆ กับตัวละครด้วย โดยที่อาจจะไม่ได้เสริมการสำรวจมุมมองอื่น ๆ ได้มากเท่านั้น ผู้สร้างตั้งใจที่จะให้โฟกัสที่ตัวละครหลากหลายมากมายที่อยู่ตรงหน้าเสียก่อน ซึ่งนั่นก็ถือว่าเป็นจุดเด่นของหนังที่ดีเช่นกัน
องค์ประกอบงานสร้างของหนังเรื่องนี้ สามารถไว้วางใจได้สบาย ๆ เพราะว่าแต่ละฝ่ายต่างรู้หน้าที่ในการรังสรรค์และประกอบร่างผลงานออกมาได้กลมกล่อมดี งานถ่ายภาพของ "โจ วิลเลมส์" ตากล้องคู่บุญจากหนังชุด เกมล่าสุด ยังกลับมาร่วมงานอีกครั้ง และยังได้มือตัดต่อ "มาร์ค โยชิคาวะ" มาดูแลในการร้อยเรียงเล่าเรื่องในหนังเรื่องนี้ออกมาได้อย่างเป็นมั่นเป็นเหมาะ พร้อมกับสอดแทรกสไตล์กับลีลาออกมาได้อย่างลงตัว
อีกส่วนประกอบที่ค่อนข้างน่าสนใจก็คือเพลงประกอบที่คลอไปตลอดทั้งเรื่อง พร้อมกับช่วยบิวท์ส่งเสริมอารมณ์ในแต่ละฉากได้ดี จากฝีมือการประพันธ์ของ "เจอเรไมอาห์ ฟราทีส์" แห่ง The Lumineers ตัวพ่อนักแต่งเพลงอินดี้โฟลก์ ที่ใช้เครื่องสายเน้นจังหวะเร้าอารมณ์มาช่วยปลุกใจในตัวหนังได้ค่อนข้างมั่นเหมาะ และกลายเป็นอีกหนึ่งส่วนที่ช่วยพยุงอารมณ์ของหนังเรื่องนี้ได้อย่างเพิ่มพูน
ตามต้นฉบับนิยายนั้น กลุ่มเด็กหนุ่มที่เข้าร่วมการแข่งขันเดินมรณะมีจำนวนค่อนข้างเยอะมาก น่าจะประมาณ 100 คนได้ แต่เมื่อปรับมาเป็นเวอร์ชันหนัง ก็จำเป็นจะต้องปรับลดทอนลงไป แม้ว่าตัวหนังจะไม่ได้ระบุแน่ชัดว่ามีกี่คน แต่จากหมายเลขประจำตัวผู้เข้าแข่งขันก็ทำให้เชื่อว่ามีราว ๆ 50 คน โดยที่หนังให้ความสำคัญหลัก ๆ กับตัวละครประมาณ 7-8 ตัว ที่กลายเป็นการเกลี่ยเฉลี่ยบทบาท รวมทั้งการเน้นความสำคัญของคาแรกเตอร์ได้อย่างน่าประทับใจ สามารถเสริมเสริมและเพิ่มมิติให้กับทุกตัวละครที่จำเป็นได้อย่างทรงพลังดี
"คูเปอร์ ฮอฟแมน" ดาราหนุ่มดาวรุ่งที่น่าจะเป็นมีโอกาสเล่นหนังสตูดิโอเป็นครั้งแรก ก็สายแววความทรงพลังทางการแสดงได้อย่างน่าประทับใจ เป็นลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น เพราะเขาก็คือลูกชายของดาราเจ้าของรางวัลออกสาร์ผู้ล่วงลับ ฟิลิป ซีมัวร์ ฮอฟแมน นั่นเอง ถ่ายทอดบทบาทออกมาได้เปล่งปลั่ง ชนิดที่บทส่งคน-คนส่งบทได้เป็นอย่างดี
เช่นเดียวกับ "เดวิด จอนส์สัน" มอบการแสดงในลักษณะน้อยแต่มากมาในหนังเรื่องนี้ นี่คือตัวละครที่เต็มไปด้วยมิติมากมายที่คอยเอาไว้ประคองสติกับทุกสถานการณ์ได้ดีโดยเฉพาะ และยังเสริมด้วย "การ์เรตต์ แวร์ริง", "เบน หวัง", "ทุท นยูออต", "ชาร์ลี พลัมเมอร์" ไปจนถึงรุ่นใหญ่ "มาร์ค ฮามิล" กับ "จูดี เกียร์" ที่องค์ประกอบในส่วนการแสดงของเรื่องนี้ แม้ว่าส่วนใหญ่จะเป็นดาวรุ่งหน้าใหม่ล้วน ๆ แต่พวกเขาประคับประคองปล่อยฝีมือการแสดงออกมาได้เปล่งประกาย ไม่จมไม่หายไปจากหนังเรื่องนี้เลยสักคนเดียว
แต่จะว่าไป The Long Walk เกมเดินมรณะ อาจจะไม่ใช่หนังระทึกสไตล์โครมครามใด ๆ และถ้าหากว่าจะคาดหวังได้เห็นการไล่ล่าและชั้นเชิงในการเล่นเกมใด ๆ จากหนังเรื่องนี้ ก็คิดว่าน่าจะต้องพากันผิดหวัง เพราะดูเหมือนว่าข้อความหลักที่สำคัญของหนังเรื่องนี้เป็นเหมือนกระบอกเสียงที่สะท้อนสังคมในอีกมุมมอง ที่เผยให้เห็นปัญหาความเหลื่อมล้ำและความขมขื่นที่ยังปะปนอยู่ในสังคมไม่ว่าจะยุคสมัยใด ที่ใช้วิธีการร้อยเรียงผ่านไดอะล็อกที่ปั้นออกมาอย่างงดงามและทรงพลังของทุก ๆ ตัวละคร
แอบประหลาดใจไม่น้อย กับการเขียนอายุกว่า 40 ปี ที่เพิ่งถูกนำมาสร้างเป็นหนังในศักราชนี้ แต่หลาย ๆ องค์ประกอบแทบไม่เก่าไปจากยุคสมัยปัจจุบันเลย ทุกประโยค ทุกถ้อยคำ ที่ตัวหนังได้เปล่งและเรียบเรียงออกมายังคงสะท้อนถึงสังคมทุกวันนี้ได้อย่างกล้าแกร่ง The Long Walk เรื่องนี้อาจจะเป็นหนังเขย่าขวัญที่ปะปนไปด้วยวาทะกรรมทางการเมืองและการปกครองสอดแทรกไปตลอดทั้งเรื่องสักหน่อย ยังไม่ใช่หนังที่เสิร์ฟเพื่อความบันเทิงเต็มร้อย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า...มันทรงพลังดียิ่งนัก
ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง The Long Walk เกมเดินมรณะ
- ประเภท: ระทึกขวัญ / ดรามา
- ผู้กำกับ: ฟรานซิส ลอว์เรนซ์
- นำแสดงโดย: คูเปอร์ ฮอฟแมน, เดวิด จอนส์สัน, มาร์ค ฮามิล, การ์เร็ตต์ แวร์ริง
- ความยาว: 108 นาที
- กำหนดฉายในไทย: 11 กันยายน 2025
Movie.TrueID METRIC: The Long Walk เกมเดินมรณะ
- ⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰ (8.0/10)
- การเล่าเรื่อง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (7.4/10) - การแสดง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰ (8.4/10) - เทคนิคงานสร้าง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰ (8.1/10) - บทภาพยนตร์
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (7.7/10)
-------------------------------------
>> ดูหนังออนไลน์ได้ที่ Movie.TrueID <<
หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับทรูไอดีสามารถเข้าไปได้ที่ TrueID Help Center เป็นช่องทางใหม่ที่ให้ข้อมูลและการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเกี่ยวกับทรูไอดี คลิกเลย >> https://bit.ly/3xEgdAa