(ภาพปกถ่ายโดยผู้เขียน) โดยปกติเราชอบดูหนังมาก แต่ช่วงนี้โรงหนังปิดเพราะโควิด 19 ทำพิษ และพวกเราทุกคนก็จำเป็นต้องกักตัวอยู่กับบ้าน เพราะฉะนั้นสิ่งที่พอจะทำได้คือเอาหนังเก่าที่ซื้อเก็บไว้มาดู เราชอบหนังแนวรักโรแมนติกเป็นพิเศษ พอเปิดตู้ก็จะมองหาหนังแนวนี้ก่อนเสมอ ถือว่าโชคดีที่ซื้อไว้เยอะ เลยเปิดวนให้หายอยาก และหนังรักเรื่องหนึ่งที่ดูซ้ำแล้วอยากจะชวนคนอื่นดูด้วยคือ Dear John Dear John ออกฉายในปี 2553 นำแสดงโดย อาแมนด้า ไซเฟร็ด (Amanda Seyfried) และ แชนนิง เททัม (Channing Tatum) (ภาพถ่ายโดยผู้เขียน) หน้าปก DVD ตอนนั้นที่หนังเข้าฉาย เราอยากดูเพราะสร้างจากนิยายของ นิโคลัส สปาร์คส์ (Nicolas Sparks) นักเขียนนิยายรักโรแมนติกชื่อดัง เชื่อว่าใครที่ชอบอ่านแนวนี้น่าจะรู้จักเขาดี เพราะมีผลงานดัง ๆ เรียกน้ำตาหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น A Walk to Remember, The Notebook, Message in a Bottle เรามักจะซื้อนิยายมาอ่านก่อน แล้วค่อยดูหนัง แต่เรื่อง Dear John นี่ไม่เคยอ่านนิยายเลย เหตุผลอีกอย่างที่อยากดู Dear John ก็เพราะชอบอาแมนด้า ไซเฟร็ด ซึ่งตอนนั้นดังมาก แล้วก็ชอบพระเอกก้ามปูอย่างแชนนิง เททัม ด้วย(ภาพถ่ายโดยผู้เขียน) หน้าปก DVD หลังจากดูหนังจบเป็นครั้งที่สาม ความรู้สึกคือหนังไม่ได้หวือหวา เดินเรื่องแบบเรียบ ๆ แต่ตอนจบก็ถือว่าลงตัวในแบบที่ควรจะเป็น ถือว่าเป็นหนังที่ดูแล้วได้มุมมองดี ๆ ซึ่งไม่ใช่แค่เรื่องความรักระหว่างชายหญิงเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีความรักความรับผิดชอบในรูปแบบอื่น ๆ ด้วย เราจะขออธิบายว่าทำไมถึงอยากชวนมาดูหนังเรืองนี้กันหนังสื่อให้รู้ว่าบางครั้งความรักอาจไม่ใช่สิ่งที่ต้องมาก่อนเป็นอันดับแรกเสมอไป ในเรื่องอาแมนด้ารับบทเป็นซาวันนาห์ ส่วนแชนนิงรับบทเป็นจอห์น ทั้งคู่รักกันมาก แต่ซาวันนาห์เป็นคนที่มีความรับผิดชอบและมักจะนึกถึงคนอื่น ไม่ใช่แค่ตัวเอง เธออุทิศตนให้ผู้ป่วยออทิสติก และท้ายที่สุดแล้วเธอก็เลือกหน้าที่ความรับผิดชอบก่อนความรัก ถึงจะดูแล้วขัดใจ แต่ถ้าคิดดี ๆ จะพบว่าซาวันนาห์เป็นคนที่น่ายกย่อง เพราะยอมเสียสละความสุขส่วนตัวทำเพื่อผู้อื่น ส่วนจอห์นก็เลือกหน้าที่ก่อนเช่นกัน เขาจึงต้องแยกจากซาวันนาห์ และถึงขั้นทำให้ต้องพลาดการทำหน้าที่สำคัญในชีวิตไป ซึ่งประเด็นนี้ต้องบอกเลยว่า คนดูอย่างเราถึงขั้นเสียน้ำตาเพราะเสียดายโอกาสนี้ของพระเอกที่ไม่สามารถเรียกอะไรกลับคืนมาได้ (ภาพถ่ายโดยผู้เขียน) แผ่น DVD หนังทำให้รู้ว่าความรักความผูกพันระหว่างพ่อกับลูกนั้นยิ่งใหญ่เสมอ นอกจากความรักของจอห์นกับซาวันนาห์แล้ว ความรักที่พ่อของจอห์นมีต่อจอห์นก็เป็นสิ่งที่น่าซาบซึ้งด้วยเช่นกัน แต่ด้วยความที่พ่อของจอห์นแตกต่างจากคนทั่วไป จอห์นจึงไม่เข้าใจการแสดงออกและพฤติกรรมของพ่อ จนถึงขั้นเข้าใจผิด น้อยใจ และห่างเหินกันในที่สุด ซึ่งถือว่าน่าเศร้ามาก หนังทำให้เกิดความอิ่มเอมใจ ใครที่เชื่อในความรักที่มั่นคง หลังจากดู Dear John แล้วน่าจะอมยิ้ม เพราะต่อให้ต้องเจออุปสรรคและบทพิสูจน์มากมาย แต่จอห์นและซาวันนาห์ก็ยังคงรักกันมาก ส่วนใครที่เชื่อเรื่องพรหมลิขิต บทสรุปของหนังก็ตอกย้ำให้รู้สึกว่า อะไรที่ใช่ ถึงอย่างไรก็ใช่ แต่ถ้าไม่ใช่ ต่อให้ดิ้นรนแค่ไหน ยังไงก็ไม่ใช่อยู่ดี (ภาพถ่ายโดยผู้เขียน) ปกหลัง DVDหนังไม่มีเรื่องฐานันดรเข้ามาเกี่ยวข้อง หนังเรื่องนี้ค่อนข้างแปลกจากเรื่องอื่น ๆ ที่เคยดูมา เพราะไม่มีเรื่องการแบ่งชนชั้นใด ๆ ทั้งสิ้น เวลาดูเลยรู้สึกโล่ง ๆ สบาย ๆ ไม่มีการเหยียด ไม่มีการแยกว่าใครรวยใครจน ตัวละครที่ฐานะดีไม่ได้รังเกียจตัวละครที่แย่กว่าเลยแม้แต่น้อย แต่กลับให้ความช่วยเหลือและรู้สึกเห็นอกเห็นใจด้วยซ้ำ Dear John เป็นหนังรักที่ดูง่าย ๆ สบาย ๆ ครอบครัวไหนที่ต้องเก็บตัวอยู่บ้านและมีคนข้าง ๆ อยู่ด้วย ลองหาโอกาสเปิดดูด้วยกันน่าจะดี ถือว่าช่วยเติมความหวานให้แก่กัน และจะได้ซึมซับความรักในแง่มุมต่าง ๆ ที่มีทั้งหวานชื่นและเจออุปสรรค แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ จะได้เห็นความรักที่มั่นคงระหว่างจอห์นกับซาวันนาห์ที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจได้เป็นอย่างดี