Series ReviewDragon Sakura S2 นายซ่า ท้าเด็กแนว 2 (2021)คงสถานะและชั้นเชิงแบบมังงะไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม ปลุกเร้า ฮึกเหิม ซาบซึ้ง กับเปลือกที่แข็งแรงห่อความคมคายไว้ได้อย่างสวยงามเมื่อครั้งที่ผู้เขียนยังเด็กในยุคที่โทรทัศน์มีเพียงไม่กี่เครื่องในหมู่บ้านในชนบทตอนเหนือของจังหวัดเชียงใหม่ที่อย่าว่าแต่โทรทัศน์เลยไฟฟ้าที่บ้านผู้เขียนยังไม่มีนั้น ความบันเทิงที่หาได้คือการอ่านล้วนๆที่ทำให้ผู้เขียนกลายเป็นคนรักการอ่านและการอ่านก็ส่งผลมายังการเขียนแน่นอนจุดเริ่มต้นของคนชอบอ่านจะเริ่มที่หนังสือที่มีภาพประกอบ แล้วการ์ตูนก็คือหนึ่งในนั้นผู้เขียนจึงได้รู้จักกับการ์ตูนญี่ปุ่นที่ปัจจุบันลูกชายคนเล็กห้ามเรียกว่าการ์ตูนเพราะมันคือมังงะ และเชื่อหรือไม่ว่าการอ่านมังงะโบราณของผู้เขียนนั้นได้ส่งผลต่อทัศนคติการใช้ชีวิตและการมองโลกของตัวเองด้วยการซึมซับเอาสิ่งเหล่านั้นที่ถูกแฝงไว้ในมังงะที่อ่านเสมอมา ซึ่งบางเรื่องก็มีแหกคอกนอกรอบแต่ก็สามารถมอบมุมมองชีวิตที่อยู่ในกรอบได้อย่างแหลมคมนั่นคือการแหกขนบที่มองโลกด้วยคามเป็นจริงยกตัวอย่างเช่นมังงะในตำนานอย่าง GTO แล้วก็มาถึงเรื่องนี้ที่กำลังจะเขียนบทความถึงการนำมังงะแนวแหกคอกนอกกรอบมาขึ้นจอในแบบ Live Action ได้อย่างสนุกที่แม้จะไม่เคยอ่านแต่สัมผัสถึงความเป็นมังงะแนวนี้ได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ทัตสึมิกาคุเอ็นคือโรงเรียนที่กำลังประสบภาวะวิกฤติเพราะจำนวนนักเรียนทีสมัครเข้าเรียนลดน้อยลงจนอาจจะถึงเวลาต้องบอกลาสารบบแถมยังมีชื่อเสียงด้านนักเรียนที่หัวทึบ ทางรอดทางเดียวคือการสร้างชื่อเสียงด้านวิชาการด้วยการผลักดันนักเรียนชั้นปีสุดท้ายให้สอบเข้ามหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งอย่างมหาวิทยาลัยโตเกียวให้ได้ แต่นั่นไม่ง่ายเพราะผลการเรียนของนักเรียนก็ย่ำแย่ทางออกที่มีคือการจ้างครูพิเศษและหวยก็มาออกที่ทนายความสาวนาโอมิ มิซูโนะ (มาซามิ นากาซาวาระ) ที่อดีตเป็นเด็กหัวทึบแต่สอบเข้ามหาวิทยาลัยโตเกียวได้เพราะการถูกเคี่ยวกรำจากทนายความแหกกรอบเคนจิ ซากุรางิ (ฮิโรชิ อาเบะ) และมิซูโนะก็ต้องการความช่วยเหลือจากซากุรางิเพื่อมากอบกู้โรงเรียนทัตสึมิกาคุเอ็นให้เด็กอย่างน้อยห้าคนสอบเข้ามหาวิทยาลัยโตเกียวได้ แต่เด็กๆก็ใช่วาจะรับมือง่ายซากุรางิและมิซูโนะจึงต้องเผชิญกับการท้าทายหลากหลายรูปแบบจากการต่อต้านของเด็กๆ แต่ซากุรางิก็เก๋าพอที่จะทั้งตบทั้งประคองเด็กๆเหล่านั้นให้เข้าทางแต่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัยโตเกียวกันได้หรือไม่นะคงสถานะงานสร้างจากมังงะไว้อย่างครบถ้วนทั้งอารมณ์และชั้นเชิงจึงเป็นความบันเทิงที่ครบสูตร อย่างที่เคยบอกว่าซีรีส์ญี่ปุ่นแท้จะมีสองแบบคือหนึ่งเรียบเรื่อยซึมลึกเก็บเกี่ยวอารมณ์ตั้งแต่ต้นไปจนสูงสุดในตอนท้ายที่จะสร้างจากมังงะหรือไม่ก็ได้ สองคือเลือกเร้าใจไปเป็นตอนย่อยจบในตอนหรือว่านั้นนิดหน่อยแต่ปิดประเด็นหนึ่งไปสู่อีกหนึ่งเพื่อพัฒนาไปสู่เรื่องใหญ่ในตอนท้ายที่ส่วนใหญ่จะมักสร้างมาจากมังงะ นั่นเพราะแบบหลังจะใช้ชั้นเชิงแบบมังงะคือเล่าประเด็นย่อยจบในตอนแล้วค่อยๆปล่อยประเด็นใหญ่ที่ซ่อนไว้ออกมาทีละเล็กทีละน้อยเพื่อสร้างความสงสัย สิ่งที่ตามมาคือระยะสั้นจะมีความเร้าใจเดินไปเร็วด้วยการบีบอารมณ์ด้วยสถานการณ์รอบข้างต่างๆซึ่งเรื่องนี้เริ่มที่การแก้ปัญหาการต่อต้านของตัวละครเด็กนักเรียน แล้วก็พาตัวเองไปลงลึกถึงเบื้องหลังความเป็นตัวตนของนักเรียนแต่ละคนที่ต่างคนก็ต่างปัญหาให้ตัวละครหลักที่ความคิดค่อนข้างแหกกรอบได้แก้ไข แล้วพัฒนาไปสู่เรื่องใหญ่ที่ส่งผลกระทบในภาพรวมที่อาจมีบ้างที่ขาดๆเกินๆแต่อาจต้องยอมรับและทำใจว่ามันสร้างมาจากการ์ตูนเดินเรื่องเร็วแก้ปัญหาไปทีละเปลาะโดยไม่ขยี้ทำให้มีความเร้าใจในความต่อเนื่องเรื่องย่อยไปสู่เรื่องใหญ่ เพราะใช้ชั้นเชิงการเล่าเรื่องแบบมังงะเพราะสร้างมาจากมังงะจึงได้ผลดีทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เพราะในแต่ละตอนที่ปัญหาเข้ามาหาซากุรางิเซนเซย์ทุกอย่างจะจบในระยะสั้นที่ด้วยความเป็นมังงะอีกเช่นกันที่เป็นข้อด้อยนิดหน่อยคือจะไม่เหลือความพลิกผันเพราะคนดูจะรู้ว่าซากุรางิเซนเซย์จะต้องผ่านไปได้แต่จะด้วยวิธีไหนเท่านั้น สิ่งที่ตามมาคือความเข้มข้นเร้าใจในแบบญี่ปุ่นที่จะไม่ดราม่าจัดแม้จะมีช่องให้เล่าแต่เลือกสร้างบทเรียนให้ได้คิดทำให้แต่ละตอนผ่านไปเร็ว แล้วเมื่อเรื่องย่อยทั้งเรื่องส่วนตัวและพื้นฐานทางครอบครัวได้ถูกสะสางก็ถึงเวลาที่เรื่องใหญ่ที่ซ่อนข้างหลังจะมามีบทบาทที่ก็น่าเสียดายอีกที่แม้จะมีความพลิกผันมโหฬารแต่ก็ไม่ได้เกินกว่าที่คาดไว้ อาจเพราะในมังงะมักจะเป็นแบบนี้ที่สารภาพว่าผู้เขียนไม่ได้ดูซีซันที่แล้วมาเลยไม่รู้จักตัวละครที่สืบเนื่องมาก็ทำให้เหวอไปไม่ใช่น้อยเมื่อถึงเวลา ทว่าถ้าว่าในความเป็นซีรีส์บทสรุปก็ดูรวบรัดและง่ายเกินไปแถมยังโลกสวยตามสไตล์ญี่ปุ่นเปลือกและแก่นที่เหมือนย้อนแย้งแต่เปลือกที่สวยงามก็แฝงแก่นที่แหลมคมในการเลือกที่จะใช้ชีวิต ดูเผินๆอาจเหมือนย้อนแย้งเมื่อเลือกสร้างการปะทะกันระหว่างความคิดแบบเก่าคือการเขาเรียนในมหาวิทยาลัยชั้นแนวหน้าให้ได้กับการให้อิสระทางความคิดกับเด็กในแบบความคิดใหม่ แต่เมื่อเวลาเดินไปเปลือกของการคร่ำเคร่งเรียนก็ค่อยๆแง้มออกมาว่าสิ่งที่ว่ามาไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิตแต่ทุกอย่างในชีวิตของเด็กๆคือพวกเขาต้องตัดสินใจด้วยตัวเองซึ่งก็รวมถึงการสอบเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำ นั่นคือการเลือกทางเดินให้ตัวเองที่ต้องก้าวข้ามทุกอย่างแม้กระทั่งทัศนคติในครอบครัวและแรงกดดันมากมายและแน่นอนเรื่องของมิตรภาพที่ยังงดงาม เพราะสุดท้ายแก่นแท้ก็คือการสร้างอนาคตด้วยตัวเองเพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตไม่ใช่การเข้ามหาวิทยาลัยโตเกียว ชัยชนะ หรือผลลัพธ์ แต่เป็นวิธีที่ได้พยายามเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายของตัวเองความพยายามที่ใช้เปลี่ยนชีวิตตัวเอง เส้นทางและความกระตือรือร้นเหล่านั้นและความรักที่มีต่อพวกพ้องต่างหากที่เป็นคุณค่าที่แท้จริงจึงนับเป็นแก่นสารที่แหลมคมยิ่งแม้เปลือกจะดูเหมือนย้อนแย้ง เพราะไม่เคยอ่านมังงะเลยไม่ทราบบุคลิกตัวละครในนั้นแต่เท่าที่เห็นคือความเหมาะสมทุกประการ ด้วยความที่ผู้เขียนไม่เคยอ่านมังงะเลยไม่ทราบว่าพฤติกรรมและความห่ามของตัวละครซากุรางิเซนเซย์ไปได้สุดโต่งขนาดไหนเพราะการเขียนเป็นลายเส้นสามารถทำอะไรได้มากกว่าคนแสดง แต่การไม่ได้อ่านมาก่อนก็ดีเพราะเห็นความเป็นซากุรางิเซนเซย์ในตัวฮิโรชิ อาเบะเต็มที่จนถึงตรงนี้นึกไม่ออกเลยว่าใครจะมาเป็นนายซ่าท้าเด็กแนวได้แสบเหมือนเขา เช่นเดียวกับมาซามิ นากาซาวาระที่คู่ควรอย่างยิ่งในบทคนที่เคยเปลี่ยนชีวิตของตัวเองมาก่อนที่ความที่ผู้เขียนไม่ได้ดูซีซันก่อนเลยไม่รู้ว่าเธอคือตัวละครเก่าจนมาหาข้อมูลจึงทราบ ทั้งนี้ต้องให้เครดิตกับน้องๆที่มารับบทเด็กแนวที่ต่างคนก็ต่างปัญหาให้ซากุรางิเซนเซย์แก้และปรับจูนให้ที่สามารถสร้างความสนุกสนานเร้าใจได้ตอลดทางคือไคโตะ ทาคาฮาชิ,ซาระ มินามิ,ยูรินะ ฮิราเตะ,เซอิชิโร่ คาโตะ,โอจิ ซูซุกะ,ซาระ ชิดะ,คานาตะ โฮโซดะ,จุน นิชิยามะและโช นิชิกาอิที่แสดงเป็นการ์ตูนไปบ้างแต่ใครจะทำไมเพราะนี่คือตัวละครจากการ์ตูนสนุกตามแนวงานสร้างจากมังงะที่ยอดเยี่ยมเพราะทั้งปลุกเร้า ฮึกเหิม ซาบซึ้ง ตื้นตันและมอบบทเรียนชีวิต เพราะสร้างจากมังงะการเล่าเรื่องจึงมาแบบมังงะที่เหมือนเปิดอ่านเป็นตอนๆจนจบเล่มจบภาค แน่นอนการที่ไม่ได้ดูซีซันก่อนเลยไม่รู้จักตัวละครที่มามีบทบาทและมาสร้างเซอร์ไพรส์แต่ไม่ใช่ปัญหาเพราะต่อให้ไม่ได้ดูมาก็พอมองออกว่าซีซันที่แล้วก็คงเป็นแบบนี้แหละ ซึ่งถ้าว่ากันที่เป็นงานสร้างจากมังงะก็อยู่ในระดับงานชั้นเยี่ยมเพราะคงชั้นเชิงและสาระในแบบที่มังงะมีไว้ได้เต็มเปี่ยม เพราะในมังงะชั้นดีแนวแหกคอกนอกรอบเพื่อให้บทเรียนชีวิตแบบนี้จะมีความเข้มข้นเร้าใจในตัวและเรื่องนี้ทำได้อย่างสนุกทั้งที่ว่ากันที่การเรียนเรื่องวิชาการกันทั้งเรื่องที่อาจเหมือนไกลตัวแต่ถ้ามองให้ใกล้มันก็ใกล้ สาระที่มีให้จึงมาหมดทุกอารมณ์ทั้งขำกระจายมาพร้อมดนตรีที่ปลุกเร้าให้ฮึกเหิมที่จะสู้เพื่อฝัน แล้วยังมีเรื่องมิติเชิงมิตรภาพเชิงครอบครัวและความผูกพันของครูกับนักเรียนที่พัฒนามาจากการเหม็นหน้ากันได้ตามแนว แน่นอนมีมิติเชิงลึกให้ได้บทเรียนชีวิตทั้งในการเรียนการคบเพื่อนการมองตัวเองและการเลี้ยงลูกจึงเป็นซีรีส์ชั้นเยี่ยมที่คู่ควรดูสักครั้งดูไปบ่นไปขอบคุณภาพประกอบภาพปก,ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2,3 / ภาพที่ 4,5,6,7,8 จาก Instagram dragonzakuratbs ถ้าคุณชอบเรื่องนี้ คุณจะชอบเรื่องเหล่านี้https://entertainment.trueid.net/detail/kwY0O8VjzXGlhttps://entertainment.trueid.net/detail/lOxbXMoBB970https://entertainment.trueid.net/detail/4MBAl04KaOzYhttps://entertainment.trueid.net/detail/vZY69z7XYoEa จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !