Movie Review Suffocating Love (2024) รักแน่นอก เหนือชั้นบนความง่ายกับการเล่าเรื่องง่ายๆเรื่องทางสามแพร่งของความรักที่ใส่ความน่าสงสัยจนน่าสนใจในเรื่องที่น่าจะง่ายแต่กลายเป็นเหนือ รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! เอาจริงหนังไต้หวันนี่ระยะหลังถ้าผู้เขียนเห็นและรู้ว่าเป็นหนังไต้หวันก็มักไม่พลาดเพราะจากที่เคยชอบเสน่ห์ของงานไต้หวันที่ไม่เหมือนใครกลายมาเป็นความหลงไหล กระนั้นงานไต้หวันจะมีความต่างจากฮ่องกงหรือจีนแผ่นดินใหญ่ที่ไม่ใช่ดีหรือด้อยแต่มีดีกันคนละแบบเรียกได้ว่าเมื่อดูซึ่งต้องดูก่อนถึงจะรู้เพราะผู้เขียนแยกภาษาจีนแต่ละสำเนียงไม่ออก แต่ในความเป็นไต้หวันนั้นบางทีการเล่าเรื่องที่อาจไม่เล่นใหญ่เหมือนไม่เล่นท่ายากโปรดักชันเล็กๆไม่เน้นเทคนิคพิเศษอาศัยการเล่าเรื่องที่ดีผ่านบทที่ดีเป็นตัวนำแม้บางเรื่องคุณแม่บ้านจะค่อนขอดว่าหน้าตาของนักแสดงทางไต้หวันดูจะตามหลังทางจีนหรือเกาหลีอยู่หนึ่งช่วงตัว แต่เมื่อมีการเล่าเรื่องที่ดีบทที่ดีนักแสดงสามารถทำหน้าที่ที่ตัวเองรับผิดชอบได้ดีคุณภาพของงานจึงออกมาดีตามเพราะแม้คุณแม่บ้านจะมีข้อตำหนิเรื่องหน้าตาแต่ถ้าว่ากันที่เนื้อหานางไม่ปฏิเสธว่าหนังไต้หวันมีดีที่จับใจทุกเรื่อง อีกอย่างที่ทำให้หนังไต้หวันสามารถจับใจคนดูไดเสมอคือการเอาเรื่องง่ายๆในชีวิตมาเล่าได้อย่างถึงใจเช่นเรื่องนี้ นี่คือเรื่องของชายหนุ่มธรรมดาคนหนึ่ง (ออสติน หลิน) ที่ได้พบกับไป่เจียฉี (โคลอี้ เฉียง) จากการแลกหนังสือกันอ่านแต่ความน่ารักของไป่เจียฉีก็โดนใจ เขาจึงพยายามหาทางผูกสัมพันธ์แต่ถึงกระนั้นเขาก็มีนางในดวงใจเป็นนางแบบและช่างภาพลูกครึ่งญี่ปุ่นคุโรซาวะ ยูกิ (นิคกี้ ฉี) แล้วเขากับไป่เจียฉีก็ได้คบกันเป็นแฟนและย้ายมาอยู่ด้วยกันแต่ที่แปลกกว่าทั่วไปคือไป่เจียฉีมีกฏมากมายให้เขาปฏิบัติซึ่งก็ไม่มีอะไรแต่มันก็คล้ายการถูกควบคุมชีวิตอยู่ แน่นอนเมื่อเวลาผ่านไปอะไรที่เคยเป็นเรื่องเล็กน้อยที่มองข้ามไปได้เรื่องความรักก็จะขยายใหญ่ขึ้นความรู้สึกกดดันจึงเริ่มเข้ามาปัจจัยแทรกซ้อนก็จะตามมาและในที่นี้คือรักเก่าเมื่อครั้งอดีตที่เข้ามาในฐานะลูกค้าคือหลินอ้ายฉวน (ดา หยวน) และแล้วความเป็นอิสระในชีวิตก็ทำให้เขาเปลี่ยนไปจนคืนหนึ่งที่เขาตั้งใจให้ไป่เจียฉีจับได้เพื่อจะสิ้นสุดความสัมพันธ์ในความฝันเขาได้อธิษฐานหนึ่งข้อแล้วเมื่อตื่นขึ้นมาคำอธิษฐานกลายเป็นจริงเมื่อเขากำลังคบกับคุโรซาวะ ยูกิแต่ทุกดอย่างต้องมีการแลกเปลี่ยนทั้งสิ้นแต่จะเป็นอะไรนะ เหมือนง่ายด้วยการเล่าเรื่องง่ายๆเดิมๆที่เคยๆเรื่องทางสามแพร่งของความรักที่ดูไปก็ไม่น่าจะมีอะไรแต่ดันมีอะไรจนกลายเป็นเหนือชั้น นี่คือหนังรักที่เล่าเรื่องความรักที่มักเป็นพิษที่ใครๆก็สามารถเจอได้ไม่ว่าใครจะนิยามความรักว่าอย่างไร เรื่องชายหนุ่มหนึ่งคนที่ก็เป็นคนธรรมดาที่มีนางในดวงใจที่เกินไขว่คว้าได้พบรักกับหญิงสาวธรรมดาที่มีข้อดีมีข้อเสียแต่เมื่อรักแล้วก็ต้องยอม แต่เมื่อความรักไม่เจอกันที่ตรงกลางบางอย่างก็เริ่มลดทอนลงปัจจัยแทรกซ้อนก็เข้ามานี่คือครึ่งแรกของหนังที่ดูยังไงก็ง่ายๆเป็นเรื่องเดิมๆที่ใครๆก็เอามาเล่ากัน แต่เมื่อตัดสินใจสะบั้นความสัมพันธ์ความเจ็บปวดของคนหนึ่งได้บันดาลในคนหนึ่งได้อย่างที่ฝันหลังจากนั้นอะไรที่ควรเป็นไปอย่างสวยหรูก็ไม่เป็นอย่างที่คิดและนี่คือครึ่งหลังของหนังที่ก็ยังเป็นความง่าย แน่นอนสองส่วนนี้เหมือนไม่มีอะไรก็เล่าเรื่องความรักที่แปรเปลี่ยนไปตามครรลองของมนุษย์ปุถุชนแต่เมื่อถึงเวลาไอ้ความง่ายที่ว่ามาดันมีอะไรซ่อนอยู่ข้างในจนสุดท้ายกลายเป็นความเหนือชั้นได้เพราะถูกความง่ายพาไปสุดทาง เมื่อเริ่มด้วยความง่ายเล่าเรื่องง่ายๆไม่ซับซ้อนอะไรแต่กลับเต็มไปด้วยความน่าสงสัยชวนค้นหาเพื่อที่จะพาสู่อะไรที่คาดไม่ถึง ที่น่าสนใจในหนังเรื่องนี้คือความเก่งของคนเขียนบทที่แม้จะเอาเรื่องง่ายๆเรื่องธรรมดาสามัญที่สุดเล่ากันมาบ่อยที่สุดมาเล่าได้แน่นหนาบนความง่าย แถมการเล่าเรื่องก็ไม่ซับซ้อนอะไรไม่ได้ดูเหมือนซ่อนกลอะไรไว้เพื่อที่จะตั้งใจมาหลอกแต่ความเก่งคือการเล่าเรื่องง่ายๆให้มีพลังดึงดูดที่น่าประกลาด เพราะครึ่งแรกเรื่องของความเปลี่ยนแปลงในมิติของความรักที่เมื่อความรักมันทำให้อึดอัดหายใจลำบากมันจะยังเป็นความรักอยู่หรือนี่คือสิ่งที่น่าค้นหา แล้วครึ่งหลังที่ชีวิตเหมือนได้ทุกอย่างตามที่ฝันความน่าสงสัยก็เข้ามาว่าอะไรมันจะสมบูรณ์แบบปานนั้นครึ่งหลังหนังจึงเดินหน้าไปสู่ความน่าสงสัยเต็มตัวจนต้องติดตามอย่างใกล้ชิดว่าอะไรเป็นอะไร สุดท้ายเมื่อรู้ว่าอะไรเป็นอะไรความสงสัยเต็มรูปแบบก็มาเพราะอยากรู้วาจะลงเอยอย่างไรพระเอกจะมีบทสรุปแบบไหนจนพาไปยังจุดที่คาดไม่ถึงซึ่งก็ยังเป็นเรื่องง่ายๆอยู่ดีแค่คิดไม่ถึงหรือไม่ทันคิดเท่านั้น อีกครั้งที่ไต้หวันหยิบเอาเรื่องพื้นฐานการดำเนินชีวิตมาเล่าได้ตรงใจตรงประเด็นแม้จะเป็นแฟนตาซีเล็กๆแต่แก่นแท้ก็คือเรื่องจริง เพราะการคิดไม่ถึงหรือไม่ทันคิดมันคือเรื่องเล็กน้อยที่จะบายปลายได้ถ้ามันมาเกี่ยวข้องกับความรัก แล้วกับเรื่องนี้ความจริงไม่มีใครผิดไม่มีใครถูกเพราะการคบกันที่มีพื้นฐานบนความรักนั้นจะต้องปรับจูนเข้าหากันไม่ใช่ยอมทุกอย่างหรือวางตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาล ถ้าจะผิดมันก็ผิดทั้งคู่เมื่อไม่ยอมเรียนรู้ที่จะปรับเข้าหากันหนึ่งยอมกับอีกหนึ่งไม่เปลี่ยน สุดท้ายความรักที่แน่นอกมันก็คือปัจจัยที่จะทำให้อะไรมันลงเอยอย่างที่เห็นเมื่อความจริงทุกสิ่งมันมีอะไรต้องแลกไม่มีอะไรได้มาโดยไม่ต้องเสียแค่ไม่ทันคิดว่าสิ่งที่ต้องเสียนั้นจะยอมรับมันได้หรือไม่ อาจเพราะความรักไม่ใช่การควบคุมชีวิตของอีกฝ่ายแต่เป็นความอดทนเพื่อเข้าใจจนพาไปสู่ความไว้ใจซึ่งกันและกันแต่ก็ตามนั้นเพราะมันต้องใช้เวลาในการปรับเขาหากัน แน่นอนไม่มีใครสามารถมีโอกาสไปใช้ชีวิตเปรียบเทียบว่าความรักแบบไหนดีกว่ากันจนกว่าจะคิดได้มันก็สายไปเสียแล้ว ด้วยการแสดงที่มีเสน่ห์และบทโฟกัสที่ตัวละครมากกว่าทำให้การแสดงเชิดหน้าชูตาได้ เพราะบทหนังโฟกัสไปที่ตัวละครเรื่องของการเปรียบเทียบความรักที่รักปัจจุบันที่ไม่เป็นไปอย่างที่คิดรักเก่าที่เข้ามาทำให้ชีวิตมีสีสันและรักในฝันที่กลายเป็นปัจจัยให้พลันได้คิด ศูนย์กลางของเรื่องจึงอยู่ที่เรื่องหัวใจล้วนๆฉาก สถานที่ งานด้านโปรดักชันจึงไม่สำคัญนักเมื่อเอาจริงหนังแทบจะแสดงกันแค่ไม่กี่คน แต่เมื่อเป็นเรื่องความรักผ่านมุมมองของชายหนุ่มหนึ่งคนที่ต้องคิดและตัดสินใจเสน่ห์จึงต้องมาและเรื่องนี้นักแสดงให้การแสดงที่มีเสน่ห์คู่ควรกับการรักและถูกรัก เอาจริงผู้เขียนดูงานไต้หวันมาบ่อยค่อนข้างคุ้นหน้านักแสดงแต่ที่ต้องชื่นชมคือการแสดงไม่ติดภาพจำใดๆมาเลยเช่นออสติน หลินที่เคยรับบทผีเกย์อย่างสนุกสุดๆในแต่งงานกับผี แต่เรื่องนี้ไม่มีภาพติดตาใดๆเหลือแต่การแสดงเป็นตัวละครที่ต้องตัดสินใจอย่างเจ็บปวด ทั้งยังต้องชื่นชมเสน่ห์ของนักแสดงหญิงสามคนที่สามารถสร้างมิติความรักที่แตกต่างได้อย่างเป็นรูปธรรมทั้งโคลอี้ เฉียง,นิคกี้ ฉีและดา หยวน เป็นความบันเทิงที่อาจต้องเชื่อมั่นในความเป็นไต้หวันก่อนเพราะงานไต้หวันจะมีอะไรซ่อนในความง่ายจนกลายเป็นเหนือได้ทุกที แต่สิ่งที่ต้องระลึกไว้ก่อนจะหยิบรีโมทมาปิดก่อนเวลาอันควรคือบางครั้งการดูหนังไต้หวันจะต้องไว้ใจในความเป็นไต้หวันก่อน หรืออาจต้องคุ้นกับการล่าเรื่องแบบไต้หวันที่จะง่ายๆเพราะทุกทีก็จะเอาเรื่องง่ายๆพื้นๆมาเล่าแบบง่ายๆไม่ได้พยายามเล่นท่ายาก แต่ถ้าคุ้นชินก็จะทราบว่าไต้หวันมีอะไรซ่อนไว้เสมอที่เมื่อถึงเวลาอะไรที่ว่ามาจะเร่งทะยานไปอย่างไม่ยั้งเช่นเรื่องนี้ที่เปิดหัวมาเหมือนไม่มีอะไรแต่นั่นคือการปักหมุดความเชื่อไว้ในสมองคนดู แต่ความง่ายนั้นก็ยังทำหน้าที่ของมันเมื่อครึ่งหลังหนังมีความลึกลับน่าค้นหาน่าสงสัยน่าติดตามอย่างหนักแต่ก็ยังง่ายๆไม่มีอะไรและนั่นคือการตอกหมุดที่สองไว้ในสมองคนดูอย่างแน่นหนา จนสุดท้ายเมื่อทุกอย่างถูกเฉลยว่าอะไรเป็นอะไรความง่ายทุกอย่างที่ผ่านมาคือการพาสมองคนดูไปทางที่ต้องการจนลืมคิดถึงจุดเล็กน้อยที่สำคัญที่เป็นความเหนือชั้นในการเล่าเรื่องแบบง่ายๆและกับเรื่องนี้มันคือความรัก ดูไปบ่นไป ขอบคุณภาพประกอบ ภาพปก / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2,3,4,5,6,7 / ภาพที่ 8 จาก Instagram suffocating.love.2024 เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !