สวัสดีค่ะคุณชีส วันนี้หนูมีหนังดีๆมาแนะนำให้คุณชีสได้ไปดูกันกับเรื่อง "Wonder" หนังที่หนู้รู้สึกว่าควรค่าแก่การดูจริงๆ เนื้อเรื่องทัชใจมาก ทุกๆอย่างลงตัวไปหมด เป็นหนังที่จุดประกายความคิดได้ดีมากๆ หลังจากดูจบมันอิ่มเอมใจ ปริ่มหัวใจอย่างบอกไม่ถูก ห้ามพลาดเลยนะคะหนังเรื่องนี้ หนูรับรองเลยว่าดีจริงๆ คุ้มค่า คุ้มเวลาอย่างแน่นอน Wonder เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับครอบครัวครอบครัวหนึ่งที่มีลูกชายเกิดมาไม่เหมือนเด็กคนอื่นๆ เด็กผู้ชายคนนี้ชื่อว่า ออกัสต์ หรือ อ๊อกกี้ พูลล์แมน เด็กผู้หลงไหลในเรื่องของวิทยาศาสตร์ น้องมีความผิดปกติที่ยีนจึงทำให้หน้าตาของน้องนั้นผิดปกติ น้องต้องเข้ารับการผ่าตัดอยู่หลายครั้ง จะออกไปที่ไหนก็มีแต่คนหัวเราะเยาะเมื่อเห็นหน้าของน้อง น้องจึงกลัวการเข้าสังคมเป็นอย่างมาก แต่ในวันนึงแม่ของน้องก็คิดว่าน้องควรจะต้องออกไปเจอโลกภายนอกได้แล้ว จึงให้น้องอ๊อกกี้ได้ไปเรียนในโรงเรียนเหมือนเด็กคนอื่นๆเสียที จากที่เรียนโฮมสคูลมาตลอดตั้งแต่เด็ก น้องจะได้รู้จักการใช้ชีวิตที่เหมือนเด็กปกติทั่วๆไป แต่ทว่ามันจะเป็นแบบนั้นหรือเปล่า น้องจะได้เรียนรู้ประสบการณ์ในโลกภายนอก ในโรงเรียนจริงๆ และเรื่องของเพื่อนๆ ผลในท้ายที่สุดจะออกมาเป็นเช่นไร หนูอยากให้คุณชีสได้ไปหาคำตอบจากเรื่องนี้นะคะตัวอย่างหนังค่ะhttps://www.youtube.com/watch?v=UW6LdMIHjPsWonderความยาวหนัง 1 ชม. 53 น.นักแสดงนำ : Julia Roberts , Owen Wilson , Jacob Tremblayผู้กำกับ / ผู้เขียน : Stephen Chboskyดูได้ที่ Netflix รีวิวจากความรู้สึกของหนู อาจจะไม่ตรงใจใครต้องขออภัยด้วยนะคะ หนูอยากดูเรื่องนี้มานานมากๆแล้ว วันนี้เห็นว่ามีใน netflix ก็เลยตัดสินใจเปิดดูค่ะ ใจแรกที่ไม่กล้าดูเพราะไม่อยากร้องไห้ค่ะฮาๆ รู้เลยว่าต้องซึ้งอย่างแน่นอน เหมือนกับหนังรักของญี่ปุ่นในหลายๆเรื่องหนูตัดสินใจที่จะไม่ดู เพราะดูแล้วหนูร้องไห้เหมือนจะขาดใจไม่ไหวจริงๆค่ะ แต่การที่ได้ตัดสินใจดูหนังเรื่องนี้ ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ดีมากๆ ทั้งเนื้อเรื่อง ตัวละคร องค์ประกอบต่างๆมันดีไปหมด ทัชใจของหนูสุดๆ ยกให้เป็นเรื่องในใจของหนูเลยค่ะ มาเริ่มที่เนื้อเรื่องกัน เนื้อเรื่องคนเขียนร้อยเรียงออกมาได้ดีมากๆ มันค่อยๆไต่ระดับขึ้นลงเป็นกราฟค่ะ หลากหลายอารมณ์ที่ปนอยู่ในเรื่องจากที่ยิ้มๆก็มีซึ้งเข้ามา จากที่ซึ้งๆก็มีความตลกโบ๊ะบ๊ะเข้ามาแทรก ชอบการที่เขาฉายไปในความคิดของตัวละครแต่ละตัว หากเราดูในมุมมองเดียวเราก็จะคิดว่าอ่าวทำไมคนนี้ถึงทำแบบนี้ พอมีการเล่าถึงความรู้สึกของตัวละครนั้นจริงๆ กลับทำให้คนดูอย่างเราเปลี่ยนความคิดไปในทันที ชอบที่ผู้เขียนจะสื่อในตรงนี้มากๆค่ะ เพราะคนเราต่างก็มีเหตุและผลในการกระทำ เพราะฉะนั้นเราอย่าได้ไปคิดแทนคนอื่นให้ตัวเราเองนั้นเสียความรู้สึกจะดีกว่านะคะ ถ้าเรารู้สึกอย่างไรก็ลองถามเขาไปตรงๆ เขาจะพูดความจริงหรือโกหก แต่อย่างน้อยเราก็ได้พูดความรู้สึกจริงๆนั้นออกไปแล้ว หากเก็บมันเอาไว้อยู่แบบนั้น วันหนึ่งเราอาจจะรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้บอกไปก็ได้นะคะคุณชีส หนูชอบความเรียลของเนื้อเรื่องเรื่องนี้เป็นอย่างมาก ไม่ได้รู้สึกเหมือนดูหนังเลยค่ะ เหมือนหนูนั่งดูเรื่องราวของครอบครัวหนึ่งผ่านวิดีโอชีวประวัติของพวกเขา ชอบคำพูดของผอ.โรงเรียนในตอนสุดท้ายมากๆ มันทัชใจสุดๆ และอยากให้มีผอ.ที่คิดแบบนี้ทุกโรงเรียนเลยค่ะ หลังจากดูจนจบก็ได้มานั่งนึกย้อนอดีตของตัวเองที่มีความคล้ายคลึงกับน้องอ๊อกกี้ค่ะ หนูเข้าใจความรู้สึกของตัวละครนี้เป็นอย่างมาก ว่าการที่ถูกมองว่าแปลกประหลาดมันรู้สึกยังไง ในสมัยก่อนเด็กใส่แว่นจะมีน้อยกว่าสมัยนี้เยอะเลยค่ะ พอมีเพื่อนที่ใส่แว่นเด็กๆก็จะสนใจว่าทำไมคนนี้ถึงต้องใส่เจ้าแว่นนี่ด้วย หนูจำได้เลยว่าต้องค่อยตอบคำถามเหล่านี้ทุกวัน โดนขอยืมแว่นไปใส่บ้างเพราะแว่นของหนูเลนส์ค่อนข้างหนา โดนพูดต่างๆนาๆบ้าง ตอนนั้นหนูยังไม่รู้จักคำว่าบลูลี่จริงๆเลยด้วยซ้ำ คำนี้เหมือนจะถูกใช้เมื่อหนูโตขึ้นมาแล้วพอมองย้อนกลับไป เราก็โดนมาเยอะเหมือนกันนะเนี่ย แต่เราก็ผ่านมันมาได้ และมันทำให้เราเข้มแข็งมากขึ้นด้วย พอได้ดูเรื่องนี้ยิ่งอินหนักเลยค่ะ ร้องไห้จนตาบวมไปแล้วหนึ่ง หนูก็อยากให้กำลังใจทุกคนเลยนะคะที่เคยผ่านเรื่องราวเหล่านี้มา หรือกำลังเผชิญกับมันอยู่ หนูอยากให้คิดว่าคนเราทุกคนต่างก็ถูกสอนมาไม่เหมือนกัน มองโลกไม่เหมือนกัน และมีความคิดที่แตกต่างกัน ถึงใจจะแตกสลายกับคำพูดของพวกเขาไปแล้ว แต่หนูอยากให้คิดถึงตัวเองให้มากๆ คิดถึงคนที่เขารักเราจริงๆ อย่างที่ผอ.ของโรงเรียนในเรื่องนี้พูดกับครอบครัวของเด็กคนนึงว่า "ถ้าเราเปลี่ยนความรู้สึกไม่ได้ เราก็ลองเปลี่ยนมุมมองดูสิ มองว่าเขาก็เหมือนกับเรา มองว่าเขาก็คือเด็กคนหนึ่งที่สามารถใช้ชีวิตทั่วๆไปเหมือนเด็กคนอื่นๆได้" หนูนี่ยืนขึ้นปรบมือให้เลย มาในส่วนของนักแสดงกันค่ะ หนูขออวยยศให้น้องที่เล่นเป็นอ๊อกกี้ น้องเล่นและสื่ออารมณ์ออกมาได้ดีมากๆ เข้าถึงบทบาทจนคิดว่าน้องคือเด็กคนนั้นจริงๆ ท่าทาง สายตา และคำพูด ดีมากลูกหนูทำดีมาก นักแสดงท่านอื่นๆเล่นได้เป็นธรรมชาติ อย่างที่หนูบอกไปว่ามันเหมือนนั่งดูคลิปชีวประวัติของพวกเขา ไม่ได้รู้สึกว่านี่คือการแสดง นี่คือหนังที่สร้างขึ้นมา ทุกอย่างมันลงตัวจนคนดูอินไปกับตัวละครจริงๆค่ะ อีกหนึ่งนักแสดงที่หนูอยากอวยยศให้คือน้องเดซี่ น้องหมาสุดฉลาด น้องเล่นเก่งเล่นดีมาก แสนรู้ที่สุด ในส่วนของเรื่องอื่นๆอย่างที่หนูบอกไปว่ามันลงตัว มันพอดี การลำดับภาพ มุมภาพ เสียงซาวด์ อีกอย่างที่หนูชอบคือการใส่ความชอบของตัวละครเป็นอวกาศ การเปรียบเปรยที่เกี่ยวกับอวกาศ มันดูเป็นเรื่องของสัญลักษณ์ในหนังที่น่าสนใจเป็นอย่างมากค่ะ ไม่รู้ว่าผู้เขียนชอบเรื่องอวกาศเป็นการส่วนตัวหรือเปล่านะคะฮาๆ ในหนังจะมีมุกที่เกี่ยวกับเรื่อง Star Wars แบบนิดนึงด้วยนะคะ สำหรับใครที่ไม่เคยดูก็อาจจะงงๆเหมือนหนูได้ค่ะ แต่สุดท้ายนี้หนูก็หวังว่าใครที่ได้ดูหนังเรื่อง Wonder จะได้รับแรงบันดาลใจ ความอบอุ่นหัวใจ มุมมองความคิดใหม่ๆ และรอยยิ้มกลับไปนะคะ แหล่งที่มาขอบคุณ Video จากYouTube [Major Group] : คลิปที่ 1ขอบคุณภาพจากTwitter [Wonder] : ภาพปก , ภาพที่ 1 , ภาพที่ 2(รูปที่1) , ภาพที่ 3(รูปที่4) , ภาพที่ 4(รูปที่4) , ภาพที่ 5 บทความรีวิวอื่นๆรีวิวอนิเมะ : "Zero's Tea Time" วันสบายๆของซีโร่ สปินออฟจากยอดนักสืบจิ๋วโคนันรีวิวซีรีส์ญี่ปุ่นกับเรื่อง "Tomorrow, I'll Be Someone's Girlfriend" ในวันพรุ่งนี้ ฉันจะเป็นแฟนใครสักคนรีวิวซีรีส์ "Stranger Things" ซีซั่น 4 Vol.2 ที่ทำให้ Netflix ถึงกับล่มเพราะคนแย่งกันเข้าชมเป็นจำนวนมากรีวิวหนัง "Senior Year" หนังดีฟีลกู๊ด ที่จะพาคุณย้อนวัยกับไป ม.ปลาย ได้อีกครั้ง *STAR COVER"อย่ามัวแต่ดูมาดังกัน"*ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟเวอร์ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลค์คนที่ชอบ`ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดี` คลิกเลย >> https://ttid.co/UAnK/7y9jfqkqอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://bit.ly/3O1cmUQร่วมสนุกตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2565 - วันที่ 3 สิงหาคม 2565