ตบเท้าเข้าฉายกันแบบรัวๆ สำหรับหนังไทยเรื่องใหม่ล่าสุดจากมาด้วยแนวคิดการมุ่งมานะของเหล่าเยาวชนในศูนย์ฝึก ผู้ที่เคยมีพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรงมาก่อน แต่เมื่อเราเล็งเห็นความเก่งกาจ และผลักดันอย่างเต็มที่ก็สามารถพลิกชะตาชีวิตของพวกเขาให้ดียิ่งขึ้นไป กับเรื่อง แก๊งหิมะเดือด (Frozen Hot Boys) ฉายแล้ววันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมา พร้อมปลุกพลังใจ สร้างเสียงหัวเราะเฮฮา และเรียกน้ำตาได้เป็นอย่างดี รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! รายละเอียด แก๊งหิมะเดือด Frozen Hot Boys หนังใหม่ 2025 ชื่อเรื่อง: แก๊งหิมะเดือด (Frozen Hot Boys) ประเภท: ดราม่า, คอมเมดี้ ผู้กำกับ: นฤบดี เวชกรรม และ ธนกฤต กิตติอภิธาน ผู้อำนวยการสร้าง: เปรมวิชช์ สีห์ชาติวงษ์ ผลิตโดย: หมีเรื่องหมาเล่า นักแสดงนำ: ณฐพร เตมีรักษ์ รับบท ครูชมพู / ณฐวัฒน์ ธนทวีประเสริฐ รับบท แจ๊บ / ศดานนท์ ดุรงคเวโรจน์ รับบท โจ / ปุณณานนท์ ตรีวรรณกุล รับบท วิน / ปิยพงษ์ ดำมุณี รับบท ตูมตาม / ชาติชาย ชินศรี รับบท ครูบอย ความยาว: 118 นาที วันที่ออกฉายครั้งแรก: 10 เมษายน 2568 ช่องทางรับชม: Netflix เรื่องย่อ แก๊งหิมะเดือด Frozen Hot Boys หนังใหม่ 2025 ทาง Netflix เรื่องราวของเหล่าเด็กหนุ่มในศูนย์ฝึกบ้านเบญจธรรม ที่ต้องเข้ามารับโทษจากการกระทำความผิดในช่วงอายุยังน้อย นำทีมความแสบซ่าโดย แจ๊บ (รับบทโดย แบงค์ ณฐวัฒน์) เด็กหนุ่มที่วนเวียนเข้าออกเรือนจำมาแล้วกว่า 4 แห่ง ด้วยพฤติกรรมความรุนแรง ผู้ต้องรับบทเป็นหัวหน้าทีมแกะสลักหิมะโดยไม่ทันตั้งตัวจากความสามารถในการแกะสลักเทียนพรรษาของเขา เพราะครูชมพู (รับบทโดย แต้ว ณฐพร) และครูผู้ช่วยอย่าง ครูบอย (รับบทโดย ดาด้าร์ ชาติชาย) มีโปรเจกต์เด็ดคือ การพิชิตรางวัลจากเทศกาลแกะสลักหิมะระดับโลก ที่เมืองซับโปโร และมีภาระกิจแอบแฝงคือการเดินทางไปพบคุณพ่อที่ไม่เจอกันมานานการรวบรวมเหล่าเยาวชนผู้มีฝีมือในศูนย์ฝึกจึงเริ่มต้นขึ้น ไม่ว่าจะเป็น วิน (รับบทโดย ปาล์ม ปุณณานนท์) เด็กหนุ่มที่มีความสามารถด้านงานแกะสลัก ตูมตาม (รับบทโดย บิ๊ก ปิยพงษ์) เด็กหนุ่มร่างอ้วนท้วมที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพละกำลัง และ โจ (รับบทโดย นนท์ ศดานนท์) เด็กหัวโจกเจ้าถิ่นในศูนย์ฝึกบ้านเบญจธรรม ผู้มีฝีมือด้านการวาดภาพ และถูกชักชวนเข้าร่วมทีมแกะสลักหิมะโดยครูชมพูในท้ายที่สุด สู่การก่อตั้งทีมแกะสลักจากศูนย์ฝึกฯ Frozen Hot Boys ที่ถูกจับตามองจากสังคม บ้างก็ว่าพวกเขาไม่ควรได้รับโอกาสเพราะพฤติกรรมความรุนแรงที่เคยก่อ หรือบ้างก็ให้เสียงเชียร์สนับสนุนเพื่อการเปลี่ยนแปลงตัวเอง ทีมที่เริ่มจากการทะเลาะเบาะแว้งก่อนจะค่อยๆ พัฒนาสู่ความสามัคคี พวกเขาสามารถเอาชนะในรอบคัดเลือกระดับประเทศและมีโอกาสเข้าร่วมแกะสลักหิมะ ณ เมืองซัปโปโร ออกท่องโลกกว้างตามความฝัน แต่ก็ยังไม่วายมีปัญหาตามมาไม่หยุดหย่อน การแข่งขันแกะสลักหิมะของแก๊ง Frozen Hot Boys จะเป็นอย่างไร? ครูชมพูจะได้เจอพ่อที่คิดถึงอีกครั้งหรือไม่? ติดตามคำตอบได้ใน แก๊งหิมะเดือด ทาง Netflix รีวิว แก๊งหิมะเดือด Frozen Hot Boys หนังใหม่ 2025 ทาง Netflix เห็นงานโปรโมทมานานราวๆ สัปดาห์ พอหนังเข้าปุ๊บเราก็กดดูทันที ตอนแรกไม่เข้าใจว่าแก๊งหิมะเดือดคืออะไรเพราะมันดู Contrast กันมากโข แต่พอได้ดูก็เข้าใจว่าเป็นทีมเด็กๆ ที่มีโอกาสไปแข่งขันแกะสลักหิมะไกลถึงแดนปลาดิบ ซึ่งทีมเบื้องหลังได้รับแรงบันดาลใจมาจากเรื่องจริงที่เด็กไทย สามารถคว้าตำแหน่งแชมป์โลกด้านการแกะสลักหิมะได้ทั้งๆ ที่ประเทศไทยเป็นเมืองร้อนใกล้เส้นศูนย์สูตร และดูจะมีโอกาสน้อยมากในการชนะ แต่เด็กๆ ก็สามารถทำได้ มาว่ากันที่พล็อตเรื่อง คือ การผลักดันให้เด็กในศูนย์ฝึกฯ ตั้งทีมและเข้าร่วมการแข่งขันแกะสลักหิมะ พล็อตมาแนวแปลกใหม่ แต่การเล่าเรื่องถูกเล่ามาเป็นเส้นตรง ไม่มี Conflict อะไรให้เนื้อเรื่องมีมิติซับซ้อนนัก เราสามารถเดาเนื้อเรื่องได้ลางๆ ว่าการฟอร์มทีมเด็กๆ ที่มีพฤติกรรมความรุนแรงก็อาจจะต้องมีการทะเลาะเบาะแว้งกัน เขม่นกัน มีการพูดถึงผลกระทบจากปมของเด็กแต่ละคน จนกว่าจะร่วมทีมกันได้อย่างสมบูรณ์แบบจริงๆ และสามารถร่วมมือกันแกะสลักโฟม น้ำแข็ง และแกะสลักหิมะในขั้นตอนสุดท้าย ส่วนทางครูชมพูก็มีจุดประสงค์ที่ซุกซ่อนไว้คือการไปพบพ่อแท้ๆ ของตัวเองที่แยกจากกันไปตั้งแต่เด็ก แต่จังหวะการเล่าเรื่องน่าสนใจ ส่วนตัวเราคิดว่าจังหวะการเล่าเรื่องในช่วงต้นถึงกลางเรื่องทำมาได้น่าสนใจ มีความกระชับ เล่าปัญหาของเด็กแต่ละคน รวมถึงปัญหาของตัวครูชมพูเองได้อย่างน่าสนใจ ไม่ยืดเยื้อ ยิ่งช่วงการขอฟอร์มทีมเพื่อเข้าแข่งขันแกะสลักหิมะก็ทำมาได้สนุก มีการหยอดความคอเมดี้เข้ามาได้อย่างลงตัว แต่พอไปถึงเมืองซัปโปโรที่เป็นจุดพีคของหนัง เราว่าพาร์ทนี้แอบเนือยๆ ไปหน่อย หลังจากที่แจ๊บเห็นข่าวของตัวเองเขาก็ทิ้งภารกิจไปแบบดื้อๆ ทีมเลยต้องทิ้งหน้างานไปตามหา มีฉากวิ่งหนี วิ่งขึ้นรถบัส ฯลฯ รวมถึงฉากที่ครูชมพูวางมือจากทีมเพื่อไปพบคุณพ่อก็พอเข้าใจได้ พอทุกคนกลับมารวมตัวกันอีกครั้งและแก้ไขปัญหาจนเสร็จ จึงค่อยไปเริ่มการแกะสลักหิมะได้แบบจริงๆ ซึ่งมันทำให้ฉากของการแกะสลักหิมะมันดูไม่พีคเท่าที่ควร แต่ช่วงหลังก็มีการใส่กิมมิคเข้ามาเสริมให้มีความน่าสนใจเพิ่มขึ้นอีกหน่อย งานแสดงที่เราชอบ แก๊งหิมะเดือดมีทั้งนักแสดงมือโปร และมือใหม่ ที่เคมีการแสดงเข้ากันได้อย่างลงตัว ทุกตัวละครแสดงอย่างเป็นธรรมชาติ ดูแล้วไม่รู้สึกอึดอัดหรือขัดอารมณ์ ถ้าเทียบเป็นจานอาหารก็คงเป็นรสชาติกลมกล่อมที่กินได้เรื่อยๆ จนหมดจาน https://www.instagram.com/p/DH-2a6dvIl7/?img_index=1 แต้ว ณฐพร ในบทครูชมพู ทำออกมาได้น่าสนใจระดับหนึ่ง จากเดิมที่เราจะเห็นคุณแต้วในบทหญิงสาวสวยๆ เรียบร้อยๆ บทนี้จะฉีกไปอีกทิศทางเพราะครูชมพูที่ต้องดูแลเด็กดื้อๆ มีคาแรกเตอร์เป็นสายลุย สายเถื่อน จนเด็กๆ ต้องหงอ กิริยาท่าทางจะออกไปทางห้าวๆ นิดๆ แต่ก็ยังแฝงไปด้วยความอ่อนโยนและใส่ใจในตัวเด็กๆ คุณแต้วทำในหลายๆ ซีนออกมาได้ดี แต่ถึงอย่างนั้นด้วยใบหน้าหวานๆ เสียงเล็กๆ ของเจ้าตัว เลยอาจทำให้เวลาที่ต้องดุอาจไปไม่สุดหน่อย คือคาแรกเตอร์จริงน่ารัก เลยดุยากหน่อย (555+) https://www.instagram.com/p/DH-ZA6TT55B/?img_index=1 ครูบอย รับบทโดย ดาด้าร์ ชาติชาย เห็นแว่บแรกมาในลุคผมสั้นก็จำไม่ได้ แต่พอได้พูดและเห็นหน้า จักรวาลไทบ้านก็ลอยมาแต่ไกล โดยเฉพาะเรื่องสัปเหร่อ เราชอบผลงานของคุณดาด้าร์มาก คาแรกเคอร์ครูบอยในเรื่องนี้คือลงตัวสุดๆ ด้วยบทที่มีทางสายขำขัน คอเมดี้ เรียกว่าเข้าปากเขาสุดๆ แต่ละคำพูด แต่ละการกระทำคือมาสายขำได้อย่างเป็นธรรมชาติ ลื่นไหลไปไม่มีสะดุด และที่สำคัญคือสามารถรับส่งบทกับครูชมพูได้แบบเข้ากัน เหมือนคนทำงานร่วมกันมาแล้วหลายปีจริงๆ เรียกว่าเป็นตัวละครที่ช่วยสร้างบรรยากาศสนุกสนาน เฮฮา โดยแท้ https://www.instagram.com/p/DH-AYWzvIR7/?img_index=2 แจ๊บ (รับบทโดย แบงค์-ณฐวัฒน์) นักแสดงหนุ่มหน้าหล่อ วัย 22 ปี ที่มีผลงานการแสดงมาแล้วหลายเรื่องทั้งงานละคร และภาพยนตร์ เช่น เรื่องหุ่นพยนต์ บทเพื่อ บทเพลง และราชาวิหค สำหรับบทแจ๊บ ก็ถูกถ่ายทอดออกมาได้ดี โดยเราจะเห็นว่าเนื้อแท้ของแจ๊บไม่ใช่เด็กที่มีพฤติกรรมรุนแรงมาตั้งแต่เกิด แต่ด้วยสถานการณ์ที่พาไปทำให้เขาต้องปกป้องตัวเองและกลายเป็นเด็กที่ใช้ความรุนแรงแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ หนุ่มแบงค์แสดงบทของแจ๊บออกมาได้อย่างมีมิติน่าสนใจ ฉากนิ่งๆ ขรึมๆ ก็ทำได้ดี ฉากที่ต้องใช้พละกำลังก็ดูสมจริง ดิบเถื่อนมากๆ และไดอาล็อกที่ต้องสนทนากันแบบเถื่อนๆ ก็ดูไหลลื่น ไม่ติดขัด https://www.instagram.com/p/DH8yW2RzHfe/?img_index=1 โจ (รับบทโดย นนท์ ศดานนท์) นักแสดงหนุ่มอายุ 25 ปี ผลงานเดบิวต์ด้านงานแสดงจากเรื่อง ติวไปด้วยกันนะ และมีผลงานการแสดงอื่นๆ หลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น The Whole Truth ปริศนารูหลอน, Bad Genius The Series ฉลาดเกมส์โกง, เด็กใหม่ ซีซั่น 2 Girl from Nowhere เรียกได้ว่าใบหน้ารับคาแรกเตอร์ดีเชียว บทของโจจะเป็นเด็กหนุ่มในแก๊งพญาอินทรีย์ ที่คิดว่าตัวเองเก่งกาจที่สุดในศูนย์ฝึกฯ เขามีพฤติกรรมรุนแรง พวกมากลากไป แต่แท้จริงแล้วเขาก็มีความฝันและต้องการพาตัวเองออกไปสู่โลกใบใหม่ที่แตกต่างไป เมื่อพลิกจากบทนักเลงมาเป็นสมาชิกในทีมก็สามารถพลิกบทมาเป็นกำลังหลักสำคัญของแก๊งได้ดีเลยทีเดียว https://www.instagram.com/p/DH8m7H_zYrT/?img_index=1 วิน (รับบทโดย ปาล์ม ปุณณานนท์) นักแสดงหนุ่มหน้าใหม่ ในวัยเพียง 20 ปี เขาเป็น 1 ในผู้เข้ารอบ 20 คนสุดท้ายของโครงการ CAMPUS STAR 2024 ที่จัดขึ้นโดย Mono Entertain ถึงหน้าจะใหม่แต่ฝีมือการแสดงของปาล์มก็มีความเป็นธรรมชาติสูงมากๆ ดูแล้วไม่รู้สึกติดขัดแต่อย่างใดเลย ยิ่งพอต้องมาเล่นเทียบข้างกับนักแสดงมือโปรก็ไม่ได้ดูประดักประเดื่อ แต่กลับกันคือสามารถกลมกลืนเข้าไปกับทีมนักแสดงได้ดีเลยทีเดียว วิน เป็นหนุ่มที่มีจริตความเป็นผู้หญิงหน่อยๆ เขามีฝีมือด้านการแกะสลัก ซึ่งเป็นความสามารถที่ลงล็อกกับการแกะสลักหิมะได้เป็นอย่างดี ตูมตาม (รับบทโดย บิ๊ก ปิยพงษ์) นักแสดงหน้าใหม่ที่เราไม่เคยเห็นผลงานมาก่อนหน้า ตอนแรกก็คิดว่าเขาจะแสดงดีไหมนะ? แต่พอได้ดูตั้งแต่ต้นๆ ก็หมดสงสัยเลยเพราะว่าบทตูมตาม ที่เล่นโดยบิ๊ก คือ ดีมาก ขำมาก 55555 เก็บหมดทุกมุก เป็นตัวโจ๊กที่เรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะได้ทุกครั้งที่เขาโผล่มาจริงๆ ตูมตามเป็นตัวละครที่มีปมจากการขาดความอบอุ่นในครอบครัว เขาเลยต้องออกไปขโมยของจนโดนจับได้ แต่พอมองนิสัยแท้ๆ ก็เป็นเด็กที่มีอัธยาศัยดีอีกคนหนึ่งที่พลาดพลั้งทำผิดไปก็เท่านั้น หนุ่มบิ๊กสามารถถ่ายทอดความเป็นตูมตามออกมาได้อย่างน่าสนใจ ด้วยน้ำเสียง คำพูด เสียงหัวเราะ บอกเลยว่าน่าจดจำจริงๆ อยากเห็นน้องเขาเล่นอีกหลายๆ เรื่องเลย โดนเส้นมาก (ฮาาา) ประเด็นของเด็กในศูนย์ฝึกฯ พอพูดถึงเด็กที่ก่อคดีอุกฉกรรจ์ต่างๆ ก็อาจทำให้หลายคนเบือนหน้าหนี และตีตราประทับให้เด็กๆ เหล่านั้นเป็นคนไม่ดี ได้รับโอกาสกี่ครั้งต่อกี่ครั้งก็คงไม่ดีขึ้น หนังเรื่องนี้พยายามจะสื่อประเด็นนี้ออกมาให้สังคมได้รับรู้ แต่อย่างไรก็ตามในความคิดเราคือยังมีการเสนอปมเรื่องนี้ได้อ่อนไปหน่อย หนังจะพาเราไปทำความเข้าใจสาเหตุที่ทำให้เด็กแต่ละคนต้องเข้ามาติดอยู่ในศูนย์ฝึกฯ ฉากการทะเลาะเบาะแว้งของเด็กๆ การไม่เป็นที่ยอมรับในสังคม การผลักดันของครูฝึกในศูนย์ หรือฉากที่เด็กๆ ได้รับการชื่นชมอย่างที่ไม่เคยได้มาก่อน ส่วนตัวเราคิดว่าเนื้อหาที่ถูกถ่ายทอดออกมาเป็นการแตะผิวๆ ของแต่ละประเด็น ยังไม่ได้เจาะลึกลงไปในแต่ละด้านมากนัก ซึ่งตรงนี้เข้าใจว่าหนังเรื่องนี้ไม่ใช่หนังเกี่ยวกับชีวิตของเด็กในศูนย์ฯ โดยตรง แต่เป็นการผลักดันให้เด็กไปแกะสลักหิมะมากกว่า น้ำหนักโดยรวมของประเด็นนี้เลยยังไม่เข้มข้นมากเท่าไหร่ ส่วนตัวสำหรับเรา หนังเรื่อง แก๊งหิมะเดือด เป็นหนังไทยที่งานภาพสวย มุมกล้องดี นักแสดงโดดเด่น เคมีเข้ากัน ส่วนพล็อตเรื่องไม่ได้หวือหวา เดินเรื่องเป็นเส้นตรง เดาทางเรื่องได้ไม่ยาก ภาพรวมคือเป็นหนังที่สนุก ดูได้เรื่อยๆ ทำให้เรามองภาพของเด็กๆ ในศูนย์ฝึกฯ ในมุมที่อาจไม่เคยมองมาก่อน และตระหนักได้ว่าทุกคนล้วนต้องการโอกาส การผลักดันในทางที่เหมาะสม ภาพหน้าปก 1 จาก Netflix ภาพในเนื้อหา (1) (2-10) จาก Netflix instagram taewaew_natapohn / chatchaitartar / bank_nuttawatt / vixmmnnt / palm_punnanon เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !