จับตา 'มิเชล โหย่ว'!! ลบโพสต์เสี่ยงผิดกฎออสการ์ พาดพิงผู้เข้าชิงรายอื่น
สื่อทั่วโลกต่างจับตา “มิเชล โหย่ว” (Michelle Yeoh) นักแสดงตัวแม่จากมาเลเซีย วัย 60 ปี อาจตกที่นั่งลำบาก กรณีที่เธอได้โพสต์บทวิจารณ์ของนิตยสาร Vogue ที่พูดถึงการตัดสินเลือกผู้ชนะรางวัลออสการ์ (Academy Awards) ปีนี้ในสาขานักแสดงนำหญิง ซึ่งเธอคือหนึ่งในผู้ผ่านเข้าชิงจากหนัง “ซือเจ๊ทะลุมัลติเวิร์ส” หรือ Everything Everywhere All At Once
ทั้งนี้ ตามข้อกำหนดของผู้จัดงานออสการ์ ในส่วนของแคมเปญรณรงค์เพื่อลุ้นผลรางวัลในแต่ละปี ห้ามไม่ให้ผู้ผ่านเข้าชิงโพสต์ถึงผู้ผ่านเข้าชิงรายอื่น รวมถึงมีกาสโพสต์ที่สะท้อนถึงเจตนาหรือแทคติกอันจะส่งผลต่อการตัดสินของสมาชิกอคาเดมี่ผู้จัดงานประกาศรางวัลออสการ์ ซึ่งเป็นผู้มีสิทธิลงคะแนนเลือกผู้ชนะ ที่สำคัญ “มิเชล โหย่ว” มาโพสต์บทความนี้ในวันสุดท้ายที่เปิดให้ลงคะแนนโหวตพอดีนั่นคือวันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมา
"มิเชล โหย่ว - เคต แบลนเชตต์"
ภาพจาก: AP
ซึ่งถึงแม้ว่า มิเชล โหย่ว จะได้ลบโพสต์นี้ออกไปแล้ว แถมบทความนี้เธอไม่ได้เป็นคนเขียนเอง แต่หลายเสียงมองตรงกันว่าอาจทำให้เธอตกที่นั่งลำบากเสี่ยงพลาดรางวัล เพราะออสการ์ปีนี้ในสาขาดารานำหญิงก็เพิ่งมีการสอบสวนกรณีที่ “แอนเดรีย ไรซ์โบโรห์” (Andrea Riseborough) จากหนังอินดี้เรื่อง To Leslie ได้ผ่านเข้าชิงออสการ์ทั้งที่มีเวลาทำแคมเปญรณรงค์เพื่อให้ได้ผ่านเข้าชิงออสการ์เพียงไม่กี่เดือน และทางอคาเดมี่ผู้จัดออสการ์ หลังสอบแล้วก็ยอมรับว่าหนังเรื่องนี้มีการใช้แทคติกอาศัยดาราดังโพสต์ชื่นชมหวังโน้มน้ามผู้มีสิทธิลงคะแนนเลือกผู้เข้าผ่านเข้าชิงจริงๆ แต่ก็ไม่ได้มีการปรับตกหรือตัดชื่อ “แอนเดรีย ไรซ์โบโรห์” ออกจากโผผู้เข้าชิงแต่อย่างใด
ภาพจาก: IMDb
ขณะที่บทความของนิตยสาร Vogue ที่ “มิเชล โหย่ว” นำมาโพสต์นั้น ได้เขียนถึงกรณีผู้เข้าชิงออสการ์ดารานำหญิงปีนี้เอาไว้ว่า “ปีนี้เป็นการขับเคี่ยวอย่างสูสีของ “เคต แบลนเชตต์” (Cate Blanchett) จาก Tar และ มิเชล โหย่ว จาก “ซือเจ๊ทะลุมัลติเวิร์ส” โดยสำหรับ “เคต แบลนเชตต์” นั้นต้องบอกว่าฝีมือไม่เป็นที่กังขา แต่เธอได้ออสการ์มาสองครั้งแล้ว จะได้อีกครั้งก็ไม่แปลกแต่ก็ถือว่าไม่จำเป็นต้องมีอะไรมาช่วยการันตีฝีไม้ลายมือของเธอคนนี้อีก ในขณะที่ “มิเชล โหย่ว” ถ้าได้ออสการ์ครั้งนี้จะเป็นการพลิกชีวิตของเธอก็ว่าได้ เพราะเธอจะมีนามสกุลออสการ์ต่อท้าย หลังจากที่ผ่านมาถือเป็นดารามากฝีมือที่เหมือนเป็นตัวรองบ่อนในฮอลลีวูดมาโดยตลอด”
ขณะเดียวกันในบทความนี้ยังมีการพูดถึงปัญหาการขาดความหลากหลายทางชาติพันธุ์และความไม่เท่าเทียมทางเพศในกลุ่มผู้เข้าชิงและผู้คว้ารางวัลออสการ์ด้วย
ภาพจาก: IMDb