รีวิวหนัง "Hidden Face เล่ห์ร้อนซ่อนชู้" กัดเซาะก้นบึงใจพิกล พลิกความร้าวฉานเป็นอรรถรส

ได้ยินว่านี่คือหนังรสชาติเร่าร้อนติดเรทที่กลายเป็นหนังทำยอดขายตั๋วได้ถล่มทลายในเกาหลีใต้ เมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว "Hidden Face เล่ห์ร้อนซ่อนชู้" ก็เพราะแค่เห็นชื่อทีมนักแสดงนำ ก็น่าจะมั่นใจได้ระดับหนึ่งแล้วว่า..หนังจะต้องมีดี ยิ่งหนังเรื่องนี้เป็นการปัดฝุ่นรีเมคสร้างใหม่จากต้นฉบับหนังฝั่งยุโรป เมื่อกลายมาเป็นคอนเทนท์ฝั่งเอเชียกับปมชู้สาวต่าง ๆ มันน่าจะออกรสที่แซบบริโภคที่น่าจะถึงแก่นไม่น้อย

ซองจิน เป็นวาทยากรนำวงออสเคสตราที่ได้หมั้นหมายกับ ซูยอน แฟนสาวที่เป็นนักเชลโลประจำวงที่เขาดูแลอยู่ กระทั่งวันหนึ่งซูยอนได้หายตัวไปเป็นปริศนา ทิ้งเอาไว้เพียงคลิปข้อความ ทำให้ซองจินรู้สึกเจ็บปวดกับการหายตัวไปของเธอในครั้งนี้ แต่แล้ว มีจู ก็ปรากฏตัวเข้ามาในชีวิตของซองจิน เธอคือหญิงสาวที่มีรับตำแหน่งในวงของซูยองที่ขาดไป

มีจูได้เข้ามาช่วยบรรเทาความอาลัยอาวรณ์ของซองจิน จนกลายเป็นไฟแห่งปรารถนาที่โชติช่วงนำไปสู่ความสัมพันธ์ลึกซึ้งที่เร่าร้อน และมันเกิดขึ้นในบ้านของซูยอน ที่จริง ๆ แล้วซูยอนที่คิดว่าหายตัวไป เธอถูกขังอยู่ในห้องลับในบ้านหลังนั้น พร้อมกับได้เห็นทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นบ้านตัวเองอย่างทะลุปรุโปร่ง

อย่างที่เกริ่นไปข้างต้นว่า Hidden Face เล่ห์ร้อนซ่อนชู้ เป็นหนังที่สร้างใหม่เป็นเวอร์ชันเกาหลี เพราะรีเมคมาจากหนังสเปนชื่อเดียวกัน ที่ออกฉายเมื่อปี 2011 ต้องออกตัวก่อนว่าผู้เขียนยังไม่เคยดูต้นฉบับของหนังเรื่องนี้มาก่อน ทำให้การมาของหนังเรื่องนี้เป็นการเปิดต่อมรับรสกับสตอรีนี้เป็นครั้งแรก ที่แน่นอนว่าหนังไม่ได้สดใหม่อะไรแล้ว เพราะมีต้นฉบับเอาไว้เปรียบเทียบ แต่กระนั้นก็ยังสามารถดัดแปลงทำเป็นอีกเวอร์ชันที่ค่อนข้างจัดจ้านดี

นี่คือผลงานใหม่ของผู้กำกับ "คิมแทอู" ที่ห่างหายไปจากการสร้างหนังนับสิบปี กับผลงานชิ้นก่อนของเขาก็ทำเอาไว้แซบไม่น้อย นั่นก็คือ Obsessed หนังอีโรติกการเมืองการทหารที่คราวนี้ยังคงดึงตัวพระเอก "ซงซึงฮอน" กลับมาร่วมงานด้วยอีกเช่นเคย ในแง่งานสร้างก็ต้องยกย่องว่าผู้กำกับยังละเลงฝีมือออกมาได้อย่างน่าพอใจ เขารู้วิธีการถ่ายทอดและใช้เทคนิคมุมกล้องต่าง ๆ เข้ามาสร้างและเร้าใจคนดูได้ด้วยดี

แน่นอนว่างานสร้างส่วนใหญ่ใน Hidden Face ก็คือนักแสดงเล่นกับฉากที่เซ็ตขึ้นมาเป็นบ้านนั่นแหละ แต่ฉากที่ได้ทำการเนรมิตออกมานั่น ค่อนข้างน่าค้นหาและมีมิติเป็นอย่างดี ถึงแม้ว่าเราจะรู้ว่าเป็นฉาก แต่การออกแบบกับดีไซน์ต่าง ๆ ค่อนข้างลงตัวดีระหว่างงานตกแต่งทันสมัยที่ผสมผสานเข้ากับโครงสร้างของบ้านยุคก่อน ที่เป็นส่วนที่ช่วยจุดประกายความลึกลับน่าค้นหาให้กับตัวหนังเรื่องนี้ได้ดีไปโดยปริยาย

ขณะที่ในส่วนของบทหนังนั้น เพราะยังไม่เคยดูต้นฉบับมาก่อนจึงยังไม่แน่ชัดว่าเส้นเรื่องของแต่ละเวอร์ชันจะไปในทิศทางเดียวกันหรือไม่ แต่ใน Hidden Face ฉบับเกาหลีที่สร้างออกมา ค่อนข้างมีความคลีเช่ในตัวอยู่เหมือนกัน แต่กลายเป็นลูกเล่นที่ท้าทายคนดูให้นึกว่าจะเดาทางออก แต่กลับพาเลี้ยวไปอีกทางอยู่เสมอ ๆ จึงกลายเป็นกิมมิกที่รุกเร้าอารมณ์และสร้างเซอร์ไพรส์ให้กับผู้ชมได้เบา ๆ ตลอดทั้งเรื่อง จนกลายเป็นอรรถรสในการเล่าเรื่องที่ละสายตาไม่ได้

ถึงแม้ว่าในแง่การดีไซน์มิติของบทบาทและคาแรกเตอร์ต่าง ๆ ในหนังเรื่องนี้อาจจะยังไม่เข้มแข็งถึงที่สุด มาแค่เพียงชั้นพื้นฐานของแต่ละตัวละครเท่านั้น ทำให้เราสัมผัสได้แค่ห้วงความคิดและอารมณ์แบบผิวเผินไปตามท่วงทำนองที่หนังร้อยเรียงออกมาอย่างที่เป็น กลายเป็นหนังที่อาจจะไม่ได้บาดลึกหรือคมคายในแง่การชอนไช้เข้าไปสำรวจด้านลึกในความสัมพันธ์และความคิดจิตใจของตัวละครขนาดนั้น

ทางฝั่งการแสดงต้องบอกเลยว่า..เอาอยู่แน่นอน เพราะแค่เห็นชื่อ 3 นักแสดงนำก็ไว้ใจได้แล้ว ซงซึงฮอน ที่ค่อนข้างโฟลว์หน่อย เพราะกลับมาร่วมงานกับผู้กำกับที่เขารู้จักสไตล์การทำงานเป็นอย่างดี ถึงบทที่เขาได้รับเหมือนจะดูมีอะไร สุดท้ายก็ปล่อยตามน้ำไปแบบตื้นเขินไปนิด แต่เสน่ห์กับอินเนอร์แอคติ้งของเขาก็เปล่งประกาย แม้ว่าจะเป็นชายหนุ่มวัยจะเข้าเลข 5 แต่รูปร่างและหุ่นของคุณพี่ยังเป๊ะปังเหมือนตอนวัย 30 ต้น ๆ

ขณะที่ 2 สาว "โชยอจอง" กับ "พัคจีฮยอน" ที่ถือว่าน้ำหนักบทบาทค่อนข้างเฉลี่ยไล่เลี่ยกัน ดูเหมือนว่ามิติในบทฝั่งของพวกเธอจะมีลูกเล่นอะไรให้เยอะกว่าหน่อย แม้ว่าจะไม่ได้เป็นบทที่แปลกใหม่อะไร แต่พวกเขาทั้งคู่สามารถบดขยี้มันออกมาได้สนุก และทำออกมาได้เกินกว่าที่คิดเอาไว้เลยทีเดียว นี่อาจจะเป็นการแสดงที่บทส่งแบบสุด ๆ ส่งไปเรื่อย ๆ จนปล่อยให้คนดูว่าพวกเธอจะไปสุดที่ตรงไหนกันนะ?

ดังนั้นโดยภาพรวมแล้ว Hidden Face เล่ห์ร้อนซ่อนชู้ ก็จัดได้ว่าเป็นหนังที่ตอบโจทย์สิ่งที่คนดูอยากจะเห็นได้เป็นอย่างดี แน่นอนว่าเพราะเป็นรีเมคการเปรียบเทียบย่อมตามมา แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าคอนเทนท์ค่อนข้างซื้อใจและสร้างอรรถรสกับคนดูได้เป็นอย่างดี เพราะพยายามจะทำให้คล้อยตามว่าคนดูรู้ทิศทางแล้ว แต่อยู่ ๆ ก็เลี้ยวพาไปอีกทางแบบสาแก่ใจ จึงเป็นหนังระทึกขวัญปั่นประสาทหน่อย ๆ ที่เล่นสนุกไปกับผู้ชมได้ดี ถึงจะผิวเผินไปในหลาย ๆ จุด แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาที่กระทบต่อความสนุกของหนังเลย