แต่นั่นก็นำมาสู่ความอึดอัดคับข้องใจของเขาเองในการรับบทนี้ ช่วงหลังจากที่ริกแมนเสียชีวิต ได้มีการนำเอาจดหมายที่เขาบันทึกไว้ในระหว่างถ่ายทำ ‘Harry Potter and the Chamber of Secrets’ (2002) โดย 1 ในฉบับนั้นมีใจความที่ เดวิด เฮย์แมน (David Hayman) โปรดิวเซอร์ของหนังได้กล่าวขอบคุณริกแมนที่กำลังรู้สึกผิดหวังกับการรับบทบาทนี้

ปี 2005 ระหว่างถ่ายทำ ‘Harry Potter and the Order of the Phoenix’ (2007) ริกแมนได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ว่ามีอาการของมะเร็งต่อมลูกหมาก ซึ่งทำให้เขาเริ่มลังเลที่จะยังคงรับบทบาทนี้อีกครั้ง จนในปี 2006 ริกแมนได้เข้ารับการผ่าตัดและพักฟื้น และหลังจากนั้น เขาก็กลับไปถ่ายทำ ‘Harry Potter’ ภาคที่ 5 ต่อให้เสร็จสิ้นทั้งที่ร่างกายยังอ่อนแอจากการพักฟื้นได้ไม่นาน

เขาเลือกที่จะต่อสู้กับโรคมะเร็งแบบเงียบ ๆ โดยไม่ได้บอกใครนอกจากคนใกล้ชิด มะเร็งเริ่มลุกลามจนกลายเป็นมะเร็งตับอ่อนระยะสุดท้าย จนมาถึงภาคสุดท้าย ‘Harry Potter and the Deathly Hallows – Part 2’ (2011) เขาเองก็ยังคงสวมบทบาทสเนปได้อย่างสมบูรณ์แบบ จนกระทั่งในวันที่ 14 มกราคม ปี 2016 โลกก็ได้สูญเสียริกแมนไปตลอดกาลด้วยวัย 69 ปี ทิ้งบทบาทศาสตราจารย์สเนปไว้ให้ระลึกถึง

ในบทสัมภาษณ์เดียวกัน แรดคลิฟฟ์ยังได้เปิดเผยถึงความน่ารักของริกแมนอีกอย่างก็คือ แม้จะไม่ได้ร่วมงานกันแล้ว แต่ริกแมนก็ยังสนับสนุนเขาในอาชีพนักแสดงละครบรอดเวย์ต่อไปด้วยการไปร่วมชมและให้คำแนะนำแก่นักแสดงรุ่นหลานคนสนิทอย่างต่อเนื่อง

“เขายอมสละเวลาพักร้อนที่แคนาดาเพื่อบินมาดูเรื่อง ‘Equus’ ที่ผมแสดงครับ ตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่ เขาเป็นคนที่ดูละครเวทีทุกเรื่องที่ผมแสดงเลย และหลังจากแสดง เขาจะพาผมไปคุยในเรื่องนี้กัน เขาเป็นคนแรก ๆ ที่บอกผมว่า ‘นายควรจะลองฝีกการออกเสียงกับโค้ชนะ แล้วก็ลองสำรวจในจุดนั้นดู'”

“ผมเองโชคดีมากที่ได้ยินคำพูดที่น่ารักของเขา ขอบคุณที่เปิดคลิปนั้นให้ผมดูครับ”