อิดริส เอลบา โดนเหยียดเชื้อชาติอย่างรุนแรง เพราะถูกจับตามองว่าอาจได้เป็น James Bond คนใหม่
อิดริส เอลบา (Idris Elba) นักแสดงรุ่นใหญ่วัย 50 ปี ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการพอดแคสต์ Smartless โดยเขาได้เปิดเผยถึงความเจ็บปวดที่เขาต้องเผชิญจากการถูกเหยียดเชื้อชาติ เมื่อเขาได้รับจากจับตามองว่าอาจได้เป็น เจมส์ บอนด์ (James Bond) คนต่อไป
“ความจริงก็คือ เจมส์ บอนด์ เป็นหนึ่งในบทที่ผู้คนให้ความสนใจมากที่สุด การที่มีคนขอให้คุณรับบท เจมส์ บอนด์ นั้นก็เหมือนกับคุณมาถึงจุดสูงสุดแล้ว หรืออะไรประมาณนั้น และนั่นเป็นหนึ่งในหลาย ๆ ประเด็นที่ทั้งทำโลกพุ่งเป้ามาที่ผม
โดยพื้นฐานแล้ว มันเป็นเหมือนกับคำชมเชยครั้งใหญ่จากทั่วทุกมุมโลกที่แสดงความยินดีกับแนวคิดที่ผมอาจได้รับการพิจารณา
แต่ก็มีบางมุมที่ไม่รู้สึกยินดีกับความคิดนี้ ซึ่งคนเหล่านั้นทำให้เรื่องนี้กลายเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจและสร้างความขุ่นเคืองเป็นอย่างมาก เพราะมันกลายเป็นเรื่องของเชื้อชาติ เป็นเรื่องไร้สาระ และผมได้รับผลกระทบจากมันอย่างรุนแรง”
เอลบานั้นได้รับการจับตามองว่าอาจอาจเป็นนักแสดงผิวสีคนแรกที่ได้รับบทสายลับ 007 ซึ่งแฟน ๆ ก็เชียร์ให้เขามีโอกาสมารับบทนี้จริง ๆ ภายหลังจากที่ แดเนียล เคร็ก (Daniel Craig) ได้โบกมือลาไปใน ‘No Time to Die’ (2021)
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2022 ที่ผ่านมา เอลบาเคยกล่าวว่า บทนี้ไม่ใช่จุดสูงสุดในอาชีพและไม่สอดคล้องความมุ่งมั่นในอาชีพนักแสดงของเขา และต่อมา บาร์บารา บรอคโคลี (Barbara Broccoli) ผู้สร้างแฟรนไชส์ James Bond ก็ได้ออกมากล่าวว่า เธอเข้าใจที่เขาลังเล เพราะมันเป็นการทุ่มเทครั้งใหญ่ในชีวิต เนื่องจากนักแสดงจะต้องทุ่มเทให้กับบทนี้ไปอีก 10 – 12 ปี เป็นอย่างน้อย
แม้ว่าเอลบาในวัย 50 ปี นั้น ดูเหมือนจะไม่ใช่ตัวเลือกหลักในการรับบทบอนต์คนใหม่อีกต่อไป แต่ก็ยังมีนักแสดงผิวสีรุ่นใหม่อย่าง เรเจ-ฌอง เพจ (Regé-Jean Page) ที่ถูกพูดถึงในประเด็นนี้อยู่เหมือนกัน ในขณะที่หลายสื่อจับตามองว่า แอรอน เทย์เลอร์-จอห์นสัน (Aaron Taylor-Johnson) นักแสดงชาวอังกฤษวัย 33 ปี อาจเป็นตัวเลือกแรก ๆ ที่บรอคโคลีให้ความสนใจในขณะนี้
ที่มา : ScreenRant และ Express.co.uk