In From The Cold เป็น Netflix Original Series ที่มาในแนวสายลับรัสเซียและตลอดทั้ง 8 ตอนของซีรีส์นั้นมันเต็มไปด้วยความหลากหลายของรสชาติ มีทั้งแอ็คชั่น มีทั้งดราม่า หรือแม้แต่ไอเดียของความเป็นไซไฟซีรีส์เองก็เล่าออกมาได้น่าสนใจระดับหนึ่งเลยปีที่ออกอากาศ : ค.ศ. 2021ประเภท : รายการทีวีระทึกขวัญ, ทีวีไซไฟ, ทีวีอเมริกันผู้กำกับ : อดัม กลาสนักแสดง : มาร์การิตา เลวีวา, คิลเลียน โอซัลลิแวน, สตัสยา มิลอสลาฟสกายา, ลิเดีย เฟลมมิงช่องทางการรับชม : Netflixภาษาในการรับชม : เสียงพากย์ : ไทย, อังกฤษ | คำบรรยาย : ไทย, อังกฤษ, จีน, ระดับความเหมาะสม : อายุ 18+เหตุการณ์ในซีรีส์จะเล่าเกี่ยวคุณแม่ลูกหนึ่งที่ชื่อว่า เจนนี่ แฟลงค์ลิน เธอคนนี้ดูผิวเผินก็เหมือนคนธรรมดาทั่วไปแต่จริงๆแล้วเบื้องหลังของเจ้าตัวนั้นคือสายลับรัสเซียที่เคยใช้โค้ดเนมส์ว่า เดอะวิสเปอร์ แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้เจนนี่นั้นวางมือจากการเป็นสายลับแล้วไปใช้ชีวิตธรรมดาแบบสามัญชน "ซึ่งสาเหตุตรงนี้ซีรีส์เองก็ได้อธิบายเอาไว้ค่อนข้างน่าสนใจแถมมีการเล่าเรื่องราวของเจนนี่แบบสลับสองไทม์ไลน์นั้นคือในเวลาปัจจุบันกับอีกช่วงเวลาในอดีตตอนที่เธอยังเป็นสายลับมือใหม่" หลังจากที่เธอลาวงการนั้นมันก็ไม่ช่วยให้เจ้าตัวหลุดพ้นวงจรพวกนี้เลยเพราะเธอได้ถูกอดีตเจ้าหน้าที่ CIA ที่ชื่อว่า ชอว์ซีย์ บังคับให้เธอกลับมาเป็นสายลับอีกครั้งและถ้าเธอปฏิเสธก็จะโดนจับเข้าคุก เรียกได้ว่าไม่มีทางเลือกให้นางเอกของเราเลือกได้เลยความน่าสนใจอย่างแรกที่ได้ชัดคือพล็อตของเรื่องที่ทำออกมาค่อนข้างสนุกเรื่องราวเกี่ยวกับสายลับรัสเซียที่มีไม่มากนักในเวอร์ชั่นซีรีส์ ส่วนใหญ่จะอยู่ในภาพยนตร์ซะเยอะ แถมการเล่าสลับสองไทม์ไลน์นั้นมันก็ยิ่งเพิ่มความน่าสนใจเพราะมันยิ่งเป็นการเพิ่มมิติของตัวละครอย่าง เจนนี่ ให้เราให้มุมมองเธอมากขึ้น และส่วนตัวผู้เขียนเองก็ค่อนข้างชอบการเล่าไทม์ไลน์ในอดีตเนื่องด้วยคาแรคเตอร์ เจนนี่ ที่มีความเป็นสายลับมือใหม่แถมนักแสดงก็ค่อนข้างน่ารัก "ซีรีส์นั้นใช้นักแสดงคนละคนกับไทม์ไลน์ปัจจุบัน" ความน่าสนใจอย่างต่อมาคือพลังพิเศษของนางเอก นอกจากจะเป็นสายลับรัสเซียแล้วนั้นเธอก็ยังแปลงร่างเป็นคนอื่นได้อีกด้วย ซึ่งการที่เจ้าตัวแปลงร่างได้นั้นมันมาจากผลข้างเคียงของยาบางอย่างที่มีการทดลองในอดีต แถมซีรีส์เองก็เพิ่มกฎของการแปลงร่างเข้ามาซึ่งผมเองมองว่าผู้กำกับทำการบ้านมาได้ดีเลย มันทำให้เนื้อเรื่องดูจริงดูไม่เป็นซุปเปอร์ฮีโร่จนเกินไปเพราะเวลาเธอกลายร่างมันจะมีเวลาจำกัดในการคืนร่างเดิมและการจะแปลงเป็นใครนั้นต้องมีการสัมผัสกันก่อนเพื่อคัดลอกดีเอ็นเอของคนๆนั้นมา จนบางทีผู้เขียนเองก็รู้สึกว่าประเด็นการเป็นสายลับเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวของเธอดูเป็นเรื่องรองไปเลยถ้าเทียบกับไอเดียแปลงร่างได้พลังนักแสดงอีกหนึ่งความน่าสนใจของพลังนักแสดงที่หลักๆแอร์ไทม์ของเรื่องมันไปกองอยู่ที่ตัวละคร เจนนี่ แฟลงค์ลิน ซะเยอะ แถมนักแสดงทั้งสองคนก็เล่นได้ดีทั้งในเวลาปัจจุบันและเวลาในอดีต และยิ่งนางเอกในเวลาปัจจุบันที่รับบทโดยคุณ มาร์การิต้า เลวีว่า ที่ถึงแม้จะไม่ค่อยคุ้นหน้าแต่การแสดงเธอนั้นจัดเต็มมาก ทั้งคิวบู๊ ทั้งฉากดราม่า ที่ดูไปดูมาเธอเองมีความแอบคล้าย แบล็ควิโดว์ ผสมกับ เรด สแปร์โรว์ อยู่ไม่น้อยเลย ส่วนนักแสดงที่เล่นเป็นเจนนี่ในช่วงเวลาอดีตก็แสดงได้ดีตามมาตรฐานและต้องยกนิ้วให้กับการแคสติ้งของซีรีส์ที่เลือกนักแสดงได้หน้าเหมือนกันมากๆ ส่วนนักแสดงคนอื่นๆก็เล่นได้ดีระดับหนึ่งถึงแอร์ไทม์อาจจะมีไม่มากเท่าไรแต่ก็ยังพอเป็นสีสันให้กับซีรีส์ได้ และนักแสดงที่บทค่อนข้างขัดใจ คือลูกสาวที่ชื่อ เบ็กก้า ด้วยคาแรคเตอร์ที่ดูเป็นเด็กเอาแต่ใจเพราะปมในอดีตเรื่องพ่อ หลายครั้งที่เธอทะเลาะกับแม่ตัวเองจนมันเกิดซีนดราม่ามาเบรคความสนุกของซีรีส์อยู่บ่อยๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็เข้าใจได้ถึงจุดประสงค์ของซีรีส์ที่พยายามใส่ดราม่า แม่ ลูก มาบ่อยๆ เพราะตรงนี้มันจะเชื่อมโยงเรื่องราวในอดีตของนางเอกที่จะเกี่ยวกับแม่แท้ๆของเธองานโปรดักชั่นโลเคชั่นถ่ายทำค่อนข้างสวยที่เน้นถ่ายในกรุงมาดริดของสเปน แถมคิวบู๊ของนางเอกเองก็ดูเนียนตา ดูไม่หลอกคนดู ยิ่งฉากที่เธอแปลงร่างเป็นคนอื่นนั้นมันยิ่งเห็นถึงความใส่ใจรายละเอียดของคอมพิวเตอร์กราฟฟิกมากจุดด้อยอย่างแรกคือตัวร้ายในเรื่อง ที่บทจะร้ายก็ร้ายไม่สุดดูเป็นศัตรูที่ไม่ค่อยสมน้ำสมเนื้อกับนางเอกเท่าไรโพล่มาแต่ละครั้งก็เต็มไปด้วยบทพูดซะมากกว่า ต่อมาคือเรื่องคอสตูมของนางเอกที่ดีไซน์ออกมาค่อนข้างสวยมีความแอบคล้าย นาตาชา โรมานอฟ นิดๆหน่อยๆ แต่กลับกลายเป็นว่านางเอกเองก็แทบไม่ได้ใส่มันเลยเหมือนเอาคอสตูมมาโชว์เรียกน้ำย่อยเฉยๆและยิ่งตอนหลังๆที่เธอเองต้องแปลงร่างบ่อยขึ้นเราก็แทบจะลืมชุดนี้ไปเลยด้วยซ้ำ สุดท้ายคือเรื่องเอฟเฟกต์สลับฉากระหว่างปัจจุบันกับอดีตที่ใช้การ ZOOM IN/OUT แบบ Distortion ซึ่งเราเองมักจะเห็นการทำประมาณนี้ในซีรีส์เกรดบีบ่อยครั้งจนบางทีมันดูไม่ค่อยเข้ากันเท่าไรกับเนื้อเรื่องที่ค่อนข้างเข้มข้นจริงจังของซีรีส์สรุปโดยรวมIn From The Cold เป็นอีกหนึ่งซีรีส์ที่ดูเน้นเสพความสนุก ฉากแอ็คชั่นมันส์ๆ ได้แบบเพลินๆ 8 ตอนรวด เพราะแต่ละตอนของซีรีส์เองนั้นเล่าออกมาค่อนข้างกระชับไม่ช้าจนเกินไป ถึงแม้พล็อตสายลับอาจจะดูธรรมดาแต่ไอเดียเรื่องการแปลงร่างที่ใส่เข้ามานั้นค่อนข้างหวือหวาใช้ได้เลย และเราคงต้องมาลุ้นกันว่าซีรีส์จะต่อยอด SS2 ไหมเพราะตอนจบก็ดันเล่นทิ้งปมชิ้นใหญ่เอาไว้ซะขนาดนั้นhttps://youtu.be/5JjWsc3ubyU รูปภาพประกอบบทความ ภาพหน้าปก : serienjunkies | ภาพประกอบที่ 1 : Netflix Geeked | ภาพประกอบที่ 2 : Netflix Geeked | ภาพประกอบที่ 3 : Netflix Geeked | ภาพประกอบที่ 4 : Netflix Geeked | วิดีโอประกอบ : Netflixบทความแนะนำจากผู้เขียนรีวิว The Silent Sea ทะเลสงัด (แบบไม่สปอยล์)The Wasteland หนีเอาตัวรอดจากปีศาจที่เกิดจากความกลัวThe Lost Daughter ภาพยนตร์ดราม่าส่งท้ายปีที่เล่าถึงความเป็นแม่ได้สะเทือนอารมณ์รีวิว Archive 81 วิดีโอเทปลึกลับกับไทม์ไลน์เวลาประหลาดรีวิวหลังดูจบ All of Us Are Dead (Netflix) ซีรีส์ซอมบี้บุกโรงเรียนกับเนื้อเรื่องที่อัดแน่นมาครบทุกรสชาติ🎬 ดูซีรีส์แล้วอินยิ่งต้องมาแชร์ประสบการณ์ความฟินกันใน TrueID Community 📺✨อัปเดตข่าว ดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID ฟรี!