คำว่า "สไปเดอร์แมนภาคที่ดีที่สุด" ไม่ได้เกินไปเลยจริงๆครับ ทั้งการกระจายบทรวมไปถึง Sequence(ลำดับ) ในฉากต่างๆนั้นทำได้ดีมากๆ ไม่มีช่วงน่าเบื่อเลยครับ มีช่วงดราม่าบ้างมีช่วงปรับความเข้าใจถึง Motivation(แรงจูงใจ) ของสไปเดอร์แมนทั้ง 3 คน เพราะทั้ง3คนมี Charisma(เสน่ห์) เฉพาะตัวของตัวเองทั้งนั้น ทั้งในเวอร์ชัน Andrew Garfield ที่สูญเสียคนรักไป เวอร์ชัน Tobey Maguire ที่เสีย Gwen ไป จะเห็นได้ว่า ทั้ง 2 คนนี้ได้มา Fullfill (เติมเต็ม) สิ่งที่ สไปเดอร์แมน Tom Holland นั้นขาดไป สอนอะไรหลายๆอย่าง เช่น ความรับผิดชอบ , สิ่งที่ต้องแลกมาและสิ่งที่ต้องเสียไป , การเตรียมใจ , หน้าที่ที่ต้องแบกรับ , การเติบโตเป็นผู้ใหญ่ มี Quote(คำพูด) ที่ยอดฮิตนั่นก็คือ 'With great power comes great responsibility' (พลังที่ยิ่งใหญ่มากับความรับผิดชอบที่ใหญ่ยิ่ง) ทำให้คำพูดนี้ขลังมากๆครับ เพราะทั้ง Peter Parker ของจักรวาลนี้รวมทั้งผมเองได้รับรู้ถึงใจความของข้อความกับสิ่งที่ภาพยนต์ต้องการจะสื่ออย่างชัดเจนครับในส่วนของฉาก Action(ต่อสู้) บอกเลยว่ามันส์มากๆครับ มันส์จัดๆเลยเพราะจะมีการ Encounter(ประจัญหน้า) กับศัตรูหลายๆแบบมากๆ และ Conflict(ความขัดแย้ง) ที่เกิดขึ้นตลอดเวลาในใจของปีเตอร์ที่เป็นตัวละครดำเนินเรื่องหลักในภาคนี้ และ มี MJ (michelle mj jones) ที่รับบทโดย Zendaya กับ Ned Leeds ที่รับบทโดย Jacob Batalon เป็นเพื่อนและคนรักของปีเตอร์และเปรียบเสมือนสหายร่วมสู้กับสไปเดอร์แมนของเราจนจบเรื่องในส่วนของ Villain(วายร้าย) ของเรานั้นแต่ละตัวละครโคตรมีเสน่ห์ในตัวครับ แต่ละตัวละครได้แสดงมุมและพลังของตัวเองได้ดี ไม่มีใครด้อยไปกว่าใครครับอย่างที่เกริ่นไปข้างต้นว่าภาพยนต์เรื่องนี้ค่อนข้างกระจายบทได้ค่อนข้างดีเลย ทั้ง Otto Octavius , Electro , Norman Osborn หรือ Green Goblin , Sandman , Lizard ซึ่งที่จะไม่พูดไม่ได้เลยคือ Doctor Strange ที่รับบทโดย Benedict Cumberbatch ซึ่งเป็นผู้ที่แนะนำปีเตอร์ในช่วงแรก จะมี Dialogue(คำพูด) นึงที่บอกกับปีเตอร์ว่า "นี่นายจะให้ฉันร่ายเวทย์มนต์โดยที่ไม่ได้ขออะไรก่อนงั้นหรอ" เป็นการเตือนสติปีเตอร์ว่า อย่าตัดสินใจอะไรที่เกิดขึ้นเพียงชั่ววูบ ให้คำนึงผลที่ตามมาด้วย เพราะผลกระทบที่จะเกิดขึ้นไม่ใช่แค่ปีเตอร์ ไม่ใช่แค่โลกใบนี้ แต่มันส่งผลถึง Multiverse(พหุจักรวาล) อื่นๆด้วย คำนึงถึง Consequence(ผลที่ตามมา) นั้น รุนแรงมาก หาเปรียบใดเทียบเลย ทำให้ปีเตอร์สะดุดนึกคิดขึ้นมาได้ว่าควรจะคำนึงอะไรเป็น Main Priority(ความสำคัญหลัก) ที่ควรจะจัดการก่อนในส่วนของ Easter Egg และ End Credit ทั้ง 2 Montage(คลิปวีดีโอ) นั้น บอกเลยว่าบอกอะไรเยอะมากๆ เพราะ ถ้าคนดูหนังของ MCU (Marvel Cinematic Universe) นั้นจะเห็นอะไรเยอะมากๆ และจะทำให้พวกคุณอมยิ้มกับแต่ละฉากที่ใส่เข้ามาตั้งแต่เริ่มเรื่องยันท้ายเรื่องจะมี Easter Egg แฝงเอาไว้ตลอดทั้งเรื่อง ในส่วนของฉากที่จะมีอะไรต่างๆมาจากผลกระทบจากความขัดแย้งและความชุลมุนจากทั้ง Villain กับ Dr. Strange จึงทำให้เกิดเหตุการณ์ที่จะมีสิ่งมีชีวิตหรืออะไรแปลกๆเป็นปรากฎการจากต่างมิติโผล่มามากมาย คือถ้าเอาจริงๆ ถ้าลงช่องทาง Online Streaming แบบถูกลิขสิทธิ์ จะสามารถ Pause(หยุด) ฉากนั้นๆ เก็บรายละเอียดต่างๆได้ครับ ซึ่งใน End Credit ตอนท้ายจะมี Tom Hardy ตัวละครเอกจากภาพยนต์ Venom และ Venom 2 Let There Be Carnage <<<<< ใครยังไม่อ่านคลิก! เข้ามานั่งเป็นฉากฮาๆแต่มีเหตุการณ์แสงประหลาดเกิดขึ้น Tom Hardyก็บอกเองเลยว่า "บางที ฉันอยากไปคุยกับเจ้านั้น...Spiderman " กับ End Credit 2 จะเป็น Trailer : Doctor Strange 2 Multiverse Of Madness ครับ ซึ่งบอกเลยว่าน่าสนใจมากๆเลยทีเดียวในส่วนของดราม่า บอกเลยว่า 'อรรสรถ' มากครับ จะมีเหตุการณ์ที่ป้าเมย์เสียชีวิตเป็นเหตุการณ์ที่เรียกน้ำตาให้ใครหลายๆคนได้เลยทีเดียว เป็น Turning Point (จุดเปลี่ยน)ของเรื่องทำให้ ปีเตอร์ได้พบเจอกับ Spiderman อีก 2 คนที่กล่าวไปข้างต้นซึ่งเป็นบทเรียนที่สอนโดยทำให้ปีเตอร์เติบโตเป็นผู้ใหญ่และก้าวต่อไป อีกฉากนึงที่ไม่พูดไม่ได้คือ ฉากที่ปีเตอร์นั้นได้ขอกับหมอแปลกให้ทุกคนๆลืมว่าปีเตอร์เป็นSpiderman เพื่อที่จะให้การเกิดมิติบิดเบือนและแตกออกนั้นกลับมาเป็นปกติ โดยไม่มีความลังเลโดยตัดสินใจทุกๆอย่างดีแล้ว อีกฉากนึงที่ต้องพูดถึงคือ Last Kiss (จูบสุกท้าย) กับ MJ ก่อนที่ทั้งสองคนจะไม่รู้จักกันนี่ก็เป็นอีกฉากนึงที่ซึ้งจนเรียกน้ำตาใครหลายๆคนได้อีกฉากนึงครับ โดยจะรวมกับอีกฉากนึงคือ ปีเตอร์ไปบอกลา Spidermanอีก 2 คน ซึ่งทั้ง2คนนั้นบอกกลับมาว่า "เข้าใจ มันคือหน้าที่" บอกเลยว่าซึ้งและกินใจมากครับก่อนหน้านั้นจะมีการคุยปรับความเข้าใจถึงภูมิหลังของตัวเองกับตัวร้ายภาคนั้นๆ โดยการคุยระหว่างSpiderman ทั้ง 3 คน ทำให้เราได้ครบทุกอารมณ์ครับ ทั้งประทับใจ อิ่มเอมใจ เศร้า ดีใจ สนุก ดราม่าบอกเลยว่าครบรสมากๆครับOverall Analysis (การวิเคราะห์โดยรวม)อย่างที่ผมบอกครับว่าจะมีการวิเคราะห์ในมุมมองของคนที่จ่ายราคาเต็ม (200-240 บาทในกรณีHoney Moon) ด้วย แต่เรื่องนี้ข้ามการวิเคราะห์ในส่วนนี้ไปครับเพราะในมุมมองของผมแล้ว 'ไม่ว่ายังไงก็คุ้ม' ครับไม่ว่าจะราคาเต็มหรือไม่สิ่งที่คุณจะได้คือความสุขสนุกครบรสประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น ฉากต่อสู้ที่สุดมันส์ ฉากดราม่าเรียกน้ำตา ข้อคิดที่คุณสามารถนำไปปรับใช้ได้ครับ ซึ่งองค์ประกอบหลายๆอย่างของเรื่องนี้นั่นบอกเลยว่าสมบูรณ์แบบที่ควรจะเป็นครับ ไม่ว่าจะเป็นการดำเนินเรื่อง ความตลกในฉาก ฉากการต่อสู้ แรงจูงใจกับเหตุผลของตัวละคร บอกได้เลยว่าเป็นอีกเรื่องที่ไม่ควรพลาดและไปดูในโรงภาพยนต์กันครับ ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้แล้วอยากจะแชร์บทความนี้ให้เพื่อนๆของคุณและชวนกันไปดูด้วยกัน รบกวนกดเเชร์กันได้เลยครับ รับชม Trailer ด้านล่าง สำหรับคะแนนที่ผมจะให้คือ 9.5 / 10ครับ อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียง Personal Opinion (ความคิดเห็นส่วนตัว) ขอผมเท่านั้นครับผม แต่รับประกันความมันส์ของภาพยนต์ได้เลยครับ รับชมภาพยนต์ให้สนุกครับผมVIDEO CREDIT TRAILER CLIP BY YOUTUBE : Sony Pictures Entertainment IMAGES CREDIT : Thank for beautiful Thumbnail by Facebook : Spider-ManThank for beautiful illustration by Facebook : Marvel Facebook : Spider-Man (Picture 2,4,5) Instagram : spidermanmoviePicture 1 / Picture 2 / Picture 3 / Picture 4 / Picture 5ติดตามบทความอื่นได้ใน ดูจบแล้วมารีวิว ด้วยนะครับ ขอบคุณสำหรับการอ่านบทความครับจะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !