Special Short Comment : Our Blues : เวลาสีฟ้าหม่น (2022)"ยองจู-ฮยอน กุญแจไขมิตรภาพที่ถูกกักขังของ โฮซิก-อินกวอน"คำเตือน ททความนี้เปิดเผยเนื้อหาสำคัญสารภาพว่าที่ผ่านมาดูไปบ่นไปไม่ค่อยดูซีรีส์ออกอากาศสดเพราะไม่ชอบรอ แต่ปัจจุบันชั้นเชิงการเล่าเรื่องของซีรีส์เกาหลีแพรวพราวจนจับทางยากทำให้ในบางตอนบางแง่มุมมักมีอะไรให้ประหลาดใจอยู่เสมอ จนเมื่อเผลอไปเริ่มดูซีรีส์ที่ออกอากาศสดก็เกิดความมัวเมาเพราะชั้นเชิงที่ว่ามาสัมผัสได้ตรงใจคนดู เช่นกันเมื่อครั้งที่ผู้เขียนดูซีรีส์จากค่าย tvN ที่ออกอากาศสดทาง NETFLIX ที่จบไปก่อนหน้าคือ Twenty Five Twenty One ก็พบว่าเรื่องนั้นมีความคมคายจับใจและเป็นว่าที่ซีรีส์แห่งปีในใจผู้เขียน จนต้องออกมาเขียนบทความย่อยๆได้อีกหลายมุมมองถึงมิติที่ประทับใจในเรื่อง แต่นั่นคือหลังจากดูจบแล้วมานั่งคิดเพราะทุกมิติถูกเล่าระยะทางยาว แต่การมาของซีรีส์เรื่องที่เข้าฉายต่อมากลับแพรวพราวกว่าด้วยความคมคายที่มาแบบย่อยๆมีบทสรุปในตัวแบบไม่ต้องรอนาน แต่สุดประทับใจในความคมคายที่แสนธรรมดาเหมือนกับเรื่องราวนี้จนต้องมาเขียนถึงบ่อยๆเรื่องของสองครอบครัวที่เหมือนมีโลกคนละใบ สีฟ้าหม่นของสองครอบครัวนี้เริ่มที่คนรุ่นพ่อที่เป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยวทั้งคู่ หนึ่งคือบังโฮซิก (ชเวยองจุน) พ่อค้าน้ำแข็งในตลาดที่มีลูกสาวเรียนดีที่หนึ่งและเป็นหัวหน้าห้องบังยองจู (โรยุนซอ) อีกหนึ่งคือจองอินกวอน (พัคจีฮวาน) พ่อค้าซุนแดในตลาดที่มีลูกชายเรียนดีที่สองและเป็นรองหัวหน้าห้องจองฮยอน (แบฮยอนซุง) ที่คนรุ่นพ่อเกลียดกันจนไม่เหยียบเงาไม่เผาผีแต่รุ่นลูกกลับชอบพอกัน จะด้วยเหตุผลใดก็ตามทั้งสองรักกันและยองจูท้องในวัยเรียน ทุกปัญหาในสังคมที่แคบในเกาะเชจูจึงเหมือนมรสุมโถมเข้าหาเด็กทั้งสองที่เป็นทุกอย่างของพ่อ แล้วเรื่องที่ไม่มีทางเลี่ยงก็คือเมื่อพ่อรู้ความจริงซ้ำต่างฝ่ายต่างเกลียดกันการปะทะกันทั้งความคิดและกำลังจึงเกิด แต่ทว่าเมื่อก้อนหินที่ลูกขว้างมากลับกลายเป็นกุญแจที่ทำให้สองคนที่เกลียดกันได้หวนนึกถึงความผิดพลาดในความสัมพันธ์กันฉันท์เพื่อนตายในอดีตการเลี้ยงลูก...คนที่เป็นพ่อแม่จะข้าใจว่าไม่ใช่เรื่องง่ายและยิ่งหนักเมื่อต้องเลี้ยงลูกมาโดยลำพังอย่างพ่อทั้งสองคน การได้ใช้ชีวิตอยู่กับลูกเพียงลำพังการได้ทำทุกอย่างทั้งหนักเบาเพื่อลูกเพียงลำพัง และการได้เห็นลูกเติบโตมาอย่างดีมีผลการเรียนดีนิสัยดีมันคือสิ่งที่ควรภูมิใจและทำให้กล้าที่จะฝัน ต่อให้ฝันนั้นจะเป็นฝันเพื่อตัวเองมีความสุขก็มิผิดเพราะลูกคือโลกทั้งใบที่สวยงาม แต่ทันทีที่สิ่งไม่คาดฝันเกิดขึ้นความฝันจึงพังทลายและมันยิ่งสาหัสเมื่อลูกมีปัญหารักในวัยเรียนแล้วเลยเถิดไปถึงขั้นตั้งท้อง แต่สิ่งที่พาความรู้สึกของพ่อทั้งสองไปสู่จุดล่มสลายทั้งหัวใจและความฝันคือคู่กรณีคือคนที่เกลียดกันยิ่งกว่าก้อนอาจม การพยายามแก้ปัญหาในแบบของคนรุ่นก่อนที่ยังยึดติดกับความฝันที่มีกรอบทางสังคมครอบอยู่ยิ่งทำให้สถานการณ์แย่ลงหรือไม่เมื่อมันคือการทำร้ายจิตใจโลกทั้งใบของตัวเอง แต่แม้จะเป็นเช่นนั้นพ่อสองคนก็ไม่ผิดทั้งโฮซิกและอินกวอนแล้วยองจูกับฮยอนผิดอะไร... ความรักไม่ใช่เรื่องผิดเมื่อคนสองคนรักกันก็ไม่มีอะไรมาขวางได้แม้กระทั่งความชังระหว่างพ่อทั้งสอง เพราะยังเห็นความเอ็นดูต่อเด็กทั้งสองฝ่ายเท่าๆกันเพราะอะไร? ปัญหาที่เกิดไม่ใช่ความผิดพลาดแต่เป็นเรื่องไม่คาดฝันเพราะมันเกิดจากความรัก เพียงแต่เรื่องบางอย่างมันซับซ้อนเกินกว่าเด็กวัยเท่านี้จะคิดได้หรือไม่ ด้วยวัยและการเลี้ยงดูที่แตกต่างของพ่อทั้งสองทำให้ปัญหาดูเหมือนไม่มีทางออกแต่มีทางเลือกสองทาง และเมื่อทั้งสองคนเข้าใจกันและยินดีจะกุมมือฝ่าฟันปัญหาจึงเป็นเหมือนพรจากพระเจ้าที่มอบให้เด็กทั้งสองที่ไม่ว่ายังไงก็ไม่พร้อม แต่จะมีใครให้พึ่งพิงได้นอกจากพ่อที่ไม่ต่างจากโลกทั้งใบของพวกเขาเช่นกัน และเมื่อความรักมันแข็งแรงหัวใจจึงแกร่งการตัดสินใจที่จะเดินเข้าสู้กับปัญหาก็คือสิ่งที่ถูก เพราะปัญหาของตัวเองต้องหันหน้าตัวเองเข้าสู้ เมื่อทุกอย่างเกิดขึ้นจากความรักยองจูและฮยอนก็ไม่ผิดแล้วใครผิด... อาจไม่มีใครผิดเพราะแม้จะเหมือนกับปัญหาของยองจูกับฮยอนจะเป็นทุกสิ่ง แต่ความจริงเรื่องมันซับซ้อนและมีจุดเริ่มต้นนานกว่านั้นเมื่อจุดตัดของความสัมพันธ์มันเกิดขึ้นและความสัมพันธ์นั้นสะบั้นลง และถ้าเรื่องของยองจูกับฮยอนเกิดจากความรักเรื่องของโฮซิกกับอินกวอนก็เกิดจากความเกลียด แต่ทุกอย่างมีเหตุผลในตัวมันความรักก็มีเหตุผลความเกลียดก็ไม่ต่างกัน เมื่อความเกลียดชังของคนสองคนเริ่มต้นที่ความสัมพันธ์กันดั่งเพื่อนที่ตายแทนกันได้ หนึ่งคือผีพนันที่ไม่รู้คุณค่าของการมีชีวิต อีกหนึ่งก็คือนักเลงหัวไม้ที่คุณค่าของชีวิตเป็นอย่างไรก็ไม่รู้เช่นกัน แน่นอนว่าคนสองประเภทนี้มักจะเป็นคนชั้นฐานรากที่การศึกษาไม่สูงนัก การคิดการกำระทำหรือคำพูดอาจไม่ได้ผ่านกระบวนการกลั่นกรองที่ละเอียดความหวังดีอาจกลายเป็นความประสงค์ร้าย แต่นั่นอาจเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตใครก็ได้เพราะบางครั้งพลังผลักดันไม่ได้มาในเชิงบวกอย่างเดียวเมื่อความรักกันฉันท์เพื่อนตายได้สะบั้นจนเป็นเกลียดชัง แต่กุญแจมันอยู่ที่คนหนึ่งรู้เหตุผลแต่คนหนึ่งไม่รู้ และแม้จะถูกเคลือบด้วยความเกลียดแต่มิตรภาพนั้นยังคงถูกขังอยู่ในส่วนลึกที่รอกุญแจไปไขมันออกมา และมิตรภาพที่ยังมีนั้นก็แปรมาเป็นความเอ็นดูต่อเด็กทั้งสองคนอย่างที่เห็น แต่บางเรื่องแม้จะดูนิดเดียวแต่ก็ยากที่สุดนั่นคือการยอมและลดทิฐิหันหน้ามาคุยกันเพื่อเฉลยต้นเหตุแห่งความเกลียดที่กักขังมิตรภาพที่มีต่อกัน แต่การคุกเข่าหรือการเอ่ยคำขอโทษจากใจอาจไม่ง่ายแต่สุดท้ายก็ต้องมีคนใดคนหนึ่งยอมลด ละ วางเพื่อเปิดอกคุยกันเพื่อโลกทั้งใบของพวกเขาคือลูก นั่นจึงเหมือนกับก้อนหินที่ถูกปาเข้าใส่จากปัญหาของลูกกลายเป็นของขวัญ เมื่อมันได้กลายเป็นกุญแจที่ไขประตูที่ปิดสนิทที่กักขังมิตรภาพที่สวยงามของพ่อทั้งสองไว้ และเมื่อปัญหาได้ถูกคลี่คลายจากต้นเหตุทุกฟ้าสีหม่นก็กลายเป็นฟ้าสดใสหลังมรสุมผ่านไปมิติที่หลักแหลมและคมคายของเรื่องนี้ที่เริ่มจากการจี้จุดปัญหาของการท้องในวัยเรียนและสิทธิมนุษยชนของนักเรียนที่ตั้งครรภ์ รวมไปถึงเรื่องทางสังคมที่ตัดสินเด็กโดยไม่สนเหตุผลกระทั่งกรอบความคิดของต่างเจนเนอเรชั่น ทำให้หัวใจคนดูสงสารเห็นใจเด็กและมองหาทางออกให้เพราะคนดูรู้เหตุผล แต่นั่นกลับพาคนดูไปสู่รากของปัญหาของสองครอบครัวที่มองเห็นความล้ำลึกของการเป็นพ่อแม่ ที่เลี้ยงลูกมาด้วยความยากลำบากและไม่อยากให้ลูกต้องลำบากเหมือนตน การใช้ปัญหาของลูกเป็นกุญแจเปิดห้องลับที่กักขังมิตรภาพของพ่อจนลงเอยด้วยความเข้าใจกันและกลับมารักกับจนกลายเป็นพ่อลูกสะใภ้และพ่อลูกเขย ทั้งยังมอบความเข้าใจกันระหว่างพ่อกับลูกเพราะคนเป็นลูกกำลังจะมีโลกทั้งใบของตัวเอง หรือกระทั่งคำพูดง่ายๆที่ไม่เคยได้ยินอย่าง "ยินดีด้วย" ก็ยังมีความหมายที่ลึกซึ้ง ทั้งยังสร้างทางแยกในใจคนดูว่าถ้าเป็นตัวคนดูเองจะทำอย่างไรเพราะการจุดไฟด้วยเรื่องหนึ่งที่ฉากหน้าเพื่อลงลึกไปสู่เบื้องหลังที่ซับซ้อนและคลี่คลายอย่างสวยงามทั้งเชิงหัวใจและเชิงสังคม ทำให้เรื่องของความรัก มิตรภาพและเรื่องหัวอกพ่อเรื่องนี้ออกมาฉลาด แหลมคม ประทับใจ และที่ต้องอวยยศกันไปคือการแสดงที่ถ่ายทอดความธรรมดาของคนธรรมดาออกมาอย่างธรรมดา จนคนดูเชื่อว่าสองคุณพ่อคือพ่อค้าธรรมดาแล้วเมื่อทราบเบื้องหลังที่ไม่ธรรมดายิ่งจับใจ กับการแสดงของชเวยองจุนกับพัคจีฮวานที่ใส่สุดขีดจนคนดูรู้ซึ้งถึงหัวอกพ่อ ที่สำคัญชนวนของเรื่องนี้ได้ถูกถ่ายทอดอย่างน่ารักและน่าเห็นใจจนเอาใจช่วย กับความรักของลูกที่ดูเหมือนเร็วไปแต่ใครจะห้ามความรักได้ของโรยุนซอกับแบฮยอนซุง โดยเฉพาะคนแรกนี่คืองานแสดงเรื่องแรกแต่ทำได้เยี่ยมเหลือหลาย ทำให้มิตินี้ที่เพิ่งมีบทสรุปไปดูคมคายที่มีรอยยิ้มท่ามกลางน้ำตาเป็นสายของคนดู แต่ทุกอย่างก็ต้องผ่านไปเพราะฟ้าไม่มีวันหม่นไปตลอดกาลซาบซึ้งเสียน้ำตาไปมากมายเพราะเป็นพ่อจึงรู้ถึงหัวอกพ่อดูไปบ่นไปNETFLIXขอบคุณภาพประกอบภาพปก / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 / ภาพที่ 5 / ภาพที่ 6 / ภาพที่ 7 / ภาพที่ 8 / ภาพที่ 9 / ภาพที่ 10 จาก Facebook tvN drama บทความที่เกี่ยวข้องกับ Our Blues : เวลาสีฟ้าหม่น ชวนชม Our Blues: เวลาฟ้าสีหม่น (2022) "ทุกคนอาจมีเหตุผลของตัวเอง คนดูก็เช่นกัน"ความเห็น(พิเศษ)หลังชม Our Blues : เวลาสีฟ้าหม่น (2022) Ep.1-3 "ฮันซู-อึนฮี เพื่อนและรักแรกตลอดกาล" เกาะติดซีรีส์เรื่องใหม่ ๆ ได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !