เรื่องที่ไม่มีวันลืม!! มดดำ คชาภา แฉวีรกรรมตัวเอง พร้อมเผยมุมมองความรักวันนี้ที่โตขึ้น
ข่าวบันเทิงวันนี้
แม้เบื้องหน้าจะดูเป็นพิธีกรฝีปากกล้า แต่ใครจะรู้ว่าหลังกล้องนั้น ชีวิตของ มดดำ คชาภา ตันเจริญ เคยผ่านเรื่องราวดราม่ามาเหมือนกัน ซึ่งเจ้าตัวที่ได้มาเป็นแขกรับเชิญคนสุดพิเศษใน รายการ Club Friday Show ผลิตโดย CHANGE2561 ได้แฉวีรกรรมของตัวเองแบบหมดเปลือก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแอบวางยาคุณย่าเพื่อหาเงินไปเปย์ผู้ โดนรูดทรัพย์ในโรงแรมม่านรูดจนหมดตัว พร้อมทั้งยังเปิดเผยความลับครั้งแรกถึงความรักที่ทำให้ชีวิตเสียศูนย์อยู่นานเป็นปี ๆ และหลังจากเลิกก็เที่ยวผู้ชายทุกคืนจนกระทั่งไปมีแฟนเป็นผู้ชายขายตัว
มดดำ คชาภา แฉวีรกรรมตัวเอง พร้อมเผยมุมมองความรักวันนี้ที่โตขึ้น
นายแบบที่ทำให้ มดดำ พูดคำว่ารักได้?
มดดำ : ตอนนั้นคือ เสียศูนย์มาก น่าจะเป็นผู้ชายที่ทำให้เราเสียศูนย์ที่สุดในชีวิตแล้ว เราเจอเขาครั้งแรกทำไมหล่ออะไรอย่างนี้ หล่อแบบเราระทวยเลย เราก็คิดแบบว่าทำไงดี (คือตอนนั้นเรายังไม่มีเงินซื้อรถซื้ออะไรเนอะ)
ทำไมมีความรักถึงคิดถึงเงินตลอด?
มดดำ : ไม่รู้เหมือนกันเพราะเราคิดอย่างนี้ตลอดเลย เพราะคิดว่าความรักต้องมากับเงิน ทุกคนเป็นอย่างนั้นหมดตั้งแต่เจอมาแต่คนนี้ ที่เป็นนายแบบ เขาเป็นคนไทย หล่อ และเป็นผู้ชายที่แบบว่าจนวันตายเราก็ไม่ลืม คือ เขาสอนให้เรารู้จักเจียมตัวเอง คือ จะมีอะไรกับเขาทีเขาถีบเราตกเตียงเลย ตบปากเรา เขาบอกว่าเขาขยะแขยงเรา เราก็แบบพอได้ฟังก็ร้องไห้ เราก็คิดนะเพราะเราเอาเราไปอยู่ในสภาพแบบนั้นเอง คือ ตอนที่อยู่กับเขาตอนนั้น อย่างพอเราจะตื่นมาจัดรายการเจ็ดโมงเราก็ต้องย่อง ๆเดินออกมาเบา ๆ จากห้องตัวเราเองนะ เพราะกลัวเขาตื่นแล้วเขาจะหนีไปจากเรา ต้องให้เขาเมาเข้าไว้เขาจะได้อยู่กับเรา อยู่ทนแบบนี้มาปีครึ่ง แล้วไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อนยอมเขาทุกอย่างเลย เพราะเขาหล่อมากเกิดมาเรารู้สึกว่าเราแพ้คนหล่อ ตัวสูง แพ้หมด กลัวเขาจะไม่อยู่ด้วยกับเรา เราเลยต้องเพิ่งสายมูทำยังไงก็ได้ให้ผู้ชายคนนี้อยู่กับเราให้ได้ตลอด ตื่นเช้ามาไปหาหมอดูเลย หมอดูบอกเราว่า มดดำ เธอถ้าอยากให้ผู้ชายคนนี้ อยู่ด้วยเธอจะต้องไปตักน้ำใต้ท้องเรือ เราก็ไปเลยกับ ป้อม วินิจ ที่ท่าเรือธรรมศาสตร์จะมีเรือข้ามฟากพอเรือออก มดดำ ป้อม วินิจ ไปตักน้ำใต้ท้องเรือ (คือ พอเรือที่ข้ามฟากมาแล้วพอคนลงหมดเราก็ต้องไปตักน้ำใต้ท้องเรือ) พอตักได้หนึ่งลำ สองลำ พอเราตักถึงลำที่เจ็ด ผู้ชายมากับเรารอเราอยู่ในรถ เราหันไปคือมีผู้หญิงนั่งรถแท็กซี่มารับ ผู้ชายไปแล้ว(หัวเราะ) ยังไม่ทันตกครบ 9 ลำเลย เขามีผู้หญิงมารับเขาตลอด เขาเจ้าชู้ไหม เจ้าชู้ คือ แบบสารพัดนะ แต่สำหรับคนนี้เราสามารถทิ้งทุกอย่างได้หมด ทั้งงาน ทิ้งเงิน ทิ้งทุกอย่าง ขนาดเรากำลังทำหน้าที่เป็นพิธีกรอยู่ กำลังจะเริ่มงาน หันไปอีกครั้งมีผู้หญิงมานั่งคุยกับเขา เราไม่ทำเลยงานอีเว้นท์นั้นจากวันนั้น จนถึงวันนี้เราไม่รับงานอีเว้นท์อีกเลย ช่วงนั้นคือ เราเหนื่อยมาก แล้วมีอยู่ช่วงเขาไปอยู่กับผู้หญิง เราก็ไปดูดวงว่าทำยังไงเขาจะกลับมา บินไปพม่าเลยพระบอกว่าไปเอามีดใหม่ ๆ มาเขวี้ยงลงแม่น้ำเจ้าพระยา เราก็ปีนสะพานเลยเพื่อเอามีดเขวี้ยงไปปุ๊บ!! ผู้ชายกลับมาจริง ๆ กลับมาเพราะเงินหมด พออีกวันเขาก็ไป ตอนที่เขาอยู่กับเรา ต้องเอาเงินวางไว้ให้เขาวันละ 3,000 บาท กลัวเสียเขาไป แต่เราไม่เคยได้เลย เรื่องที่เราเจอกับผู้ชายคนนี้ คือเยอะมาก วันหนึ่งเรานอน ๆ อยู่มีผู้หญิงใส่ผ้าขนหนูมาปลุกที่บ้านเลย ยังมีอีกผู้ชายจะเอามอเตอร์ไซค์ตอนเที่ยงคืน เราก็ต้องโทรหาดาด้า ช่วงนั้นเราฟังเพลง ฝุ่น ของคุณนายใหม่ คือ ฟังไปร้องไห้ไปเพราะเพลงเข้ากับชีวิตเราเหลือเกิน ตอนนั้นไปงานอีเว้นท์ได้ค่าตัวมาเท่าไหร่คือ ให้เขาหมดเลย คิดว่าเขาคงเป็นเจ้ากรรมนายเวรเรา
ร้องไห้เพราะเขากี่ครั้ง?
มดดำ : ไม่ค่อย แต่รู้สึกว่าเหนื่อย รู้สึกว่าเราหมดอะไรไปกับเรื่องไร้สาระเยอะมาก อย่างเราเอารถทิ้งไว้ให้เขาใช้หนึ่งคัน แต่ในระหว่างนั้นเราต้องจ้างมอเตอร์ไซค์ขับตามว่าเขาไปไหนใช้ชีวิตแบบนี้ทุกวันปีกว่า ๆ มอเตอร์ไซค์เขาก็จะโทรมาบอกเราว่าไปกับผู้หญิงที่โรงแรมแถวลาดพร้าว ตอนนั้น ตีสอง รายการไม่จัดเลยเพราะฉันจะบุก พอไปถึงรู้ห้องอะไรเรียบร้อย จ้างให้เด็กที่นั้นไปเอาน้ำมาให้เรา 1 ถังให้เขาไป 1,000 พอเปิดประตูเข้าไปกำลังมีอะไรกันอยู่ เราเอาน้ำสาดเลย แล้วเขาก็ถีบเราด่าเรามายุ่งอะไร เป็นรักที่เหนื่อยแล้วก็คำว่าพอ
คิดว่ามีสักนิดสักเสี้ยวไหมที่เขารักเรา?
มดดำ : ไม่มีเลย แต่เราหลอกตัวเองว่าการที่เขาอยู่กับเรา มันคือรักเรา เราคิดเสมอว่าจะมีใครที่จะดูแลเขาได้ดีขนาดนี้ แต่ความจริงเราสร้างโลกมโนขึ้นมาเอง เขาก็พร้อมที่จะมีคนอื่นที่ดูแลเขาได้ดีเหมือนกัน
แล้วหลุดจากเขาคนนี้มาได้ยังไง?
มดดำ : วันที่ปู่เราเสีย เราก็ร้องไห้ใหญ่เลย เราจะทำยังไงดีปู่เราตาย เขาพูดกับเราว่า ร้องไห้ทำไม เดินไปเคาะตามบ้านสิ บ้านไหนไม่มีคนตายบ้าง เราก็อึ้งไปเลยตอนนั้น หลังจากเลิก เขาก็พยายามจะกลับมาเหมือนเดิม คือ พยายามจะกลับมาอยู่บ้านเราเหมือนเดิม ช่วงนั้นทำให้เรารู้สึกว่าความรักที่แท้จริงมันไม่ใช่สำหรับเราแล้ว ก็เลยเริ่มเที่ยวผู้ชายทุกคืน แต่อยากจะบอกว่าเขาได้สอนเราอย่างหนึ่ง คือ ความรักจริง ๆ ที่เราต้องเจอ ณ วันนี้เรามานั่งย้อนมองกลับไปไม่เรากับเขาใครสักคนคงต้องเป็นโรคจิต มีคนสอนมดดำ ว่าบางทีเราไม่ต้องเกิดมาให้ใครรักก็ได้นะ แต่เราเป็นฝ่ายที่รักเขาก็ได้ แต่มันเหนื่อย และจากที่เราไปเที่ยวผู้ชายทุกคืน ๆ จนขนาดที่ว่าไปมีแฟนเป็นผู้ชายขายตัว เขาดีทุกอย่างเลยนะคะ ดูแลเราทุกอย่าง เราเช่าอพาร์ตเมนต์ให้เขาอยู่ตรงข้ามกับบ้านเราเพราะพาเข้าไม่ได้ เขาทำให้เราทุกอย่างจริง ๆ แต่สุดท้ายจบด้วยคำพูดที่ว่า พี่ครับเงินอยู่ตรงไหนครับ มันก็คือ ซื้อความสุขไปวัน ๆ
นอกจากเหตุการณ์นี้แล้วยังเกิดขึ้นในชีวิตของมดดำที่ไปถูกจับมัดไว้?
มดดำ : ใช่ค่ะ คือ ตอนนั้นต้องย้อนไปตั้งแต่เรายังไม่ได้เป็นมดดำ ก่อนเข้าเป็นดีเจตอนนั้นยังเป็นวัยรุ่นอยู่ชีวิตมันมากเลยเราเจอผู้ชายคนหนึ่ง เมื่อก่อนการมี BM คือ มันสุดเลย เราก็สะกิดกับเพื่อนฉันชอบคนนี้จังเลย แล้วผู้ชายเล่นกับเราเขาชวนเราไปกับเขาเราก็ไล่ให้เพื่อนเราขับรถเรากลับไปเลยเราจะไปกับผู้ชาย เราก็คิดว่าต้องได้กินแน่ เสียตัวแต่ไม่เสียเงิน เราก็ไปกับเขามาโรงแรมแถวประดิพัทธ์ เข้าห้องปุ๊บ .. เขาก็ให้เรากินเบียร์ (แต่คงจะใส่ยาอะไรมาในนั้น) เพราะเราก็มึน ๆ แล้วก็ป๊อกไปเลย ภาพตัดไปเลย เราคือ เราอยู่ที่โรงแรมนั้นจนหมดชั่วโมงที่เขาซื้อห้องนั้นไว้ ก็มีคนเข้ามาเช็กห้องเขามาเจอเราในสภาพที่ไม่เหลืออะไรเลย แล้วก็โดนมัดเอามือไขว้หลังไว้ เขาเอาเงิน นาฬิกา เสื้อผ้ายังไม่เหลือเลยเหลือแค่ชุดชั้นในตัวเดียวเอาไปหมดเกลี้ยง เราจำอะไรไม่ได้เลย จำได้ว่าคนแรกที่เราจะโทรหาคือ ไอ้แก่น เราก็ขอยืมเงินพนักงานที่ม่านรูดเราใส่ผ้าขนหนูโรงแรมม่านรูดวิ่งไปโทรศัพท์หยอดเหรียญหน้าโรงแรม บอกเพื่อนว่าแก ๆ มาช่วยฉันหน่อย ฉันโดนมัดมือหมี่ มันเลยเป็นโครงการมัดหมี่ที่ทุกคนเอามาล้อจนถึงทุกวันนี้ แล้วยังมีอีกมีคนแนะนำให้เราไปวนวังสิ (วังสราญรมย์) เราก็ไปเจอผู้ชาย เราก็รับเขาขึ้นมาบนรถ ต้องบอกก่อนว่า คือ เมื่อก่อนการมีโทรศัพท์มือถือ คือ เท่มาก ปรากฎว่าพอเขาเห็นเราโดนคัตเตอร์จี้อยู่ตรงคอเลยในรถเราเขาอยากได้เราก็ให้เขาไป เพราะกลัวเขาปาดคอเราถ้าเราไม่ให้ ถามว่าเข็ดไหม เวลามันเล่ามันก็สนุกเนอะ แต่มันก็ยังดีที่ได้ทำตอนที่ ไม่ใช่เป็นวันนี้ ทุกวันนี้ก็เลยรู้สึกว่าหมดแล้ว ที่หยุดเที่ยวทุกวันนี้ เพราะว่าเราไปต่อราคา ตอนนั้นไปกับมะตูม ตอนนั้นก็ขับ Harrier แล้วเราก็ชอบผู้ชายคนหนึ่ง อันนี้ก็ทำให้ได้สติอีก ทุกอย่างมันคือเงิน เราก็ต้องซื้อดริ้งค์ 3 - 4 หมื่นบาท จนเงินหมดกระเป๋า รูดการ์ดจนเต็มวงเงินก็ทำมาแล้ว แต่ที่ทำให้เราได้สติคือ เด็กที่เราซื้อดริ้งค์เขาอะไรเขาขับรถแพงกว่าเราอีก เราเลยตั้งสติเราจะมาเสียเงินให้เด็กพวกนี้ทำไมขนาดนี้
บาร์โฮสต์เที่ยวบ่อยไหม?
มดดำ : เที่ยวหนักมาก ไปเที่ยวทุกคืน ช่วงที่ทำแฉกลางคืน พอเสร็จรายการแฉ ก็ไป บุ๊คโก๊ะ สแตนบาย ๆ แต่ถ้าเราไล่เลี่ยงความรักมาจริง ๆ ไอ้เรื่องบาร์โฮลต์คือเพิ่งมาหลัง ๆ มาช่วงที่เราเริ่มรวย เริ่มมีเงินแล้ว ใคร ๆ ก็นึกว่าเราต้องมีแฟนเป็นดาราแน่ ๆ ต้องได้กินดาราแน่ ไม่มีเลย คือ มีคนที่เราชอบเขาแต่เขาไม่เอาเรา เอาจริง ๆ ที่เป็นดาราชอบอยู่คนเดียวที่เราไปจีบ เคยไปสร้างวรีกรรม คือ แอมป์ เพราะเขามาแสดงหนังให้พจน์ อานนท์ เราก็สนิทกับพี่พจน์ พอเห็นปุ๊บ เราคิดเลยว่าผู้ชายคนนี้ฉันต้องเอามาทำผัวให้ได้ สุดความแรกของเราก็คือ หนึ่งในตองอูอยู่ ตอนนั้นคือ เขาเพิ่งจะ 16-17 เอง แต่เราก็เพิ่ง 20 ต้น ๆ อายุยังไม่เยอะมาก เราก็คิดว่าเราจะทำยังไงดี เขาขายหมาเราจะต้องไปซื้อหมา แต่เมื่อก่อนเงินเดือนเรายังไม่ถึง 50,000 เลยแต่หมามันตกตัวละหมื่นกว่าบาท คือ ตอนนั้นเราไม่เพิ่งให้ใครพาเราไปรู้จัก เพราะเขาต้องเห็นว่าเรารวย เราอยากสร้างความประทับใจให้เขา ในสถานะลูกค้า ตอนแรกหลอกเพื่อนไปซื้อแต่เพื่อนบอกว่าจะซื้อทำไมเอามาให้เป็นภาระ (หัวเราะ) เราก็คิดว่าจะทำยังไงดี ย่าใส่แหวนเพชร เราเลยวางนานอนหลับย่า แต่เรารักย่านะ เราก็ชงน้ำชาให้ย่ากิน ย่าดีใจใหญ่เลย เขาก็ถามเราว่าจะเอาเงินเท่าไหร่ลูก เราไม่ได้จะเอาเงินแต่เราอยากให้เขาหลับเพื่อเอาแหวนของย่า เราจำได้เลยว่าเราเอาไปขายที่ร้านเพชรตรงสะพานควายได้เงินมา 80,000 - 90,000บาท เสียใจมากเพราะย่าบอกว่ามันกะรัตกว่า เราอยากได้เงิน 100,000 บาท เพื่อเอาไปซื้อหมาเลยวางยาปู่อีก พระสมเด็จรุ่น 1 เพราะเราตอนนั้นเราก็สุดมากเพราะเราอยากให้ผู้ชายประทับใจเรา สุดท้ายย่ารู้ว่าเราขโมย เพราะเราก็ไปสารภาพกับเขาว่าเราเอาไป เขารู้ทุกอย่าง แต่เขาไม่โกรธอะไรเลย เขาหัวเราะ รู้ไหมว่าเวลาย่าจับได้อะไรเรื่องพวกนี้ เขาเป็นคนหัวสมัยได้ เพราะย่าสนิทกับเรามาก อยากกินเหล้ากินให้สุด อยากทำอะไรทำให้สุด เลวให้สุด แล้วรีบกลับมาเป็นคนดีของย่าให้ได้
มดดำ ภูมิใจอะไรมากที่สุดในความที่เป็นมดดำ?
มดดำ : ภูมิใจที่เราไม่ได้เป็นคนเลว เราอาจจะไม่ใช่คนดี แต่เราภูมิใจที่เราไม่ได้เป็นคนเลว เราไม่ได้เป็นคนชั่ว ซึ่งในระหว่างทางมีอะไรที่พร้อมให้เราเป็นคนเลว คนชั่วได้ทุกอย่าง แต่อย่างน้อยเราก็รอดในทุกสเต็ปมาได้ และก็หวังว่ามันจะรอดไปแบบนี้ได้ตลอดจริง ๆ
แม้ว่าคุณปู่คุณย่า อาจจะไม่ได้เห็นความสำเร็จของมดดำในวันนี้ อยากจะบอกอะไรกับคุณปู่คุณย่าบ้าง?
มดดำ : ได้บอกคุณย่า ก่อนเสียเขาก็บอกว่าเขาเห็นแล้วไม่น่าเชื่อว่า วันนี้จะหาเงินได้ จะมีเงินได้ เขาเตรียมใจตั้งแต่เรายังเด็ก ๆ เลยนะว่า ยังไงก็ต้องแบ่งเงินให้หลานคนนี้ ยังไงก็ต้องใช้เงินกงสีจนวันตาย แต่ปรากฏว่าพอเรา 20 เราไม่เคยใช้เงินที่บ้านอีกเลย
มดดำเคยเข้าใจผิดคิดว่าพ่อไม่รัก จนกระทั่งวันนี้ได้คำชมคุณพ่อ?
มดดำ : หนูดีใจที่สุดเลย เมื่อก่อนพ่อไม่เข้าใจเพศที่สาม พ่อเป็นแบบว่าจบวิศวะ เป็นเพลย์บอย เป็นผู้ชายที่ค่อนข้างเจ้าชู้ วันหนึ่งเขาบอกเราเป็นสิ่งที่เราดีใจที่สุดเลย ถ้าสมมุติว่า หลาน จะเป็นเพศอะไร ถ้าเป็นเกย์ ตุ๊ด เป็นกะเทย ถ้าเก่งเหมือน มดดำ เป็นไปเถอะ เขาพูดกับหลานแบบนี้ พอเราฟังปุ๊บ เราร้องไห้ออกมาได้ยังไงไม่รู้ พ่อเขาพูดกับหลานตอนวันเกิด เราตกใจที่เขาชมเราเก่ง คือ นอกเหนือจากที่พ่อเขาชมเราว่าเก่งแล้ว เรารู้สึกว่าเขายอมรับในความที่เป็น มดดำ ซึ่งไม่ใช่แค่ 3 ปี 5 ปี นะที่เราพิสูจน์มากกว่า 10 ปี เราไม่ได้พิสูจน์ด้วยการพูดนะ แต่พิสูจน์ด้วยการทำให้เห็น มันคุ้มค่าแก่การรอคอย เพราะฉะนั้นคือการสร้างตัวเองให้มีคุณค่า เราอาจจะไม่ได้เกิดมาเป็นคนเก่ง ไม่ได้เกิดมาเป็นคนหน้าตาดี มดดำเชื่อว่าคนเราสร้างได้หมดถ้าเราจะทำ และอีกคนหนึ่งที่ มดดำ อยากจะบอกคือ พี่ฉอด อยากจะบอก พี่ฉอด ว่า มดขอบคุณ บทสัมภาษณ์ที่เกิดขึ้นมาในวันนี้ทั้งหมด ฟังสนุกนะ จะบอกว่า พี่ฉอด อยู่ในเหตุการณ์หลาย ๆ เหตุการณ์ และถ้าไม่มี พี่ฉอด ไม่มี มดดำ มดดำ กล้าพูดได้เลย คือ คำพูดของพี่ฉอด ทุกคำที่วันนี้คิดขึ้นมาได้ พี่แอมเคยบอกว่า คำพูดของพี่ฉอด จำไว้ให้ดี ๆ นะคำสอนของเขาจะได้ใช้หมด มดดำ ถือว่าเป็นพิธีกร เป็นคนในวงการคนหนึ่งที่โชคดีที่ได้ พี่ฉอด เป็นเจ้านายขอบคุณที่ทำให้มีวันนี้ จริง ๆ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :