หนังสือดีที่อยากให้อ่าน “โลกนี้ไม่มีเรื่องบังเอิญ”สวัสดีครับ หลังจากที่เราห่างหายไปจากการแนะนำหนังสือวันนี้เรากลับมาแล้วครับ เนื่องจากช่วงนี้โรคระบาดโควิด - 19 ก็ยังน่าเป็นห่วงอยู่เราเลยไม่ค่อยได้ออกไปไหน อันที่จริงก็ไม่กล้าออกจากบ้านเลยครับ แต่วันนี้เรามีของใช้ที่บ้านหมดในบางอย่างที่ค่อนข้างจำเป็นก็เลยที่ให้วันนี้ต้องจำเป็นที่จะต้องออกจากบ้าน แต่ก็ระมัดระวังตัวเองเป็นพิเศษ ใส่หน้ากากอนามัย พกแอลกอฮอล์ไปด้วย วันนี้เราไม่ได้ไปไหนไกลครับเราไปที่ร้านสะดวกซื้อแถวบ้าน 7-11 ก็ด้วยความที่เราไม่อยากรับเงินสดเลยใช้การจ่ายโดยทรูวอลเลตแทน ลดโอกาสในการสัมผัสสิ่งของไปได้อีกระดับหนึ่ง ในขณะที่เราซื้อของอยู่ก็เหลือบไปเห็นสมุดสามเล่มที่ตั้งอยู่ชั้นวางหนังสือพลางส่งเสียงเรียกให้เราเดินเข้าไปซื้อ“โลกนี้ไม่มีเรื่องบังเอิญ” หนังสือเล่มนี้ที่เราจะเอามาแนะนำกับเพื่อน ๆ สำหรับหนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่เราอ่านแล้วทำให้ได้ข้อคิดอะไรหลายอย่างยิ่งช่วนี้มีเรื่องที่กำลังกังวลใจอยู่ไม่น้อย ไม่ว่าะเป็นเรื่องโรคระบาดที่ทำให้เราทุกข์ใจ หรือเรื่องการเงินและการหารายได้ที่ช่วงนี้ก็ทำอะไรก็ไม่สะดวกไปหมด บางคนก็เกิดอารมณ์มืดแปดด้าน เราเองก็มอาการแบบนั้นเช่นเดียวกัน การที่นั่งทำงานที่บ้านบางครั้งเราก็เกิดอาการเบื่อหน่ายคิดงานไม่ออก เรียนออน์ไลน์ก็สมองไม่วิ่ง จนมาเจอหนังสือเล่มนี้ และพออ่านเนื้อหาแล้วก็เริ่มเข้าใจแล้วว่า “โลกนี้มีมีเรื่องบังเอิญ” แม้ว่าเนื้อหาข้างในจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในปัจุบันแต่เนื้อหาจะอยู่ในหมวด การทำให้ตัวเองมีความสุข และเข้าใจความสุขที่แท้จริง แม้ว่าส่วนตัวของเราอ่านจะยังมีบางเรื่องที่เราอาจจะยังเข้าไปถึงในตอนแรกแต่พอลำดับเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตแล้ว มันก็มีหลายอย่างหลายเรื่องที่เป็นไปตามเนื้อหาในหนังสือ (เราขอยกตัวอย่างเรื่องที่เราเห็นด้วยกับเนื้อหาในหนังสือนะครับ)กลิ่นของความสุข. เนื้อหาบทเเรกที่ทำให้เรานั่งอมยิ่มกับการบรรยายเรื่องราวที่คนเขียนตั้งใจบรรจงเขียนให้เราเกิดความสุขในเวลาที่อ่าน อมยิ้มกับเรื่องราวเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่เมื่อเทียบกับเรื่องราวนั้นมันกลับกลายเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่สำหรับความสุขของเขา ผู้ที่มอบความสุขให้กับคนอื่นและผู้รับก็มีความสุข ได้เห็นถึงความสุขว่าบางครั้งการให้มันมีค่ามากจริง ๆ มีค่ายิ่งกว่าเงิน. เราเข้าใจเนื้อหาส่วนนี้ได้อย่างลึกซึ่งเพราะเราเองก็เป็นอีกนึ่งคนที่เวลาเห็นสัตว์ที่ไม่มีเจ้าของเราเองก็ชอบที่จะช่วยเหลืออยู่บ่อย ๆ แม้ว่าเราจะมีเงินหรือกำลัทรัพย์ไม่มากแต่อย่างน้อยเราก็ยังพอที่จะทำให้อีกหนึ่งชีวิตหรือหลายชีวิตอยู่รอด เนื้อหาบทนี้เป็นคุณป้าที่เก้บแมวข้างถนนมาเลี้ยงโดยที่คุณป้าเองก็ไม่ได้มีเงินทองมากมายเพียงแต่ใช้เงินผู้สูงอายุเดือนละ 600 แต่การกระทำนี้แหละที่ทำให้คุณป้าเป็นผู้ให้ที่ยิ่งใหญ่รวยน้ำใจ ป้ารักแมวตัวนั้นเปรียบเป็นลูกขอป้า พอเราย้อนกลับมาดูสิ่งที่เราทำมันก็ทำให้เรามีความสุขในเรื่องเล่าของคุณป้า เราไม่เคยเก็บแมวมาเลี้ยงหรอกครับ เพราะที่บ้านของเราไม่มีพื้นที่มากพอแต่สิ่งที่เราทำคือ เราเป็นคนที่ชอบพกขนมติดตัวโดยจะถือว่าขนมห่อนั้นจะไม่กิน จะเอาไว้ให้คนอื่น ตอนที่เราเรียนอยู่มีบ่อยครั้งเวลาที่เดินไปเรียนเรามักจะเจอลูกหมาและลูกแมวที่มาหาอาหาเพื่อไปกิน เราก็คอยให้อาหารอยู่บ่อย ๆ จนเราเรียนและบางทีลูกหมาแมวพวกนั้นก็ตัวใหญ่ เราก็กลับรู้สึกดี และชอบที่จะทำแบบนี้อยู่ตลอดเรื่องราวในเล่มนี้ล้วนแต่อ่านแล้วทำให้เกิดความสุขภายในจิตใจ เพียงแค่เราไม่เคยนึกถึงเพียงเท่านั้นเลยทำให้เรารู้สึกว่าเราอาจจะเป็นคนไม่ดีในสายตาของเราเพียงคนเดียว ลองนึกย้อนกลับไปดูเรื่องต่าง ๆ ที่เราเคยทำมา นึกถึงเรื่องที่ทำให้เราและคนอื่นมีควมสุข นี่แหละสิ่งที่หนังสือเล่มนี้อยากจะบอกกับพวกเรานักอ่านทุกคนใครที่อยากไปหาซื้ออ่านสามารถซื้อได้ที่ 7-11 อาจจะมีบางสาขาเพราะของหมด ราคา 100 บาท แต่ตอนที่เราไปซื้อราคาลดเหลือเพียง 29 บาทเท่านั้น มีจำนวน 96 หน้า แต่รับรองเนื้อหาที่เราได้กลับไปมีเป็นล้านคำล้านความหมายเพียงแค่เรานึกย้อนกลับไปดูความรู้สึกของตัวเอง หนังสือเล่มนี้เป็นผลงานของ YELLOWMAN เป็นนามของสมณะรูปหนึ่ง วัย 24 ปี เป็นนามที่ท่านนักเขียนเอาไว้ใช้เรียกขานตัวเอง และยังมีผู้ติดตามในโลกออนไลน์มากกว่า 140,000 คน เป็นผลงานของสำนักพิมพ์ บริษัท ทูเดย์บุ๊คส์แอนด์ดีไซน์ จำกัดขอบคุณที่อ่านนะครับ ไว้เจอกันใหม่ สวัสดีครับอ่านบทความอื่น ๆ ของเราที่ ลูกโปร่งที่ล่องลอยรูปภาพโดย : ลูกโปร่งที่ล่องลอย