หลังจากสร้างความฮือฮาให้กับผู้ชมไปทั่วโลกในภาคแรก จนกระทั่งตอนนี้ The Platform 2 พร้อมสตรีมให้คนดูทั่วโลกแล้ว มาพร้อมกับตัวละครใหม่ มุมมองใหม่ ภาพยนตร์เรื่องนี้ใช้เรื่องราวของหลุมนรกเพื่อสะท้อนให้เห็นถึงความเหลื่อมล้ำทางสังคม การต่อสู้เพื่อความอยู่รอด และความเห็นแก่ตัวของมนุษย์ คำเตือนสำหรับคนที่จะรับชมเรื่องนี้ มีการใช้คำพูดที่รุนแรง การใช้อาวุธและการต่อสู้ที่รุนแรงมาก รับชมภาพยนตร์ “The Platform 2 - เดอะ แพลตฟอร์ม 2” ได้ทาง Netflix (มีพากย์ไทย) https://youtu.be/UKFMYWNatQM?si=wMQBo5MqrmTjUcox เรื่องย่อ “เปเรมปวน” (รับบทโดย มิเลนา สมิต) และ “ซามิอาติน” (รับบทโดย โฮวิค คูชเคเรียน) ได้เป็นรูมเมตในหลุมปริศนาที่ชั้น 24 ด้วยกัน ซึ่งหลุมแหล่งนี้มีกฎอันสูงสุดที่ทุกคนที่นี่จะต้องทำตาม นั่นก็คือ ทุกอาหารที่กำลังจะลงไปแต่ละชั้น ทุกคนต้องหยิบแค่เมนูที่ตัวเองเลือกไว้เท่านั้น ห้ามหยิบนอกเหนืออย่างอื่นเด็ดขาด แต่แล้วก็มีคนทำผิดกฎ ทำให้เกิดโศกนาฎกรรมนองเลือด เมื่อการสร้างกฎทำให้เกิดความแตกแยกเป็น 2 ฝ่าย วิธีเดียวที่จะจากขุมนรกนี้ได้คือจะอยู่หรือจะสู้ นักแสดงหลักในภาพยนตร์ https://www.instagram.com/p/DAtpP8Lu9NB/?img_index=1 มิเลนา สมิต รับบทเป็น เปเรมปวน https://www.instagram.com/p/DAq-lPdIOsp/?img_index=1 โฮวิค คูชเคเรียน รับบทเป็น ซามิอาติน https://www.instagram.com/p/CnmupFZqaHS/?img_index=1 นาตาเลีย ทีน่า รับบทเป็น หญิงสาวไม่ปรากฏชื่อ รีวิวหลังจากดูจบ เป็นภาพยนตร์ที่ยังคงเล่าเรื่องทิ้งปมให้เราค้างคาใจได้ตลอด ภาคนี้ก็เป็นเช่นกัน แต่อย่างน้อยภาคนี้ทำให้เราเริ่มเข้าใจระบบของหลุมปริศนานี้มากขึ้นทีละนิด แต่ก็ยังทิ้งปมให้เราได้สงสัยอยู่ ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะมีภาคที่ 3 หรือไม่ เป็นภาพยนตร์จบในไตรภาคอะไรทำนองนี้ ตอนแรกเข้าใจว่าจะเป็นภาคต่อจากภาคแรก นึกว่ากฎต่าง ๆ ถูกสร้างขึ้นหลังจากพระเอกภาคแรกทำอุดมการณ์ตัวเองสำเร็จ แต่กลายเป็นว่าเป็นภาคอดีตก่อนที่พระเอกภาคแรกจะมาที่หลุมแห่งนี้ แน่นอนว่าไม่เคยดูภาคแรกก็สามารถดูรู้เรื่องได้ (สำหรับใครที่อยากจะข้ามมาดูภาคที่ 2 เลย) ซึ่งภาคที่ 2 จะมีการปรากฎตัวของตัวละครจากภาคแรกอยู่บ้าง มาเป็นทั้งตัวละครประกอบและตัวละครสมทบ ด้านการแสดงของนักแสดงถือว่าเล่นดีมากเลยนะ ชอบตั้งแต่ภาคแรกแล้ว ภาคนี้ก็ยังทำได้ดีเหมือนเดิม การดำเนินเรื่องยังคงโหด ดาร์กเหมือนเดิม แต่ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดเจนทั้ง 2 ภาค คือ ภาคแรกจะเป็นการต่อสู้เพื่อความอยู่รอด เพื่อต้องการหนีออกจากขุมนรก แต่สำหรับภาค 2 คือการต่อสู้เพื่อปลดแอก เพื่อความอิสระ เพื่อความเป็นตัวของตัวเอง ส่วนตัวแล้วชอบภาคแรกมากกว่า มันดูมีความอยากจะเอาตัวรอดมากกว่า แต่ยังไงซะภาพยนตร์ภาค 2 ก็ยังคงต้องการจะสื่อเรื่องความเหลื่อมล้ำ และอำนาจของคนกลุ่มหนึ่งโดยที่ตัวละครไม่ได้ใช้สิทธิ์และเสียงอิสระของตนเองเลย และเมื่อมีการปลดแอกก็จะมาพร้อมกับการนองเลือด ความเสียสละที่น่าเศร้า และแน่นอนว่าทุกคนมีสิทธิ์มีเสียงเป็นของตัวเอง อยู่ที่ว่าจะตัดสินเลือกแบบไหน อย่างที่บอกไว้ตอนต้นว่าการดำเนินเรื่องยังคงทิ้งปมไว้เหมือนเดิม เพราะตอนดูก็คือมีหลายฉากทีน่าสนใจเยอะเลย จะเอามาเขียนก็กลัวจะเป็นการสปอยล์ซะมากกว่า เอาเป็นว่าลองไปหาดูกันได้ มีการเคลียร์ปมจากภาคที่แล้วอยู่บ้างนิดหน่อย แต่ก็นั้นแหละทิ้งปมใหม่มาเพิ่ม ชวนสงสัยหนักกว่าเดิม เป็นไปได้ก็อยากให้ไปดูให้ครบทั้งภาค 1 และภาค 2 เนื่องจากมีความเชื่อมโยงกัน ตัวภาพยนตร์มีการเล่าเรื่องที่กระชับ ไม่อืด ไม่เนือย ไม่น่าเบื่อ ชวนลุ้นแทบทุกฉาก พร้อมกับฉากชวนสะเอียดสะเอียน ใครรับไม่ได้กับการกินของสด อาจจะไม่โอเคกับเรื่องนี้เท่าไหร่ สรุปคะแนน องค์ประกอบโดยรวม : ⭐⭐⭐⭐ การดำเนินเรื่อง : ⭐⭐⭐⭐ งานภาพ : ⭐⭐⭐⭐ การแคสติ้ง : ⭐⭐⭐⭐⭐ ความรู้สึกร่วมในการรับชม ⭐⭐⭐⭐ รวม : 4.2 ⭐ เนื้อเรื่องมีความกระชับ เล่าไว ไม่น่าเบื่อ ชวนลุ้นทุกฉาก แต่ส่วนตัวชอบภาคแรกมากกว่า เครดิตรูปภาพ ภาพปก มีรูปภาพที่ 1 จาก milenasmitm รูปภาพประกอบที่ 1 , รูปภาพประกอบที่ 5 , รูปภาพประกอบที่ 6 , รูปภาพประกอบที่ 7 , รูปภาพประกอบที่ 8 , รูปภาพประกอบที่ 9 จาก netflixes รูปภาพประกอบที่ 2 จาก milenasmitm รูปภาพประกอบที่ 3 จาก hovikkeuchkerian_ รูปภาพประกอบที่ 4 จาก nattenalady เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !