เป็นอีกโปรเจกต์ที่น่าสนใจนับตั้งแต่การประกาศสร้างของผลงานผู้กำกับ J.A. Bayoan ที่จะหยิบยกเรื่องราวที่อิงจาเหตุการณ์จริงของเครื่องบินที่เหมารับบินไปพักร้อนกับทีมลักบี้ที่เกิดอุบัติเหตุระหว่างเดินทางทำให้ต้องติดชะงักบนหุบเขาที่หนาวเหน็บจากฝีมือที่เคยผ่านงานกำกับที่อิงจากเรื่องจริงเหมือนกันใน The Imposible ที่อ้างอิงถึงเหตุการณ์สึนามิในประเทศไทย ว่าด้วยเรื่องราวที่หยิบจากเหตุการณ์จริงมาร้อยเรียงเป็นภาพยนตร์ของทีมนักกีฬาลักบี้ที่กำลังเดินทางโดยเครื่องบินเหมาลำไปพักผ่อนแต่ดันเกิดอุบัติเหตุระหว่างทางทำให้ต้องติดอยู่ท่ามกลางหุบเขาหิมะที่ทรมานและไร้ทางช่วยเหลือความรู้สึกหลังดูจบ เป็นหนังที่อ้างอิงจากเหตุการณ์จริงที่เหมือนได้พาเราคนดูได้ไปอยู่ในเหตุการณ์ที่ตัวละครในเรื่องได้เผชิญและพบเจอได้อย่างดีสมจริง และแบกรับอารมณ์กดดัน กลัว หดหู่ สิ้นหวัง มีหวังได้อย่างครบถ้วนเต็มเปี่ยมชอบตัวบทที่แบ่งเล่าหลากหลายตัวละครที่ค่อนข้างจะลงรายละเอียดถึงปูมหลังมากกว่าแค่หนังเอาชีวิตรอดทั่วไปผ่านทั้งวัยรุ่นที่ยังมีความฝัน อยากทำอะไรอีกมาก คู่รัก พี่น้อง ที่ต่างล้วนต้องมาพบเจอเหตุการณ์สลดครั้งนี้ เมื่อถึงจุดขยี้อารมณ์ความหดหู่ที่เหล่าตัวละครต้องฝ่าฝันสู้มาหลายอย่างเข้าทำให้ตระหนักถึงการมีชีวิตอยู่การสู้ต่อและมนุษย์เราสามารถทำได้ทุกอย่างเพื่อความอยู่รอดได้อย่างสมจริงและทำให้หนังมีพลังที่ทำให้คนดูอินตามระหว่างทางได้ครบจบอย่างไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังเลย การหยิบเรื่องจริงมาปรุงแต่ง ดัดแปลงออกมาได้ดูสมูธรู้เรื่องไม่เป็นการเล่าแบบเป็นสารคดีไปหรือดาษ ๆ ไปทำให้เหมือนเป็นหนังเรื่องหนึ่งที่มีจังหวะอย่างควรจะเป็นอยู่ครบถ้วน ถ้าไม่เคยรู้ว่านี้คือทำจากเรื่องจริงก็จะคิดว่านี้คือหนังที่สร้างมาเพื่อความบันเทิงที่สมจริงสุด ๆ ต้องขอชื่นชมคนเขียนและผู้กำกับที่ดัดแปลงได้แนบเนียนไม่มีรอยต่อระหว่างเรื่องเล่าและศาสตร์หนังให้แตกต่างจนดูสะดุดได้เลย ทีมนักแสดงทุกคนต่างทำหน้าที่ตัวเองได้ดีมากและสมจริงยันรายละเอียดที่อิงจากผู้รอดชีวิตในเหตุการณ์ได้อย่างละเอียด แถมแสดงบทบาททั้งอารมณ์กลัว หมดหวัง มีหวัง สู้ไม่ถอยได้ดีดูแล้วเชื่อว่าพวกเขาสามัคคีและคือมิตรภาพที่พร้อมจะสู้ตายไปด้วยกันแม้ทางข้างหน้าจะสิ้นหวังมากนักเต็มที่ งานสร้างทั้งตัวเครื่องบินที่แตกกระจายออกหลายท่อนและสถานที่หุบเขาหิมะดูสมจริงให้ความรู้สึกเชื่อว่าพวกเขากำลังเผชิญสภาพอากาศที่เลวร้ายและสถานการณ์ที่กดดันจากทุกทางไม่ได้ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นกรากฟิกตามยุคสมัยที่มีดาษดื่นแทบจะเชื่อว่านี้คือสถานที่จริง ๆ แบบไม่พึ่งเทคนิคใด ๆ แต่อาจจะไม่ใช่เป็นที่ตอบโจทย์สำหรับคนที่ตามหาหนังแนวเอาตัวรอดจ๋า ๆ เพรียว ๆ ตื่นเต้นทั้งเรื่องหรือมีจังหวะที่กดดันมากเรื่อย ๆ ไล่ลำดับแบบหนังเรื่องอื่นเท่าไหร่เพราะทุกอย่างยังล้วนแล้วต้องตอบโจทย์หนังอ้างอิงจากเหตุการณ์จริงที่ต้องมีความรู้สึกอารมณ์ของผู้รอดชีวิตคอยร้อยเรียงเรื่องราวให้เดินหน้าไปแบบหลากอารมณ์ที่เหมาะสมได้ มวลรวมเป็นหนังที่อ้างอิงจากเหตุการณ์จริงที่สะเทือนอารมณ์ เล่าเบา ๆ เรียบ ๆ แต่กลับทรงพลังและแผ่กระจายความอินตลอดสองชั่วโมงนิด ๆ ได้อย่างดีนี่เป็นหนังดีอีกเรื่องต้อนรับศักราชใหม่ของปีนี้เลยครับ Society of the Snowดูได้ที่ Netflix มีพากย์ไทยและซับไทยความยาว 2 ชั่วโมง 25 นาทีฝากช่องทางในการติดตามพวกเราFacebook FanPage แค่เคยดูYoutube Chanel แค่เคยดูแหล่งที่มาทั้งหมดจากที่ Instagram นักแสดง Matiasrecalt ภาพหน้าปก ภาพที่ 1ภาพประกอบ ภาพที่ 1 ภาพที่ 2 ภาพที่ 3 ภาพที่ 4เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !