กระแสหนังเรท 20+++ อย่าง 365 DNI ที่มาแรงในโลกออนไลน์ทำให้ถูกไปเปรียบเทียบกับหนังชุดอีกเรื่องที่รู้จักกันดีอย่าง Fifty Shade ที่สร้างมาจากหนังสือนิยายขายดีโดยนักเขียนชาวอังกฤษ อี. แอล. เจมส์ ( E.L. James ) โดยหนังที่สร้างออกมานั้นได้สร้างกระแสฮือฮาพอสมควร ถึงขนาดที่ต้องตรวจบัตรตรวจอายุก่อนเข้าโรงหนัง เพราะเนื้อหาค่อนข้างมีฉากติดเรทหลายฉาก และมุ่งเน้นไปทางความสัมพันธ์ทางร่างกาย รสนิยมส่วนตัวอย่าง BDSM รวมไปถึงปมหลังครอบครัวที่ดราม่าเข้มข้นหนักหน่วงจนถูกสร้างมาจนจบในภาค 3 ที่ชื่อว่า Fifty Shades Freed เป็นบทสรุปเรื่องราวของชีวิตคู่ทั้งสองตัวละครผ่านหนังความยาวสองชั่วโมง แม้ว่าจะมีเสียงครหาถึงความแผ่วในภาคนี้ แต่ส่วนตัวก็คิดว่าภาคจบนี้ได้ทำไว้ค่อยข้างดี ตรงตามหนังสือ ดีกว่าตอนแรก ๆ ที่จะเน้นไปฉากอย่างว่าเสียมาก โดยหากใครได้ดูภาคก่อนหน้านี้ Fifty Shades of grey และ Fifty Shades Darker เป็นเรื่องสาวธรรมดาอย่าง Anastasia Steele เรียกกันสั้น ๆ ว่า อนาสตาเซีย สตีล และ Christian Grey หรือ คริสเตียน เกรย์ ลูกชายของมหาเศรษฐีแห่งตระกูลเกรย์ ได้มาพบกันด้วยโชคชะตา ทั้งคู่แต่งงานกัน ตามแบบฉบับหนังสือนิยายโรแมนติกแต่พิเศษไปกว่านั้นเป็นเรื่องของรสนิยมของเกรย์ เขามีปมสมัยเด็กจากการล่วงละเมิดทางเพศจนทำให้เขาซึมซับการมีเพศสัมพันธ์แบบ BDSM ไม่ว่าจะเป็นการพันธนาการ การลงโทษ รวมไปถึงการเสพติดการได้ใช้ความรุนแรง เห็นคนที่รักเจ็บปวด โดยในภาคสุดท้ายจะโฟกัสไปเรื่องชีวิตหลังแต่งงาน ในแรกเริ่มหนังอาจจะเอื่อย ๆ มีฉากสวีสหวานเพราะเป็นช่วงฮันนีมูน เพิ่มเติมในเรื่องฉากเซอร์วิสแฟน ๆ จัดไปเลยนอกสถานที่ ลองอะไรใหม่ ๆ แต่อาจจะไม่ดุเด็ดเผ็ดมันเหมือนในภาคก่อน ๆ อย่างว่าข้าวใหม่ปลามันอะไรก็จะแซ่บกว่า นอกจากฉากเซอร์วิส 20+ แต่กลาง ๆ เรื่องนั้นมีความเป็นระทึกขวัญ เพราะมีตัวร้ายอย่าง แจ็ค ไฮด์ หัวหน้าเก่าเข้ามาป่วนในความสัมพันธ์ของทั้งคู่ แน่นอนว่า ประเด็นของความเชื่อใจ ความซื่อสัตยฺในชีวิตคู่มีความสำคัญมาก ๆ ในภาคนี้ชอบการหยิบยกประเด็นของการชีวิตคู่ที่มีเรื่องของการต้องคุยกัน ปรับตัวเข้าหากัน การหึงหวงกันก็อาจจะนำไปสู่ความไม่ลงรอยกัน ดังนั้นภาคสุดท้ายจึงเน้นไปเรื่องการแก้ไขปัญหาชีวิตคู่ของคริสเตียนและแอนา เรื่องของรสนิยม เซ็กส์ก็มีส่วนในการใช้ชีวิตคู่ รสนิยมที่แตกต่างกันหากสามารถพบกันได้ครึ่งทาง ชีวิตคู่ก็จะราบรื่น เปรียบเสมือนช่วยเติมเต็ม เข้าใจซึ่งกันและกันค่ะ ความน่าเสียดายในภาคสุดท้ายนั้นคงเป็นการที่เหมือนประเด็นในหยิบยกหลายอย่าง แต่กลับทำให้ออกมาไม่สุดสักอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องปมกิ๊กเก่าคริสเตียน ช่องว่างรสนิยมที่สามารถนำมาขยี้ได้อีก มัวแต่ไปให้ประเด็นมากเกินไปกับตัวร้ายที่กลับมาทำให้หนังลืมบางส่วนที่สำคัญ ซึ่งจะสรุปบทสรุปของหนัง ทำให้หนังดูเบาบางลงไปมากหากเทียบกับหนังสือที่เข้มข้น ให้ประเด็นหลัก เขียนได้ยิบย่อยและชวนติดตามกว่ามาก แต่ก็เข้าใจในระยะเวลาของหนังที่ต้องสรุปให้อยู่บท ถ่ายทอดในระยะเวลา 2 ชั่วโมง ถือว่าใช้ได้ แต่ไม่ได้ว้าวอะไรมากมายนักสำหรับใครที่อยากดูบทสรุปของทั้งคู่ คริสเตียนและอนาสตาเซีย สามารถเข้าไปชม Fifty Shades Freed ได้ที่ Netflix หากใครที่มีกล่อง TrueID TV สามารถสมัคร Netflix และรับชมได้ที่บ้าน จ่ายผ่าน Truewallet ง่าย ๆ สบาย ๆ ขอให้รับชมให้สนุกนะคะ! Fifty Shades Freedความยาว : 2 ชม. 9 นาทีแนว : โรแมนติก/ ดราม่า / ชีวิตค่าย : Universal Picturesผู้กำกับ : แซม เทย์เลอร์-จอห์นสันวันที่ออกฉาย: 12 กุมภาพันธ์ 2558รับชมได้ทาง : Netflix เครดิตรูปภาพ : ภาพทั้งหมดจาก Official fiftyshadesบทความน่าสนใจอื่น ๆ : Michele morrone พระเอกหนังสุดฮอต 365 DNI 🔥🔥เบื้องหลังการถ่าย 365 DNI หนังยอดฮิตบน Netflix 🔥