รีวิวหนัง "Blue Beetle บลู บีเทิล" ฮีโร่ดีซีคนใหม่ ที่มีอะไรคุ้นเคยและ(สนุก)คล้ายเดิม
เปิดม่านการเป็นซูเปอร์ฮีโร่หน้าใหม่ออกมาอย่างสวยงาม สำหรับ “Blue Beetle บลู บีเทิล” ฮีโร่ในจักรวาลดีซีโฉมใหม่ กับการคว้าตัวนักแสดงเชื้อสายลาตินคนแรกมารับบทบาทหลัก และเป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาคอหนังหลายต่อหลายคน เป็นอีกหนึ่งมุมมองที่น่าสนใจเมื่อมีการเล่าเนื้อหาของครอบครัวเป็นแกนหลัก พร้อมไปกับความมุ่งมั่นในการยุติตัวร้าย ทำให้ซูเปอร์ฮีโร่น้องใหม่คนนี้ของดีซี เป็นเรื่องที่น่าจับตามองเลยทีเดียว
“Blue Beetle บลู บีเทิล” เป็นเรื่องราของ ไฮเม่ เรเยส บัณฑิตจบใหม่ เขาเดินทางกลับมาหาครอบครัว ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจเพื่ออนาคตของตัวเอง แต่กลับพบว่าครอบครัวของเขากำลังตกอยู่ในวิกฤต แต่แล้วโชคชะตาก็ได้นำพาให้เขาพบกับเศษซากโบราณของเทคโนโลยีชีวภาพจากต่างดาวชื่อว่า สคารับ ทันใดนั้น สคารับ ก็เข้าอาศัยอยู่ในร่างของ ไฮเม่ เรเยส โดยมอบชุดเกราะอันน่าทึ่งที่มาพร้อมกับพลังวิเศษที่ไม่อาจคาดเดาได้ นับตั้งแต่นั้นโชคชะตาของ ไฮเม่ เรเยส ก็เปลี่ยนไปตลอดกาลเมื่อเขาได้กลายเป็นซูเปอร์ฮีโร่ชื่อว่า บลู บีเทิล
ซูเปอร์ฮีโร่ผู้เพิ่มพลังของตนเองผ่านความรักความห่วงใยที่มีให้ครับครัว เผยตัวตนและคาแรคเตอร์ของ ไฮเม่ เรเยส ออกมาตั้งแต่เริ่มต้น เมื่อเขานั้นรัก และอยากแบ่งเบาภาระของครอบครัวที่กำลังตกอยู่ในที่นั่งลำบาก ซึ่งครอบครัวของเขามีคติในการสู้กับปัญหาตรงหน้า เพราะเราคือนักสู้ เขาจับพลัดจับผลูเข้ามาทำงานให้กับ วิคตอเรีย คอร์ด ก่อนจะได้รู้จักกับ เจนนี่ คอร์ด ในช่วงต้นของเรื่องมีการเสริมสีสันความเฮฮา ดราม่าของครอบครัวเรเยสเข้ามาได้เป็นอย่างดี โดยมี มิลาโกร น้องสาวของเขาเป็นตัวละครที่คอยตบมุกโบ๊ะบ๊ะอยู่เสมอ
แต่โชคชะตากลับพาให้เขาได้ก้าวเข้ามาในจุดที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม ด้วยการช่วยเหลือ เจนนี่ คอร์ด เธอมีเจตนารมณ์เดียวกับพ่อของเธอ ทำให้มีมุมมองในการดูแลบริษัทต่างกับ วิคตอเรีย และเป็นชนวนต้นเหตุของการเผชิญหน้ากันในครั้งนี้ ซึ่ง ไฮเม่ ได้เป็นผู้ที่ถูกเลือกและรับพลัง พร้อมชุดเกราะจาก สคารับ เศษซากโบราณของเทคโนโลยีชีวภาพจากต่างดาว ทำให้เขาถูกไล่ล่าจากฝั่งวายร้ายในทันทีทันใด
สำหรับเนื้อหา ตัวบทเรามีความรู้สึกว่าค่อนข้างจะเดาทางได้ไม่ยากเท่าไรนัก ด้วยชั้นเชิงในการเล่าที่ค่อนข้างจับต้องได้ในหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่เคยผ่านมาพอสมควร ไม่ว่าจะเป็น การได้รับพลังโดยบังเอิญ, การเป็นผู้ถูกเลือก, ไม่เข้าใจในพลังของตนเองในช่วงแรก, ถือคติไม่ฆ่าผู้ร้าย, การปรับตัวเข้ากับพลัง มันเป็นช่วงเนื้อหาที่สามารถมองภาพออกและพบได้อยู่บ่อย ๆ
อีกทั้งการเล่ายังเติมแต่งแต่ละจุดเป็นส่วนต่อขยายของฉากเพิ่มเข้ามาพอสมควร จึงรู้สึกถึงความไม่กระชับในการดำเนินเรื่องราว แต่หนึ่งสิ่งที่ต้องขอชื่นชม คือการชูแก่นหลักของครอบครัวเข้ามาเป็นระยะ ๆ เห็นการพัฒนาทางด้านความคิด การใช้ชีวิตได้เป็นอย่างดี และมีการเติมข้อคิดในการสู้กับปัญหาที่เข้ามาไม่ว่ามากเท่าไรก็จะผ่านไปได้ เพราะเราคือนักสู้
แต่ไม่ใช่เพียงว่าจะเน้นไปที่การชูเรื่องครอบครัวไปเสียทีเดียว หนังยังมีการสลับไปกับความเข้มข้น ที่มาที่ไปในพลังของ สคารับ และการรับมือกับตัวร้ายอย่าง วิคตอเรีย ร่วมกับ ราคาแพ็กซ์ ซึ่งมีฉากการต่อสู้ออกมาให้เราได้สัมผัสความดุเดือดในพลังอยู่เป็นช่วง ๆ ช่วงแรกอาจจะไม่มากนัก ทำให้เราแอบขัดใจเล็ก ๆ แต่ก็ต้องเรียนรู้พลังกันไป แต่ช่วงท้ายมีให้เราสัมผัสความแอ็คชัน ไซไฟที่ชูได้โดดเด่นไม่แพ้กัน ซึ่งการเล่าเนื้อหาสลับไประหว่างครอบครัว และบีเทิล นั้นทำได้ค่อนข้างดี อาจจะไม่ได้กระชับมากนัก แต่ก็เรียงร้อยอารมณ์ให้เราได้มีความรู้สึกตามไป
ด้วยการเป็นซูเปอร์ฮีโร่คนแรกที่มีเชื้อสายลาติน ทำให้มูดแอนด์โทนของทั้งเรื่องมันมีความสอดคล้องกันทั้งหมด ทั้งที่อยู่อาศัย การคัดเลือกนักแสดง ดนตรีประกอบ ครบเครื่องมากเลยทีเดียว ฝั่งของการแสดงต้องขอชื่นชมครอบครัวเรเยส ด้วยการกลับมาของไฮเม่ ทำให้ครอบครัวมีสีสัน และคาแรคเตอร์ของแต่ละคนในครอบครัวเรียกได้ว่าต้องมีฮากันรัว ๆ อาทิ ไฮเม่ หนุ่มคมเข้มผู้รักครอบครัวยิ่งกว่าชีวิต และพร้อมปกป้องเสมอ มิลาโกร น้องสาวแสนซน เธอเป็นผู้ตบมุก และยังเป็นคนขี้สงสัยจนทำให้พี่ชายเป็นเช่นนี้
ซึ่งคาแรคเตอร์ของแต่ละครตัวละครเป็นจุดชูเรื่องให้มีความหนักเบา ความเศร้า ความรักได้อย่างมีอรรถรส หากขาดครอบครัวเรเยสอาจจะไม่ได้กลายมาเป็นซูเปอร์ฮีโร่ก็ได้ เจนนี่ คอร์ด เอง เธอนั้นมีปูมหลังเกี่ยวกับครอบครัวเช่นเดียวกัน และเป็นความลึกลับที่ยังไม่มีคำตอบ ด้วยการแสดงผ่านสีหน้า แววตา ท่าทางของเหล่านักแสดงนำคือเพลินไปกับเรื่องราวการเล่าเนื้อหาแบบไต่ระดับอารมณ์ไปเรื่อย ๆ ได้เป็นอย่างดี โดยมีการแฝงอารมณ์หลักคือความรักครอบครัวจนก่อเกิดเป็นพลังอันยิ่งใหญ่
สำหรับการสร้าง เรายกนิ้วให้ทีมกระบวนการถ่ายทำ การตัดต่อ เอฟเฟกต์ ที่คะแนนเกือบเต็มเลยก็ว่าได้ เพราะมันให้อารมณ์ร่วมเข้าไปในฉากได้เป็นอย่างดี มีการเนรมิตสถานที่ สร้าง CG ที่ค่อนข้างดีทีเดียว แม้จะเป็นฮีโร่คนใหม่ แต่ชุดของบีเทิลกลับไม่ได้มีจุดเด่น หรือสร้างภาพจำเท่าไรนัก เพราะตัวหนังมีการเทียบสคารับกับแมลงจากต่างดาว มันเลยทำให้เสื้อผ้าตอนแปลงร่างอาจจะเป็นสิ่งที่เราเคยผ่านตามาไม่น้อย ทว่าเอฟเฟกต์ในการต่อสู้ ปะทะกันของฮีโร่และตัวร้ายยังทำได้ดีไม่ติดขัดอะไร
อย่างที่กล่าวไปข้างต้น การถ่ายทำค่อนข้างดีทีเดียว ทั้งตัวสถานที่ และการใช้ CG ของหนังคือมันดีมากเลยจริง ๆ อย่างห้องทดลองพ่อของ เจนนี่ คอร์ด, ห้องทดลองบนเกาะ, ยานบินแมลง เป็นต้น ร่วมไปกับมุมกล้อง และการทรานซิสชัน การซูมเข้า-ออก ภาพรวมของงานโปรดักชันคือเบอร์ต้น ๆ เลย นอกจากนั้นเสียงดนตรีประกอบทั้งเสียงพื้นหลัง และเอฟเฟกต์ให้อารมณ์ร่วมได้เป็นอย่างดี
โดยรวมแล้วถือเป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่โฉมใหม่ของจักรวาลดีซี ที่ยังไม่ได้ออกจากกรอบเดิมเท่าไรนัก มีสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกนึกภาพถึงฮีโร่คนอื่น ๆ ไม่น้อย แต่การร้อยเรียงเรื่องราวของครอบครัวเข้ามาถือว่าเป็นแก่นที่ดี คือมีการใส่ข้อคิดในมุมมองชีวิต การรับมือกับปัญหาตรงหน้า การก้าวข้ามผ่านอุปสรรค อย่างกลมกล่อม ร่วมกับฉากแอ็คชันบ้าระห่ำ พร้อมกับการแสดงที่เรียกได้ว่าครบรสทั้ง ฮา ดราม่า ซึ้ง ตราตรึงใจ ได้รับไปแบบเต็ม ๆ นอกจากนั้นงานโปรดักชันยังไม่ได้มาแบบเล่น ๆ ลงตัวทุกประเด็นของการสื่อสาร ฉากบางช่วงอาจจะไม่หวือหวาแหวกแนว แต่ไม่แคล้วดูแล้วสนุกสุดมัน
ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง: Blue Beetle บลู บีเทิล
- ประเภท: แอคชั่น / ผจญภัย / ไซไฟ
- ผู้กำกับ: อังเคล มานูแอล โซโต
- นำแสดงโดย: โซโล มารีฮวนนา, ซูซาน ซาแรนดอน, เบ็กกี้ จี
- ความยาว: 127 นาที
- กำหนดฉายในไทย: 17 สิงหาคม 2023
Movie.TrueID METRIC: Blue Beetle บลู บีเทิล
- ภาพรวม
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰ (8/10) - การเล่าเรื่อง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (7/10) - การแสดง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰ (8/10) - เทคนิคงานสร้าง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰ (9/10) - บทภาพยนตร์
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (7/10)
-------------------------------------
>> ดูหนังออนไลน์ได้ที่ Movie.TrueID <<
หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับทรูไอดีสามารถเข้าไปได้ที่ TrueID Help Center เป็นช่องทางใหม่ที่ให้ข้อมูลและการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเกี่ยวกับทรูไอดี คลิกเลย >> https://bit.ly/3xEgdAa