ส่องโปรเจกต์หนังที่สุ่มเสี่ยง "ยกเลิกสร้าง" หลังซีอีโอดิสนีย์ส่งสัญญาณลงดาบ!
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า วอลต์ ดิสนีย์ เคยเป็นสตูดิโอหนังที่กอบโกยกำไรมหาศาลและมีช่วงเวลาที่รุ่งโรจน์ในช่วงปี 2015-2019 กับโปรเจกต์หนังฮีโรต่าง ๆ ที่ทำเงินได้เป็นอย่างดี แต่เมื่อเกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 ขึ้น ทำให้ทุกอย่างเริ่มชะลอลง แล้วดิสนีย์ก็ไม่ใช่สตูดิโอหนังที่มงลงหัวอีกต่อไป เห็นได้จากผลลัพธ์ในปี 2023 ที่กลายเป็นปีที่ยากลำบากของดิสนีย์ ด้วยการมีหนังคว่ำติดต่อกันหลายเรื่อง ท่ามกลางเทรนด์หนังซูเปอร์ฮีโรไม่ตอบโจทย์ผู้ชมอีกต่อไป
โดยเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา "บ็อบ ไอเกอร์" หัวเรือใหญ่ของสตูดิโอหนังดิสนีย์ ได้เคยส่งสัญญาณบอกกับสื่อเป็นนัยว่า พวกเขาจะมีการรีเซ็ตและปฏิรูปแนวทางการผลิตคอนเทนท์หนังใหม่ ๆ แบบยกเครื่อง พร้อมกับระบุว่าจะมีบางโปรเจกต์ที่ต้องถูกระงับและยกเลิกงานสร้างลงไป ทั้งนี้ก็เพื่อพยุงผลกำไร-ขาดทุนและรักษางบประมาณให้สตูดิโอไม่เจ็บตัวไปมากกว่านี้อีก หนึ่งในโปรเจกต์ที่สุ่มเสี่ยงได้รับคำสั่งยกเลิกนั้น ก็คงจะเป็นโครงการหนังฮีโรต่าง ๆ
บ็อบ ไอเกอร์ เคยออกมายอมรับว่ากระแสหนังฮีโรในยุคปัจจุบันนี้ ไม่ใช่คอนเทนท์หลักที่คนดูปารารถนาและตื่นเต้นอีกต่อไปแล้ว โดยเฉพาะกลุ่มหนังที่เป็นแฟรนไชส์และภาคต่อต่าง ๆ ค่อนข้างสุ่มเสี่ยงในการผลิตออกมา เพื่อเผชิญหน้ากับความล้มเหลวมากขึ้น เพราะเทรนด์ของผู้ชมต้องการหนังใหม่ ๆ ที่มีความแปลกใหม่ มากกว่ารับชมอะไรที่ซ้ำเดิม ในจักรวาลเดิม ๆ
ข้อมูลจากเว็บไซต์ MovieWeb จึงได้วิเคราะห์และคาดการณ์ว่า โปรเจกต์หนังและซีรีส์ฮีโรหลาย ๆ เรื่อง เช่น ภาคใหม่ของ "Captain Marvel 3", ซีรีส์ "Armor Wars" หรือ ภาคต่อหนังรวมฮีโร "Eternals 2" ไม่น่าจะได้รับการอนุมัติให้สร้างต่อ เนื่องจากพิจารณาจากหลาย ๆ องค์ประกอบ โดยเฉพาะผลตอบรับทางด้านรายได้ในแต่ละโปรเจกต์ ที่มีความเสี่ยงจะทำให้สตูดิโอไม่ได้กำไร
ขณะที่โปรเจกต์หนังไลฟ์แอคชันดิสนีย์บางเรื่อง ก็อาจจะเสี่ยงไม่ได้ต่อไป ไม่ว่าจะเป็น "Bambi" หนึ่งในตัวละครคลาสสิกของดิสนีย์ ที่มีการประกาศสร้างมาสักระยะหนึ่ง ไม่ว่าจะสร้างเป็นหนังเข้าฉายโรงหรือลงจอสตรีมมิง แต่เมื่อดูจากกระแสตอบรับของ Peter Pan & Wendy กับ Lady & The Tramp ที่ผลิตออกก่อนหน้านี้ ก็ยังไม่ใช้เป้าหมายที่สตูดิโอคาดหวังไว้
ซึ่งนั่นก็อาจจะทำให้ "Cruella 2" กับ "Jungle Cruise 2" มีโอกาสที่จะถูกล้มโปรเจกต์สร้างภาคต่อไปด้วย เนื่องจากว่าหนังทั้งสองเรื่องจำเป็นต้องใช้งบประมาณสร้างค่อนข้างสูง โดยเฉพาะการใช้บริการนักแสดงระดับแถวหน้าของวงการ ที่จำเป็นจะต้องมีค่าใช้จ่ายในการจ่ายค่าตอบแทนที่สูงเพิ่มขึ้นด้วย
ชะตากรรมของ "Kingsman 3" ที่มาอยู่ในกำมือของดิสนีย์ ก็อาจจะไม่ได้สวยอย่างที่แฟน ๆ ต้องการให้เป็น เพราะเมื่อครั้งอยู่ในภายใต้แบรนด์อดีตค่ายฟ็อกซ์ นี่คืองานหนังแอคชันบู๊ดีเดือดที่ใส่ไอเดียได้เต็ม ๆ แต่เมื่อมาอยู่ในชายคาของดิสนีย์แล้ว ความระห่ำบางอย่างก็อาจจะต้องลดหลั่งลง ซ้ำผลลัพธ์จากหนังตระกูลคิงส์แมนเรื่องล่าสุดก็ไม่ค่อยจะสู้ดีมากสักเท่าไหร่ด้วย
แล้วไม่ต้องพูดถึงภาคต่อของ "National Treasure 3" เพราะเป็นหนังผจญภัยไขปริศนาที่ดิสนีย์อุตสาห์ลืมมันไปได้เป็นทศวรรษแล้ว แต่กลับมีการขุดมันขึ้นมาโหมโรงและผลักดันให้เกิดขึ้นอีก แต่เทรนด์ปัจจุบันไม่น่าจะรองรับกับพล็อตสไตล์นี้แล้ว เห็นได้จากผลลัพธ์ของ Indiana Jones ภาคล่าสุด และฉบับซีรีส์ National Treasure: Edge of History ที่สร้างออกมาแค่ซีซันเดียวก็ต้องจอด
ส่วนโปรเจกต์หนังจากเครื่องเล่นสวนสนุกของดิสนีย์แลนด์ ไม่ว่าจะเป็น "Big Thunder Mountain" หรือ "Tower of Terror" ที่ต่างเป็นโครงการที่เคยประกาศว่าอยู่ระหว่างพัฒนาสร้างออกมาเป็นหนัง โดยหมายมั้นอยากจะให้ออกมาเป็นหนังทรงคุณค่าแบบเดียวกับที่ Jungle Cruise หรือ Pirates of the Caribbean เคยทำได้ แต่โครงการหนังลักษณะนี้มักจะใช้ทุนสร้างระดับมหาศาล จึงไม่น่าจะคุ้มกับการเสี่ยงที่จะปล่อยไฟเขียวให้สร้างในเร็ววันนี้
และท้ายที่สุดกับบรรดาโปรเจกต์ต่าง ๆ ของ Star Wars ไม่ว่าจะเป็น "Rogue Squadron" ของผู้กำกับ "แพทตี้ เจนกินส์" หรือ หนังสตาร์วอร์สเรื่องใหม่ของผู้กำกับ "ไทกา ไวทีที" ยังคงเป็นโครงการที่ประกาศสร้างไว้ แต่งานยังขับเคลื่อนไปได้ช้า ๆ หรือแทบไม่เคลื่อนไหวเลย โดยขณะนี้ Star Wars ภาคหลักเองก็พยายามอย่างหนักที่จะหาทางกลับมาเรียกความนิยมจากแฟน ๆ แต่กลายเป็นว่าการเบนเข็นไปเอาดีกับจักรวาลนี้ทางจอเล็กในรูปแบบซีรีส์ ค่อนข้างเวิร์กกว่าจะสุ่มเสี่ยงใช้ทุนสร้างมหาศาลออกมาเป็นหนังฟอร์มใหญ่
Source: MovieWeb
-------------------------------------
>> ดูหนังออนไลน์ได้ที่ Movie.TrueID <<
หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับทรูไอดีสามารถเข้าไปได้ที่ TrueID Help Center เป็นช่องทางใหม่ที่ให้ข้อมูลและการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเกี่ยวกับทรูไอดี คลิกเลย >> https://bit.ly/3xEgdAa