Short CommentThe Worst of Evil (2023)จีชางอุค - วีฮาจุน - อิมเซมี แท็กทีมเพิ่มดีกรีความเข้มข้นเร้าใจอึดอัดกดดันจนกลั้นและถอนหายใจได้ในทุกตอนถ้าถามดูไปบ่นไปเกี่ยวกับโลกที่เปลี่ยนไปในการเสพความบันเทิงด้านภาพเคลื่อนไหวทั้งหนัง ละคร หรือซีรีส์ในฐานะที่ผ่านโลกมานานพอตั้งแต่ละครดาวพระศุกร์ บ้านทรายทอง คู่กรรม ตราไว้ในดวงจิตที่ฮิตระเบิดไปนั่งดูจากทีวีคนรวยในหมู่บ้านด้วยการส่องไฟฉายไปยามค่ำคืนเป็นหมู่คณะ แล้วผ่านวันเวลาแห่งความเปลี่ยนแปลงมาจนถึงปัจจุบันที่โทรทัศน์กลายเป็นสมาร์ตทีวีจอใหญ่ที่มีกันทุกบ้านและความบันเทิงในปัจจุบันเริ่มมีทางเลือกมากขึ้นเช่นที่บ้านผู้เขียนหลักๆจะเป็นรูปแบบสตรีมมิ่ง แล้วการมาของระบบสตรีมมิ่งนี่เองที่สร้างความเปลี่ยนแปลงทั้งในด้านผู้บริโภคและการสร้างงงานมาป้อนสู่ผู้บริโภคในที่นี้จะว่ากันที่งานละครหรือซีรีส์ เพราะปัจจุบันมีละครหรือซีรีส์ที่เป็นงาน Original ของค่ายสตรีมมิ่งออกมามากขึ้นที่สำคัญคืองานเหล่านั้นไม่ได้ออกอากาศทางโทรทัศน์หรือฟรีทีวี ทำให้งานที่ออกมาจากหลายชาติหลายภาษาดูมีเนื้อหาถึงใจมากขึ้นเพราะอาจจำกัดการเข้าถึงได้ด้วยระบบสตรีมมิ่งนั่นเอง จนสามารถมีงานซีรีส์หรือละครคุณภาพระดับหนังใหญ่และใส่อะไรที่ใส่ไม่ได้ในละครโทรทัศน์ได้เต็มที่เหมือนเรื่องนี้พัคจุนโม (จีชางอุค) ตำรวจชั้นผู้น้อยที่มีภรรยาคือยูอึยจอง (อิมเซมี) ลูกสาวอดีตตำรวจชั้นผู้ใหญ่ในครอบครัวตำรวจที่ก้าวหน้าในหน้าที่การงานทุกคนแต่พัคจุนโมกลับก้าวหน้าไม่ได้เพราะอดีตส่วนตัว จนเมื่อเห็นภรรยายูอึยจองได้เลื่อนขั้นย้ายไปกรุงโซลเขาจำต้องรับข้อเสนอของอัยการและตำรวจปราบปรามยาเสพติดเพื่อแฝงตัวเข้าไปในแก๊งอันธพาลที่ครองพื้นที่คังนัมของจองกีชอล (วีอาจุน) เพื่อสืบหาข้อมูลหลักฐานการค้ายาไอซ์ของจองกีชอล ทว่าเมื่อเขาตาจนยูอึยจองที่ทราบเรื่องก็ยื่นมือเข้ามาช่วยแต่กลายเป็นว่าจองกีชอลกลายเป็นรักแรกในอดีตของยูอึยจองให้กระอักกระอ่วนใจในการทำหน้าที่ แต่ทุกอย่างก็เดินมาได้เรื่อยๆจนพัคจุนโมได้รับความไว้วางใจจากจองกีชอลให้ทำงานใหญ่คือการเจรจากับผู้ผลิตยาเสพติดจากจีนที่ส่งอีแฮรอน (คิมฮยองซอ หรือ Bibi) มาเจรจาแต่กลายเป็นว่าอีแฮรยอนดันไปชอบพัคจุนโมเข้าให้ ในขณะที่ยูอึยจองก็ต้องเสี่ยงมากขึ้นเพื่อเข้าใกล้จองกีชอลการค้ายาในเกาหลีที่ส่งต่อไปญี่ปุ่นก็กลายเป็นสมครามระหว่างแก๊งทำให้ยูอึยจองตกอยู่ในอันตรายแล้วหน้าที่กับหัวใจอะไรจะมาก่อนกันหยิบชิ้นส่วนเก่าๆที่เคยเห็นๆกันมามากมายมาเป็นส่วนผสมที่ลงตัวกับบทละครที่ดีคุณภาพระดับภาพยนตร์ ความจริงถ้าว่ากันที่พิมพ์เขียวของเรื่องที่ว่าด้วยการแฝงตัวเข้าไปอยู่ในแก๊งค้ายาของตำรวจคนหนึ่งเพื่อจับกุมครั้งสำคัญนั้นสามารถเล่าออกมาให้จบได้ในเวลาเพียงสองชั่วโมงกว่าไม่เกินนั้นได้ บ่อยครั้งที่การพยายามลากยาวออกไปกลายเป็นความยืดเยื้อแต่เรื่องนี้ไม่ใช่เพราะวางโครงเรื่องไว้แล้วหยิบเอาชิ้นส่วนต่างๆที่เคยเห็นมาในงานแนว Gangster ตั้งแต่หนัง Gangster คลาสสิคยุค 90-2000 ของฮ่องกงเรื่อยมาถึงหนังฝรั่งหลายๆเรื่องแม้กระทั่งหนังเกาหลีเองที่คงไม่ลงรายละเอียดเพราะเยอะ แต่สิ่งที่หยิบมาใช้นั้นกลับกลายเป็นส่วนผสมที่ลงตัวด้วยบทละครที่เนียนมากในการเชื่อมโยงความต่อเนื่องและการหาที่มาที่ไปในการที่จะกระทำหรือไม่กระทำประการใด ก็ใช่ที่ยังมีการทิ้งร่องรอยบาดแผลไว้ประปรายแต่ก็เล็กน้อยเกินกว่าจะหยิบมาใส่ใจเพราะความขึงขังทำหน้าที่ได้อย่างมีพลังด้วยคุณภาพงานด้านภาพระดับภาพยนตร์ฟิล์มนัวร์ดีๆสักเรื่อง ทำให้ต่อให้รู้ทั้งรู้ว่าเคยเห็นมาจากไหนก็ยังเห็นได้ว่ามีตัวตนของตัวเองเข้มข้นอึดอัดกดดันเดินหน้าด้วยพลังบีบอัดทุกทางจนต้องกลั้นและถอนหายใจบ่อยๆในทุกๆตอน อาจเพราะความที่เป็นละครซีรีส์ที่ไม่ได้ออกอากาศทางฟรีทีวีอย่างที่ว่าเลยสามารถตั้งหน้ามาเข้มข้นขึงขังรุนแรงได้เต็มพิกัด ด้วยชื่อเรื่องที่ว่า "ความชั่วระดับสูงสุด" เลยต้องจัดมาให้สมน้ำสมเนื้อหน่อยเพราะการค้ายาเสพติดก็คือที่สุดของความชั่วที่มนุษย์สามารถทำกับมนุษย์ได้เพราะผลต่อเนื่องของมันก็คือความชั่วที่เหลือคณานับ แต่ความชั่วนั่นอาจยังไม่ถึงขีดสุดเท่าคนชั่วที่พยายามทำตัวเป็นคนดีเป็นพ่อพระเป็นนักบุญแต่แท้จริงแล้วคือปีศาจคาบคัมภีร์ แล้วก็เอาตรงนี้มาเล่นอย่างเข้มเต็มอารมณ์เพราะภาพที่เห็นหรือสถานการณ์ที่ชวนอึดอัดมาจากมโนสำนึกของมนุษย์สักคนที่ดูอยู่จะขีดเส้นไว้ เพราะบทละครออกมาแบบไม่เกรงใจผู้ใดใส่อะไรที่ไม่เคยได้เห็นมาในงานระดับละครมาเต็มที่ทั้งความดุเดือดรุนแรงในฉากฟันแทงกันเลือดสาด ยิ่งอยู่ในสถานการณ์ที่ขมึงตึงตลอดเวลาหนึ่งชั่วโมงในแต่ละตอนทั้งหมดสิบสองตอนไม่มีจังหวะผ่อนให้หย่อนอารมณ์ จึงเป็นความเคร่งตึงที่ไม่ซับซ้อนแต่ต้องกลั้นและถอนหายใจเป็นพักๆตลอดทางความรัก หน้าที่ หัวใจ มิตรภาพ เรื่องง่ายๆที่ใครๆก็รู้แต่ยังจัดการอารมณ์ได้อยู่หมัด อีกสิ่งที่ยังทำได้ดีคือการเล่นกับหัวใจจะว่าฉลาดเล่นก็ไม่ใช่เพราะก็เคยเห็นมานักต่อนัก ด้วยการใส่มิติเชิงลึกให้เรื่องที่เล่าด้วยเรื่องง่ายๆที่คนเคยดูอะไรแบบนี้มาต้องรู้คือความพัวพันในความสัมพันธ์นั่นคือการหยิบหัวใจไปเป็นตัวประกันที่คัดง้างกับมโนสำนึก ด้วยการว่ากันที่ความรักที่จะพาตัวเองไปสู่สถานการณ์ล่อแหลมในหน้าที่พาไปสู่เรื่องของหัวใจที่มองเห็นอะไรที่ผิดที่ผิดทางก่อเกิดมิตรภาพที่ไม่ควรเกิด ทั้งยังใช้สิ่งนี้มาขีดเส้นแบ่งในหัวใจสร้างตัวร้ายที่ชั่วสุดขีดแต่ยังน่าเห็นใจ เพราะเหมือนวางตัวร้ายไว้ให้เป็นผู้ถูกกระทำจากทั้งฝ่ายตำรวจและฝ่ายตัวเองที่ก็รู้นะว่าถึงจุดหนึ่งจะต้องถูกทรยศเพราะทำตามหัวใจเกินไปจนลืมมิตรภาพเดิม นั่นคือการสร้างตัวร้ายที่มีหัวใจถูกหัวใจที่ซื่อสัตย์ทำร้ายจนกระทั่งคนดูรู้ทั้งรู้ว่าชั่วขนาดไหนยังเอาใจช่วยนั่นเพราะมองเห็นมิตรภาพที่ก่อเกิดระหว่างคนร้ายกับตำรวจที่แฝงตัวมา สิ่งเหล่านี้เองที่จัดการอารมณ์ได้อย่างอยู่หมัดจนเมื่อถึงเวลาก็สงสารจับใจทั้งตัวร้ายทั้งพระเอกที่หน้าที่ทำร้ายหัวใจจนแหลกสลายไม่มีชิ้นดี หรือกระทั่งฝ่ายหญิงสองคนทั้งร้ายทั้งดีก็มีเรื่องของหัวใจที่ทำร้ายตัวเองอย่างน่าสงสารไม่ต่างกันการแสดงที่ไม่มีใครแบกใครแท็กทีมกันเพิ่มดีกรีความเข้มข้นได้อย่างสมราคา ทุกครั้งที่งานระดับละครซีรีส์ที่ออกมาคุณภาพดีๆเหนือกว่าระดับซีรีส์ธรรมดาๆจะมีการแสดงที่ยอดเยี่ยมมาขับเคลื่อนเสมอและเรื่องนี้เป็นแบบนั้น แน่นอนจุดสำคัญของเรื่องจะต้องเป็นเรื่องความสัมพันธ์ที่ย้อนแย้งกันแต่ก่อเป็นมิตรภาพของพระเอกกับผู้ร้ายคือจีชางอุคกับวีฮาจุน ทั้งสองคนคือเสาหลักคู่ที่ทำให้เรื่องนี้เดินหน้าด้วยความเข้มข้นซึ่งจีชางอุคจะดูเหลื่อมกว่านิดๆทางมิติตัวละครที่ลึกกว่าเป็นตัวละครสองหน้า แต่ทั้งสองยังรับหน้าที่ได้ดีโดยเฉพาะวีฮาจุนที่เห็นเลยว่าหัวใจนำหน้าสมองจนอะไรๆอยู่ผิดที่ผิดเวลาตั้งแต่การมาของรักแรก กระนั้นถ้าจะมองข้ามสองตัวหลักฝ่ายหญิงก็คงไม่ยุติธรรมนักเพราะทั้งสองคนคือตัวแปรที่มีผลต่อหัวใจและภารกิจครั้งนี้ซึ่งอิมเซมีก็มีเสน่ห์พอที่จะเป็นตัวแปรทางหัวใจและรับผิดชอบอะไรที่ควรซ่อนไว้ได้อย่างเรียบหรู แต่ที่น่าทึ่งคือ Bibi ที่ก่อนหน้าเรื่องนี้ผ่านการแสดงหนังมาเพียงเรื่องเดียวไม่ใช่ตัวหลักด้วยซ้ำ แต่กลับให้การแสดงที่เนียนตาฉายเสน่ห์ออกมาอย่างเหลือเชื่อว่าจะแสดงมาแค่เรื่องเดียว ทั้งยังได้การแสดงแถวสองแถวสามที่เนี้ยบทุกรายละเอียดส่งผลให้ด้านการแสดงเของเรื่องนี้ช่วยส่งเสริมความเข้มให้ข้นคลั่กถ้าว่ากันที่ระดับละครซีรีส์นี่คืองานระดับชั้นดีที่แอบมีที่ทางบนหิ้งของความทรงจำ ถ้าไม่นับเรื่องคุณภาพการสร้างที่เหนือกว่าระดับละครซีรีส์หลายระดับด้วยบทที่แน่นโครงเรื่องและมิติชัดเจนพร้อมงานด้านเทคนิคฉาก เสื้อผ้าหน้าผม แสง สี งานด้านภาพไม่ต่างจากการดูภาพยนตร์เรื่องยาวแล้ว การเดินเรื่องก็นับว่าเร้าใจยิ่งถ้าวัดกันที่ดีกรีการรอคอยการมาของแต่ละตอนการเดินเรื่องในแต่ละตอนจะต้องพาไปสู่สถานการณที่เข้มข้นชวนอึดอัดบางคราวกระอักกระอ่วนบางครั้งก็ดุเดือดรุนแรงลุ้นระทึกเร้าใจ ทำให้ในแต่ละตอนเวลาหนึ่งชั่วโมงเดินไปเร็วและแน่วแน่พอที่จะไม่เสริมเติมแต่งให้ยืดเยื้ออัดความสนุกมาเต็มที่จนการดูในสัปดาห์แรกที่มาสามตอนเป็นเวลาที่คุ้มค่า จนกระทั่งการมาทีละสองตอนในเวลาต่อมาต่อสัปดาห์เป็นการรอคอยที่ยาวนานคือรอมาเจ็ดวันเพื่อดูรวดเดียวที่เผลอหน่อยเดียวจบอีกแล้ว ทั้งยังมาสัปดาห์สุดท้ายสามตอนรวดที่บทสรุปสวยงามในแง่ของเรื่องราวแต่อาจไม่สวยงามในแง่ของหัวใจทำให้กลายเป็นงานที่คู่ควรจะวางไว้บนหิ้งแห่งความทรงจำ เพราะเมื่อหันหลังกลับไปมองกับงานระดับละครซีรีส์เกาหลียังไม่มีงานแนวนี้ที่ทำได้ถึงทั้งคุณภาพและมิติเชิงหัวใจส่งเสริมอารมณ์ได้ขนาดนี้มาก่อนเลยดูไปบ่นไป ขอบคุณภาพประกอบภาพปก 1,2,3 / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2,3,4,5,6,7 / ภาพที่ 8 จาก Instagram portalstarplus ถ้าคุณชอบเรื่องนี้ คุณจะชอบเรื่องเหล่านี้https://entertainment.trueid.net/detail/Z5gLe3gKq9Pkhttps://entertainment.trueid.net/detail/j1kYVjAmDEaWhttps://entertainment.trueid.net/detail/5neGgxA4JP0zhttps://entertainment.trueid.net/detail/eVKQm5LLGB1A เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !