รีเซต

เปิดทำเนียบหนังเจ๊ง ประจำซัมเมอร์ 2023 ในปีที่เจ็บสาหัสอยู่หลายเรื่อง

เปิดทำเนียบหนังเจ๊ง ประจำซัมเมอร์ 2023 ในปีที่เจ็บสาหัสอยู่หลายเรื่อง
Jeaneration
31 สิงหาคม 2566 ( 12:00 )
18K

โปรแกรมหนังซัมเมอร์ ประจำปี 2023 ได้เดินทางมาถึงปลายทางแล้ว และนี่คือหนึ่งบทสรุปภาพรวมของกลุ่มหนังบ็อกซ์บัสเตอร์ที่ไม่ค่อยร้อนแรงสักเท่าไหร่ในปีนี้ เพราะกลายเป็นว่าปีนี้มีหนังฟอร์มใหญ่จากสตูดิโอดัง ๆ หลายเรื่อง ไม่สามารถทำเงินรายได้ตามที่วางเป้าเอาไว้ และกลายมาเป็นผลลัพธ์ที่น่าผิดหวัง

นักวิเคราะห์บ็อกซ์ออฟฟิศได้ทำการสรุปเหตุผลที่น่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้หนังดังหลายเรื่อง ต่างทำยอดไม่ได้อย่างเป็นคาดหวังไว้ ซึ่งประกอบด้วย หนังที่คนดูคาดหวังมากแต่ให้ผลลัพธ์ออกมาได้น้อย, หนังที่เต็มไปด้วยประเด็นต่าง ๆ มากมายระหว่างการถ่ายทำ, หนังที่เผชิญหน้ากับการโปรโมตที่ไม่ประสบความสำเร็จ, หนังที่อัดอั้นงานสร้างมาตั้งแต่ช่วงโควิด-19, หนังที่ได้รับคำวิจารณ์ในทิศทางที่แย่, หนังภาคต่อที่แฟน ๆ เหนื่อยล้าที่จะยึดติดกับแฟรนไชส์แล้ว, ช่องว่างระหว่างหนังฉายโรงกับหนังสตรีมมิ่งที่สั้นลง และ หนังที่ทุ่มทุนสร้างเกินจำเป็น

และนี่คือผลลัพธ์ของหนังบ็อกซ์บัสเตอร์ฤดูร้อน ปี 2023 ที่ทำเงินได้ต่ำกว่าเป้าหมายและเข้าขั้นล้มเหลวในช่วงกลางปีนี้ (เก็บสถิติรายได้ถึงวันที่ 27 สิงหาคม 2023)

อันดับที่ 10 - The Last Voyage of the Demeter

รายได้รวมทั่วโลก: 15 ล้านเหรียญ | ทุนสร้าง: 45 ล้านเหรียญ

อาจจะยังพูดได้ไม่เต็มปากว่า..เจ๊ง แต่โอกาสก็ค่อนข้างสูงเลยทีเดียว หนังเข้าฉายไปแล้วเมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา แต่ล่าสุดผ่านมาได้ 3 สัปดาห์ ดูเหมือนว่ารายได้จะเข็นไม่ขึ้นสักเท่าไหร่ ถึงแม้ว่าหนังจะยังมีโอกาสเก็บเงินเพิ่มได้อีก เพราะกำลังจะเริ่มทำตลาดจากการออกฉายทั่วโลกในเดือนกันยายนนี้ แต่ดูจากกระแสที่หลงเหลืออยู่ตอนนี้ ก็เชื่อว่ารายได้น่าจะขยับขึ้นไปกว่านี้ได้อีกไม่มากนัก

อันดับที่ 9 - The Little Mermaid

รายได้รวมทั่วโลก: 568 ล้านเหรียญ | ทุนสร้าง: 250 ล้านเหรียญ

ตัวปัญหาหลัก ๆ ของหนังเจ้าหญิงดิสนีย์เรื่องนี้เลยก็คือทุนสร้างที่ใช้เยอะเกินจำเป็นไปหน่อย นั่นหมายความว่าหนังจะต้องทำเงินให้ได้ปัง ๆ แต่หนังเรื่องนี้ถือว่าค่อนข้างมีเส้นทางที่ขรุขระ นับตั้งแต่ประกาศสร้างและคัดเลือกตัวนักแสดงนำ ผลลัพธ์ที่ออกมานั้นทำให้ไม่อาจสร้างกำไรให้ได้ แม้ว่าดูตัวเลขค่อนข้างสูงแล้ว แต่ดิสนีย์หวังกับเรื่องนี้เอาไว้มากว่าจะเป็นหนังพันล้านเรื่องต่อไป

อันดับที่ 8 - Fast X

รายได้รวมทั่วโลก: 704 ล้านเหรียญ | ทุนสร้าง: 350 ล้านเหรียญ

หนึ่งแฟรนไชส์หนังที่สานต่อมาอย่างยาวนาน และดูทรงว่าแฟนหนังจะเริ่มออกอาการเบื่อหน่ายแล้วหรือเปล่า กลายเป็นว่าภาคที่ 10 ของหนังชุดนี้คาบเส้นกับคำว่าขาดทุนมาก ๆ แน่นอนว่ายูนิเวอร์แซลคาดหวังจะให้เป็นหนังระดับพันล้านในปีนี้ แต่กลับต้องผิดหวังและเจ็บตัวกันไปเป็นแทบ ๆ เพราะหนังยังทำเงินแบบเข้าเนื้ออยู่ในตอนนี้ คงจะต้องไปหวังกับยอดเช่าหนังและโฮมเอ็นเตอร์เมนท์กันต่อไป

อันดับที่ 7 - Transformers: Rise of the Beasts

รายได้รวมทั่วโลก: 438 ล้านเหรียญ | ทุนสร้าง: 195 ล้านเหรียญ

แม้ว่าจะหวังให้เป็นจุดเริ่มต้นใหม่ที่ดี แต่ก็เหมือนจะได้แค่คำวิจารณ์ที่ดีขึ้นเท่านั้น เพราะแฟรนไชส์หนังเรื่องนี้ก็ยังเผชิญหน้ากับเส้นทางที่ขรุขระอยู่ต่อไป ภาคนี้ยังคงใช้งบลงทุนค่อนข้างสูงอยู่เช่นเดิม แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับคืนมาก็ยังคงไม่มากพอที่จะทำให้สตูดิโอหนังพอใจเท่าไหร่ เพราะพวกเขาคาดหวังว่ามันจะทำเงินได้มากกว่า 550 ล้านเหรียญขึ้นไป

อันดับที่ 6 - Mission: Impossible - Dead Reckoning Part One

รายได้รวมทั่วโลก: 552 ล้านเหรียญ | ทุนสร้าง: 290 ล้านเหรียญ

ถึงจะยังคงเดินหน้าเก็บเงินทั่วโลกไปได้อยู่ แต่ก็น่าจะพูดออกมาได้เบา ๆ แล้วว่า มิชชันนี้..คงจะเจ๊ง ด้วยความที่มั่นอกมั่นใจของพาราเมาท์ ที่เชื่อว่าการกลับมาในภาคนี้ของแฟรนไชส์หนังที่สร้างมายาวต่อเนื่องถึง 2 ทศวรรษจะกลับมาปังอีกครั้ง หนังได้เทงบประมาณงานสร้างแบบสุดโต่ง แต่ผลลัพธ์รายได้ที่ออกมานั้น ยังค่อนข้างน่าผิดหวังและห่างไกลจากคำว่าหนังพันล้าน

อันดับที่ 5 - Elemental

รายได้รวมทั่วโลก: 468 ล้านเหรียญ | ทุนสร้าง: 200 ล้านเหรียญ

ถึงแม้ว่าจะคำวิจารณ์ดีและกระแสดีแบบเรื่อย ๆ แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้หนังจากพิกซาร์เรื่องนี้รอดจากความตายไปได้ เพราะว่าการที่หนังทำเงินไปได้แบบช้า ๆ ย่อมไม่ส่งผลดีสักเท่าไหร่ และนับว่ายังเป็นอีกปีที่แอนิเมชั่นจากค่ายนี้ยังคงเจ็บตัวอยู่ต่อไป คาดว่าสาเหตุที่ทำให้หนังเผชิญหน้ากับสถานการณ์แบบนี้ น่าจะเป็นเพราะพฤติกรรมของผู้ชมที่เปลี่ยนไป เนื่องจากหนังยุคนี้ลงช่องทางสตรีมมิ่งเร็วขึ้นนั่นเอง

อันดับที่ 4 - Ruby Gillman: Teenage Kraken

รายได้รวมทั่วโลก: 42 ล้านเหรียญ | ทุนสร้าง: 70 ล้านเหรียญ

ถึงแม้ว่ากระแสคำวิจารณ์หนังเรื่องนี้จะไม่ได้แย่ แต่การโปรโมตที่ค่อนข้างไม่ประสบผลสำเร็จสักเท่าไหร่ ก็ส่งผลต่อรายรับภาพรวมเช่นเดียวกัน นี่คือหนังแอนิเมชั่นในปี 2023 อีกเรื่องที่ทำเงินได้น่าผิดหวังมาก ๆ และไม่อาจจะมีโอกาสได้ทำเงินเพิ่มอีก เนื่องจากหนังลาโรงฉายไปหลาย ๆ ประเทศแล้ว แม้จะไม่ใช่หนังที่ใช้ทุนสร้างสูงระดับร้อยล้าน แต่ก็ยังถือว่าทำเงินได้ขาดทุนอยู่ดี

อันดับที่ 3 - The Flash

รายได้รวมทั่วโลก: 268 ล้านเหรียญ | ทุนสร้าง: 200 ล้านเหรียญ

จากที่เคยเป็นความหวังให้กับค่ายดีซี ต้องกลายมาเป็นอีกหนึ่งความล้มเหลวต่อเนื่องอีกครั้ง นี่คือหนังที่อาจจะพูดได้ว่าท่าดีทีเหลว เพราะผลลัพธ์ในท้ายที่สุดที่ออกมาทางรายได้นั้น กับกลายเป็นว่าผู้ชมไม่ได้ให้การต้อนรับที่ดีอย่างที่คาดหวังไว้ หนังที่เต็มไปด้วยประเด็นดรามามากมายระหว่างถ่ายทำ งบประมาณที่บานปลาย และในท้ายที่สุดก็ทำเงินได้ไม่ตรงตามเป้าที่หวังเอาไว้

อันดับที่ 2 - Indiana Jones And The Dial Of Destiny

รายได้รวมทั่วโลก: 380 ล้านเหรียญ | ทุนสร้าง: 300 ล้านเหรียญ

เพราะหมดงบไปค่อนข้างเยอะกับการใช้เทคนิค De-Aging ลดอายุให้กับนักแสดงนำ จึงนำพามาด้วยผลลัพธ์รายได้ที่น่าผิดหวังเป็นอย่างมาก นักวิเคราะห์มองว่าความล้มเหลวเกิดจากหลาย ๆ ปัจจัย หนังแฟรนไชส์หนังที่เก่าแก่เกินไป จนไม่อาจดึงดูดคนดูยุคปัจจุบันได้แล้ว กับการเททุนสร้างที่เยอะเกินจำเป็นที่ทำให้สตูดิโอหนังต้องเจ็บตัว ดังนั้นนี่คงจะเป็นอีกหนึ่งบทเรื่องที่เข็ดหลาบ ว่าอาจจะแตะต้องอะไรที่มันคลาสสิกดีอยู่แล้ว

อันดับที่ 1 - Haunted Mansion

รายได้รวมทั่วโลก: 92 ล้านเหรียญ | ทุนสร้าง: 158 ล้านเหรียญ

และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งผลงานที่ทำให้ วอลต์ ดิสนีย์ กลายเป็นสตูดิโอหนังที่เจ็บตัวที่สุดในฤดูร้อนปีนี้ เพราะอีกหนึ่งความพยายามที่จะสร้างหนังจากเครื่องเล่นในสวนสนุกอีกครั้ง ต้องเผชิญหน้าและยอมรับบทความล้มเหลวซ้ำ ๆ อีกหน เรื่องนี้ทุ่มทุนสร้างไปไม่ใช่น้อย แต่เพราะการโปรโมตที่ติดขัด (เพราะการประท้วง) บวกกับกระแสคำวิจารณ์ที่อยู่แค่ระดับกลาง ๆ จึงไม่อาจจะช่วยผลักดันให้รอดพ้นจากคำว่าหนังเจ๊งที่สุดในซัมเมอร์นี้

-------------------------------------

>> ดูหนังออนไลน์ได้ที่ Movie.TrueID <<

หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับทรูไอดีสามารถเข้าไปได้ที่ TrueID Help Center เป็นช่องทางใหม่ที่ให้ข้อมูลและการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเกี่ยวกับทรูไอดี คลิกเลย >> https://bit.ly/3xEgdAa