Movie Review Gladiator II (2024) แกลดดิเอเตอร์ นักรบผู้กล้า ผ่าแผ่นดินทรราช 2 รับชมได้ที่ TrueID นี่คือหนังแอ็กชันสุดมันส์ที่ถึงพร้อมทั้งความบันเทิงและคุณภาพที่น่าพอใจแค่ว่าอย่าเอาไปเปรียบเทียบกับความคลาสสิคของภาคแรก รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! ในบรรดาหนังภาคต่อที่ผู้เขียนไม่อยากให้มีการสร้างขึ้นมาหนังเรื่องนี้คืออันดับต้นๆเพราะหนังภาคแรกคือของสูงกลายเป็นความคลาสสิคและมันสมบูรณ์แบบที่สุดแล้วหนังเรื่องนี้คือ Gladiator (2000) แล้วเมื่อมีการประกาศสร้างภาคต่อโดยผู้กำกับคนเดิมคือ Ridley Scott ผู้รังสรรงานดีมีคุณภาพจากภาคแรกยิ่งไม่เข้าใจว่าเขาจะยังมีอะไรค้างคาอยู่อีก กระนั้นเมื่อหนังภาคแรกมันความความยอดเยี่ยมเป็นหนังขายความบันเทิงที่มาพร้อมคุณภาพระดับรางวัลที่ทุกคนยอมรับซึ่งส่วนตัวแล้วผู้เขียนสามารถดูได้เรื่อยๆซ้ำแล้วซ้ำอีกจนปัจจุบันไม่รู้ว่าดูซ้ำมากี่รอบหรือเรียกแบบบ้านๆว่าดูกี่ครั้งยังสนุก แต่เมื่อมันจะมีภาคต่อสิ่งที่เป็นคือมันคล้ายกับเป็นหน้าที่ที่ต้องดูแม้ว่าจะยังมีความกังขาในใจแต่เมื่อมีออกมาไม่ว่ายังไงก็ต้องดู แต่สำหรับผู้เขียนแล้วอย่างที่บ่นมาหลายครั้งว่าการดูหนังในโรงไม่อาจทำได้แล้วเลยต้องรอทางสตรีมมิ่งและแล้วเมื่อรู้วันลงจอฉายก็กลายเป็นรอคอยซะงั้น เพราะแม้จะไม่อยากให้สร้างแต่ก็ยังอยากรู้ว่า Ridley Scott จะมาไม้ไหนจนกลายเป็นความน่าสนใจเข้าให้ สิบหกปีหลังจากการพลีชีพของ Maximus โรมยังคงอยู่ภายไต้ทรราชผู้กระหายสงครามและอีกหนึ่งดินแดนที่โรมไปรุกรานโดยนายพล Acacius (Pedro Pascal) ทำให้ Hanno (Paul Mescal) เสียนางอันเป็นที่รัก และหลังจากความพ่ายแพ้เขาถูกจับเป็นเชลยศึกพร้อมแบกความแค้นต่อนายพล Acacius จนมาพบกับ Macrinus (Denzel Washington) นายหน้าจัดหานักสู้ แล้วเงื่อนไขที่ Hanno จะสู้คือศีรษะของนายพล Acacius โรมจึงได้ต้อนรับ Hanno ซึ่งความจริงคือ Lucius บุตรนอกสมรสของ Maximus กับ Lucilla (Connie Nielsen) แล้วเมื่อมาถึงโรม Lucius ที่เป็นเลือดขัตติยาต้องมาพบกับโรมที่ถูกปกครองโดยทรราชจักรพรรดิฝาแฝด Geta (Joseph Quinn) กับ Caracalla (Fred Hechinger) ที่นายพล Acacius กับ Lucilla หวังจะโค่นล้มเพื่อคืนอำนาจให้กับสภาสูงดังปณิธานของ Maximus แต่แผนการนี้จะเป็นไปได้หรือไม่และ Lucius จะเป็นตัวแปรในการโค่นทรราชได้อย่างไรแถม Macrinus ก็เหมือนมีแผนการอะไรซ่อนไว้ สานต่อลงตัวหาทางไปได้เนียนๆแต่เล่าบนเส้นเรื่องเดิมแถมมีอะไรที่ขาดนิดเกินหน่อยและน่าเสียดายอยู่มากมาย ที่สงสัยไว้แต่แรกว่า Ridley Scott จะมาไม้ไหนในการสานต่อก็หายสงสัยและยอมรับว่าก็ไปของเค้าได้อยู่และไปแบบเนียนๆด้วย แต่แม้จะเป็นแบบนั้นหนังยังคงเล่าบนเส้นเรื่องเดิมเรื่องของนักรบที่กลายมาเป็นทาสและมาเป็นนักสู้เพื่อที่จะโค่นล้มทรราช ซึ่งมันไม่ต่างจากภาคแรกแค่เปลี่ยนตัวละครและสถานการณ์เท่านั้นแต่ก็มีความพยายามที่จะบิดเล็กน้อยด้วยการซ้อนตัวร้ายไว้หลังตัวร้าย ซึ่งมันคือความน่าเสียดายที่หนังเล่าตรงนี้ขาดไปนิดทำให้ความร้ายมันออกนอกหน้าไม่ร้ายลึกน่าขนลุกเหมือนกับภาคแรก แถมยังน่าเสียดายที่ความขาดยังไปลงตรงที่ความสัมพันธ์ของ Acacius กับ Lucilla ที่ดูทะแม่งๆทั้งยังมีความง่ายในแผนการของตัวร้ายที่แท้จริง สิ่งที่เป็นคือหนังออกมาไม่มีแก่นหรือหัวใจของภาคแรกอยู่เลยเหมือนหนังเรื่องใหม่ที่อ้างอิงถึงมากกว่าจะเป็นงานภาคต่อที่สำคัญมันทำให้ความน่าติดตามในสถานการณ์ที่ไม่ใช่ฉากต่อสู้ดูไม่เข้มข้นพอ เป็นความบันเทิงชั้นเยี่ยมเพราะอัดความมันส์เข้าใส่ไม่มีพักเหมือนพาคนดูเข้าไปเป็นหนึ่งในผู้ชมในโคลอสเซียม แต่หนังก็มีดีที่ความบันเทิงที่เต็มอิ่มคือเหมือนจะต้องการมาขายฉากต่อสู้ในโคลอสเซียมมากกว่าจะมาเป็นความล้ำลึกเข้มข้นในเนื้อหาเหมือนภาคแรก เพราะหนังทำได้ดีในการสร้างอารมณ์ร่วมในฉากต่อสู้ที่ดุเดือดสุดมันส์ดูสนุกกับความอลังการด้านภาพที่หาที่ติไม่เจอ ทำให้ความตื่นเต้นระทึกใจจัดมาอย่างเต็มที่ไม่ต่างจากการที่คนดูไปเป็นหนึ่งในผู้ชมที่ดูการประหัตประหารกันเพื่อความบันเทิงในนั้น ทำให้ในเนื้อหาของหนังที่อาจจะไม่ถึงกับเบาบางแต่ก็ไม่ได้หนักแน่นเข้มขลังไม่เป็นตัวถ่วงเพราะหนังมีความบันเทิงที่จัดจ้านมาเป็นแนวหน้าตรึงคนดู แน่นอนเมื่อน้ำหนักทิ้งไปทางฉากต่อสู้เพื่อความบันเทิงเรื่องเชิงอารมณ์เชิงลึกเลยกลายเป็นผิวๆบางเรื่องก็กลายเป็นประดักประเดิดไปบ้าง สิ่งที่ตามมาคือที่ต้องการจะจับใจบีบคั้นให้ได้ก็ไม่มาตามนัดหนังจึงกลายเป็นหนังแอ็กชันที่ดูสนุกดูเพลินแค่ว่าสวยงามที่รูปร่างหน้าตาแต่ว่าไร้หัวใจเพราะจับต้องใดๆไม่ได้เลย ถ้าตัดความน่ากังขาบนความเป็นไปได้หลายอย่างการแสดงคืออยู่หมัดอยู่มือแต่ค่อนไปทางตัวร้ายซะมากกว่า ด้วยความที่ตัวละครเยอะแต่เรื่องถูกเล่าได้ไม่ครอบคุลมทำให้มีความน่ากังขาบางอย่างแต่ที่ต้องชื่นชมคือการแสดงยังสามารถยกระดับบทของตัวละครที่เหมือนจะธรรมดาแบนๆให้ดูมีความลึกขึ้นมาได้ หนึ่งคือ Denzel Washington ที่ยังเชื่อขนมกินได้กับการแสดงที่มีลับลมคมในในตัวละครที่แบนๆได้อย่างน่าสนใจ สองคือ Pedro Pascal ที่เอาจริงตัวละครนี้เอาใครมาเล่นก็ได้แต่เขาทำให้กลายเป็นตัวละครของเขาได้เต็มตัว สามคือ Connie Nielsen ที่งดงามตามวัยที่ถ้าตัดความน่ากังขาที่นางแต่งงานกับนายพล Acacius ได้ไงออกไปก็คือตัวละครที่เชื่อมทั้งสองภาคเข้ากันได้ลงตัวดี สุดท้ายคือพระเอก Paul Mescal ที่ก็รับผิดชอบหน้าที่ของตัวเองได้ดีแค่โชคไม่ดีที่มาอยู่ท่ามกลางจอมเก๋าที่ว่ามาทั้งหมด เพราะความที่พลังดาราของเขายังไม่แรงพอที่จะต้านทานพวกเขาเหล่านั้นทำให้ทุกครั้งที่ขึ้นจอร่วมกันกลายเป็นถูกข่มทุกฉากไปอย่างน่าเสียดาย ถ้าไม่เอาไปเปรียบเทียบกับความคลาสสิคของภาคแรกนี่คือหนังแอ็กชันที่ดูเอามันส์ได้บันเทิงและมีคุณภาพแต่ใครมันจะทำได้กันเล่า ถ้ามองด้วยความเป็นเอกเทศนี่คือหนังแอ็กชันชั้นดีที่มีคุณภาพน่าพอใจไม่รั่วเกินไปแม้ไม่เนี้ยบและขาดความขลัง เพราะถ้าว่ากันตามตรงโดยไม่มองว่านี่คือหนังภาคต่อนี่คือหนังที่ตั้งใจมาเพื่อความบันเทิงเป็นปฐมไม่ผสมเรื่องใดให้การเล่าเรื่องประคับประคองไว้ไม่ให้กลวง ทำให้กลายเป็นความบันเทิงที่ถูกใจใช่เลยเป็นหนังที่ดูสนุกแต่คำถามคือจะมีกี่คนที่ดูภาคสองโดยไม่คิดถึงความคลาสสิคของภาคแรกที่มีทั้งความเข้มข้นของเนื้อหาที่มีความมันส์สะใจสะกดได้ทั้งหัวใจและอารมณ์ เพราะแค่เพลงประกอบก็ทำให้ไม่ว่ายังไงก็ต้องคิดเมื่อคิดก็ต้องมีการเปรียบเทียบและถ้าเปรียบเทียบก็คือหนังภาคต่อที่ไม่ได้เข้าใกล้ต้นฉบับแม้แต่นิดเดียวเป็นงานสนองตัณหาของ Ridley Scott ก็อาจว่าได้ ซึ่งถ้าจะเอาตามความเห็นของผู้เขียนล้วนๆคือภาคแรกคือของขึ้นหิ้งภาคสองของของธรรมดาที่คุณภาพอาจไม่ต่ำต้อยแต่ก็ไม่มีอะไรที่ต้องจดจำ ดูไปบ่นไป ขอบคุณภาพประกอบ ภาพปก / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 / ภาพที่ 5 / ภาพที่ 6 / ภาพที่ 7จาก Instagram gladiatormovie เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !