รีเซต

มือตัดต่อหนัง "The Power of the Dog" บอกเล่าถึงตอนจบฉบับดั้งเดิมที่ถูกเปลี่ยนไป

มือตัดต่อหนัง "The Power of the Dog" บอกเล่าถึงตอนจบฉบับดั้งเดิมที่ถูกเปลี่ยนไป
Jeaneration
27 กุมภาพันธ์ 2565 ( 13:00 )
387

ข่าวสารวงการหนัง The Power of the Dog

หนังดราม่าเรื่องเยี่ยม "The Power of the Dog" ที่กลายเป็นดาวเด่นบนเวทีรางวัลต่างๆ ในปีนี้ และเป็นหนังที่ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ได้มากที่สุดถึง 12 รางวัล โดยที่ตัวหนังก็ยังมีโอกาสค่อนข้างสูงที่จะคว้ารางวัลยอดเยี่ยมแห่งปีไปครอง ผลงานมาสเตอร์พีชชิ้นล่าสุดของผู้กำกับหญิง "เจน แคมเปียน" กับดาราหนุ่ม "เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบตช์" เป็นที่ประจักษ์ต่อสายต่อผู้ชมทั่วโลกไปแล้ว

แต่คิดว่าหลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า แท้ที่จริงแล้ว The Power of the Dog ยังคงมีตอนจบอีกแบบ ที่ถูกวางเอาไว้เป็นฉากจบฉบับดั้งเดิมที่ร่างเอาไว้ตั้งแต่แรก แต่ปรากฏว่ามีการเปลี่ยนแปลงและปรับเปลี่ยนใหม่ในช่วงขั้นตอนการตัดต่อ และผู้ที่จะมาบอกเล่าถึงประเด็นได้ดีที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้น "ปีเตอร์ สคิบเบอร์ราส" ที่ฝีมือในการตัดงานของเขาจากเรื่องนี้ ก็ทำให้ได้เข้าชิงออสการ์เป็นครั้งแรกในปีนี้ด้วย

ปีเตอร์ สคิบเบอร์ราส ได้เล่ารายละเอียดเกี่ยวกับการทำงานในหนัง The Power of the Dog ระหว่างให้สัมภาษณ์กับ The Wrap และเขาได้เปิดเผยข้อมูลเชิงลึกบางอย่างเกี่ยวกับหนังออกมา นั่นก็คือการตัดต่อหนังที่มีการปรับเปลี่ยนอะไรหลายๆ จุด และหนึ่งในนั้นก็คือฉากจบที่แตกต่างไปจากหนังฉบับที่ปล่อยออกมาให้ผู้ชมได้ดูกัน

คำเตือน เนื้อหาในข้อความต่อไปนี้จะมีการเปิดเผยถึงเนื้อหาในภาพยนตร์เล็กน้อย

"ฉากนั้นมันจะแพนกล้องไปอย่างช้าๆ ครับ ไปหาโต๊ะเรียนหนังสือในห้องของปีเตอร์ ที่จะเผยให้เห็นหนังสือเรียนทางการแพทย์วางเอาไว้บนโต๊ะของเขา จากนั้นกล้องจะค่อยๆ โฟกัสไปถึงหนังสือเล่มนั้น ก็จะพบว่าเป็นหนังสือที่ศึกษาเกี่ยวกับโรคแอนแทรกซ์ และนั้นก็คือซีนสุดท้ายของหนังเรื่องนี้ในฉบับตัดต่อดั้งเดิม ที่ในท้ายที่สุดก็ปรับเปลี่ยนไปครับ"

แน่นอนว่าหากหนังใช้ฉากจบนี้ก็น่าจะยิ่งส่งพลังและยกระดับฉากจบให้ยิ่งใหญ่ขึ้น เพราะถือว่าเป็นฉากจบที่เคารพต้นฉบับนิยายของ "โทมัส ซาเวจ" เป็นอย่างดี แต่เพียงเท่านี้ทีมนักแสดงยกชุดของหนังเรื่องนี้ก็สามารถเข้าไปนั่งเก้าอี้ในทุกๆ สาขาการแสดงบนเวทีออสการ์ได้ทั้งหมด แต่ภาษีที่ดีกว่าใครๆ ก็คงจะยกให้ "โคดี้ สมิท-แม็คฟี" ที่สื่อหลายสำนักต่างเล็งเห็นว่า เขาน่าจะคว้าออสการ์ตัวแรกไปครอง ในวัยแค่เพียง 25 ปีเท่านั้น

-------------------------------

>> ดูหนังออนไลน์ได้ที่ Movie.TrueID <<

หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับทรูไอดีสามารถเข้าไปได้ที่ TrueID Help Center เป็นช่องทางใหม่ที่ให้ข้อมูลและการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเกี่ยวกับทรูไอดี คลิกเลย >> https://bit.ly/3xEgdAa