โควิดเปลี่ยนชีวิต “เต้ วิทย์สรัช” ขอฟื้นฟูปอดอีกครั้งเพื่อกลับมาจุดเดิม 1
โควิดเปลี่ยนชีวิต “เต้ วิทย์สรัช” ขอฟื้นฟูปอดอีกครั้งเพื่อกลับมาจุดเดิม 1
เป็นไปได้ว่าโควิด19 อาจทำให้ชีวิตของนักร้องคนหนึ่งอาจจะเปลี่ยนแปลงไปตลอดชีวิต เพราะแม้จะรักษาหายแล้วผลกระทบภายในต่อปอดยังส่งผลมาถึงทุกวันนี้
แน่นอนที่สุดสำหรับ “เต้ วิทย์สรัช” เจ้าของเสียงเพลง ที่รักของใครสักคน เผยกับดาราเดลี่แบบพิเศษยาวเหยียดเกือบ 1ชม. ถึงการฟืเนฟู หลังจากหายโควิด19
และนี่คือเรื่องราวที่เขาสู้กับโควิด19 นานกว่า 6 เดือน
ดาราเดลี่ : คุณเต้เล่าย้อนให้นิดนึง คุณเต้ติดโควิดคลัสเตอร์รอบไหนยังไงครับ
เต้ วิทย์สรัช : ของผมติดน่าจะช่วงถ้าประชาชนทราบกันดีก็น่าจะเป็นช่วงคลัสเตอร์ทองหล่อนะครับ ห่างจากคลัสเตอร์ทองหล่อสักประมาณ 2-3 คือทองหล่อเริ่มเงียบแล้วผมก็เริ่มรับเชื้อแล้ว คือช่วงนั้นที่ผมรับเชื้อน่าจะประมาณปลายเมษา เอ่อปีนี้ครับ
ดาราเดลี่ ; ปีนี้เลย
เต้ วิทย์สรัช : ปีนี้ครับ ใช่ครับ
ดาราเดลี่ : เริ่มแรกเราได้มีอาการยังไงครับตกใจหรือว่าแค่เป็นหวัดอย่างเดียว หรือว่าไปตรวจเลยมันวุ่นวายนะช่วงนั้นนะ
เต้ วิทย์สรัช : คือตอนที่ผมเป็นเนี่ยผมก็ ผมว่าจริงๆ แล้วเกือบร้อยเปอร์เซนต์เนี่ยคือคนที่รับเชื้อหรือคนที่ติดคิดเนี่ย ไม่คิดว่าตัวเองเป็นอันนี้คือสิ่งที่น่ากลัว ผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้นที่คิดว่าตัวเองไม่เป็นไร ดูแลรับผิดชอบตัวเองได้ดี แล้วเราก็คิดว่าตัวเองไม่ได้เป็นไร คราวเนี่ยเราก็เลยมีอาการตอนนั้นผมมีอาการก็คือผมเริ่มคัดจมูกนะครับ คัดจมูกแล้วก็เจ็บคอนะครับแต่ว่าผมไม่ไอ แล้วก็ผมก็ไม่มีไข้ คราวนี้ผมก็เลยซื้อยามารับประทานเองสักประมาณ 1 อาทิตย์
ดาราเดลี่ : กินยาเองเหรอครับ
เต้ วิทย์สรัช : ใช่ครับ ผมยังใช้ชีวิตปกตินะครับผมก็ซื้อยามารับประทานแล้วมันก็ 1 อาทิตย์ผ่านไปมันก็ไม่หาย เอ้มันไม่เหมือนเราเคยเป็นปกติ คราวนี้ผมก็เลยตัดสินใจไปหาหมอปุ๊ป คุณหมอก็ตรวจร่างกายตามปกติ คราวนี้ผมก็ไม่คิดว่าผมจะได้ตรวจนะครับเพราะว่าตอนนั้นคิวมันค่อนข้างแน่น คิวสำหรับคนที่จะตรวจโควิดเนี่ย ผมก็ไม่คิดว่าจะได้ตรวจคุณหมอตรวจร่างกายเค้าก็บอกว่ามันไม่เหมือนนะมันไม่เหมือนโควิดเพราะฉะนั้นคุณหมอก็จะจ่ายยาแล้วก็ให้กลับไปพักที่บ้าน แล้วพอผมลุกกำลังจะหันหลังกลับคุณหมอก็พูดสดขึ้นมาว่า ดูคนไข้ค่อนข้างที่จะกังวลอยากจะ Swab มั้ย
ดาราเดลี่ ; ตอนนั้นสภาพจิตใจเป็นยังไง
เด้ วิทย์สรัช : ผมก็คิดอยู่นะครับแต่ผมไม่กลัวนะ ผมมั่นใจว่าผมไม่น่าเป็นถึงคิดว่าเราจะเป็นเราคิดว่าเรารักษาดีกว่า
ดาราเดลี่ : ช่วงนั้นยังไปร้องเพลงอยู่มั้ย
เต้ วิทย์สรัช : ไม่มีครับ ตอนนั้นคือมันเริ่มล็อคดาวน์ล่ะ เริ่มกำลังแพร่ระบาดค่อนข้างหนักครับ ก็เลยตัดสินใจโอเคตรวจ คุฯหมอก็เลยบอกว่างั้นก็ Swab เลยแล้วกัน ผมก็เดินไป Swab เลยก็ไม่คิดนะฮ่ะว่าจะเป็น แล้วพอดีผ่านไปช่วงประมาณคืนนั้นผมก็นอนหลับสบายปกติ คิดว่าตัวเองเป็นเรื่องปกติไม่มีความกังวลอะไรเลย พอเสร็จปุ๊ปเจ็ดโมงเช้าผมได้รับโทรศัพท์จากโรงพยาบาลว่าเค้าจะโทรมาแจ้งผลครับก็พอรับโทรศัพท์ปุ๊ปก็แนะนำตัวเลยนะครับว่า “สวัสดีครับดิฉันแพทย์หญิง” ผมก็เริ่มเอะใจละเพราะว่าจริงๆ น่าจะเป็นแค่เจ้าหน้าที่ก็พอนะฮะ อันนี้เป็นแพทย์หญิงนะฮะผมก็เลยครับคุณหมอ เค้าบอกโอเคตอนนี้ถามว่าเราอยู่กับใคร เราใช้ชีวิตอย่างไรเรามีคนรอบข้างมั้ย ตอนนี้เราอยู่คนเดียวนะ ผมบอกใช่ครับ คุณหมอต้องแจ้งผลว่าเอ่อตอนเนี่ยผมติดเชื้อ ผมมีการรับเชื้อโควิดเข้ามาในร่างกายแต่ว่าไม่ต้องตกใจตอนนี้กำลังดำเนินการเรื่องของการหาเตียงในการรักษาผม ผมว่ามันเป็นความรู้สึกเหมือนกับทุกคนที่ติดนะฮะก็คือเป็นห่วงคนรอบข้าง เอะทีนี้เราจะไปแพร่เชื้อให้ใครรึเปล่า ใช่ตอนนั้นก็คือค่อนข้างเครียดขึ้นมาละ ได้สักพักหนึ่งพอเค้าเช็คเรื่องสิทธิ์ประกันเช็คอะไรเรียบร้อยก็โทรศัพท์กลับมาจากโรงพยาบาลว่ามีเตียงเรียบร้อยเค้าก็ถามผมว่าให้รถมารับหรือจะสะดวกขับรถไปเอง ผมก็บอกโอเคงั้นผมขับรถไปเองดีกว่าก็ขับรถไปปุ๊ปก็แอทมิดเลย โดยที่มันไม่ได้ตั้งตัวครับเราไม่ทราบว่าเราต้องเตรียมอะไร ผมก็เอาไปเฉพาะของใช้ที่ผมคิดว่าจำเป็นนะครับ ก็ไปอยู่ที่นั้น 10 กว่าวันครับ
ดาราเดลี่ : มันแอบช็อคมั้ย หรือว่าเหนือเกินความคาดหมายมั้ยว่า “เต้ วิทย์สรัช” ติดโควิด มันก็เป็นเรื่องใหญ่นะนึกออกมั้ย หรือยังไง
เต้ วิทย์สรัช : ใช่ครับ ตอนแรกผมคิดว่าเราติดแล้วเราจะยังไงต่อ เพราะว่าเรามีคุณพ่อคุณแม่ที่ใช้ชีวิตร่วมกัน เรามีพนักงานเรามีบริษัทที่เราเข้าทำงานทุกวัน มันจะแพร่กระจายมั้ยเราจะสร้างความมั่นใจให้กับพนักงานเราอย่างไร ให้เค้ากลับมาทำงานได้อย่างมีความมั่นใจ ตอนนั้นมันมีเรื่องเข้ามาเยอะมากแล้วก็เราจะบอกกับสาธารณชนมั้ยว่าเรารับเชื้อเราต้องเดินยังไงต่อ
ดาราเดลี่ : มันกังวลใจไปหมดใช่มั้ยฮะ
เต้ วิทย์สรัช : ใช่แล้วตอนนั้นมันเหมือนมันทำตัวไม่ถูกเลยครับว่าเราควรจะเริ่มจากตรงไหนเป็นก้าวแรก
ดาราเดลี่ : ประกาศออกไปจะเป็นยังไง ใช่มั้ยฮะ
เต้ วิทย์สรัช : ใช่ครับ เพราะว่ามันเป็นตอนนั้นคนติดเชื้ออาจจะยังน้อยคนกลัว เราก็จะกลายเป็นกลุ่มบุคคลที่ดูน่ารังเกียจในช่วงนั้นอะนะครับ เราก็ยอมรับในสิ่งที่มันเกิดขึ้นสิ่งที่ผมกังวลใจก็คือคุณพ่อคุณแม่มากกว่านะครับ คุณพ่อคุณแม่ก็ต้องรีบตรวจหาที่ตรวจเดี๋ยวนั้นเลย แล้วก็พอรุ่งขึ้นปึ้บผลก็ออกว่าคุณพ่อคุณแม่ก็รับเชื้อเหมือนกันนะครับ ผมก็หนักขึ้นไปอีก
ดาราเดลี่ : แสดงว่าคุณพ่อคุณแม่ติด มีใครติดอีกมั้ยฮะ
เต้ วิทย์สรัช : ไม่มีครับ มีสามคน สามคนที่ใช้ชีวิตด้วยกันเนี่ยได้รับเชื้อ ตอนนั้นผมก็หนักขึ้นไปอีกแล้วก็ไหนจะออฟฟิศอีก แล้วผมก็ประกาศออกไอจีส่วนตัวนะครับให้กับพี่น้องประชาชนรับทราบว่าผมรับเชื้อเผื่อใครที่มีโอกาสได้เจอผมในช่วงเวลาไทม์ไลน์ในตอนนั้นเนี่ยจะได้ระมัดระวังตัวไปตรวจ ซึ่งก่อนหน้านั้นผมก็มีหมวดคนใกล้ชิดกับผมที่ไปเจอมา มันเป็นความลำบากใจแบบสุด ๆ อะนะครับที่เราจะต้องเอ่ยว่าพี่ผมขอโทษนะครับ ผมติดเชื้อโควิดมันเป็นความรู้สึกที่อึดอัดใจมากอะครับ ผมก็ต้องพูดแต่ก็ถ้าเราโชคดีเราได้รับความเข้าใจไม่เป็นไรครับรักษาตัวเถอะ ผมโอเคยังเงี้ยมันเป็นความรู้สึกที่ดี แต่ถ้าบางคนที่ตีโพยตีพายแล้วจะทำยังไง ผมจะทำยังไง ฉันจะทำยังไง ยังงี้มันยิ่งทำให้ผู้ป่วยยิ่งแย่แล้วเรามันเกิดจากความไม่ตั้งใจอะครับโรคเนี้ย ตอนนั้นมันหมือนมันเป็นปัญหาที่มันถาโถมเข้ามาสุดๆ ผมก็ไม่ไม่เคยเจอแบบนี้ในชีวิตครับ
ต่อตอน 2