การตามหา เสียงใต้ท้องทะเล ของ วาฬที่เหงาที่สุดในโลก แทบจะเหมือนการงมเข็มในมหาสมุทรรู้อย่างนี้แล้ว คุณยังอยากไปอยู่ไหม?https://www.youtube.com/watch?v=p_NG02xfN50 เชื่อว่าหลายคนคงได้ยินเรื่องราวของ วาฬ 52 เฮิรตซ์ สัตว์ใต้ท้องทะเลที่เหงาที่สุดในโลกมาไม่มากก็น้อย ว่ากันว่ามันคือวาฬเพียงตัวเดียวในโลกที่ไม่สามารถสื่อสารกับใครได้เลย เพราะมีคลื่นความถี่ที่ต่างจากเพื่อน มันจึงเป็นตัวแทนของความเหงาเปล่าเปลี่ยว ที่หลายคนใช้ถ่ายทอดความรู้สึกเคว้งคว้างที่ยากจะอธิบาย เรื่องราวของมันได้ถูกสรรค์สร้างเป็นผลงานอันยอดเยี่ยมและตราตรึงอยู่ในใจผู้คนมากมาย เช่นเดียวกันกับ Joshua Zemen ผู้ได้รับแรงบันดาลใจจากเสียงเรียกที่เหงาที่สุด ที่อาจกำลังรอคอยให้ใครสักคนตามหา ชวนคุณออกเดินทางไขความลับใต้ท้องทะเลกว้างใหญ่และสัมผัสเรื่องราวสุดประทับใจ ในภาพยนตร์สารคดี The Loneliest Whale : The Search for 52 (2021)The Loneliest Whale : The Search for 52 (2021)ประเภท : สารคดีภาษา : ภาษาอังกฤษกำกับโดย : Joshua Zemenปีที่ฉาย : กรกฎาคม 2021ระยะเวลา : 1 ชั่วโมง 36 นาทีช่องทางรับชม : Bleecker Street Media (Streaming)https://twitter.com/i/status/1417248232678338560ไม่มีใครเคยพบวาฬ 52 เฮิรตซ์ มาก่อน มันไม่ใช่ทั้งวาฬสีน้ำเงิน หรือวาฬฟินพวกเขาเรียกมันด้วยชื่อเล่นว่า ‘52’สิ่งที่ทำให้เรารู้จักวาฬ 52 เฮิรตซ์ หรือ ‘52’ ได้มากที่สุด คืองานวิจัยของ William A. Watkins นักวิทยาศาสตร์ที่ศึกษาเกี่ยวกับทะเล ผู้ค้นพบมันเป็นคนแรกในปี 1989 จากเสียงที่มันเปล่งออกมาในคลื่นความถี่ 52 เฮิรตซ์ ซึ่งสูงกว่าคลื่นความถี่ของวาฬชนิดอื่น ๆ ที่เคยพบ โดยงานวิจัย “Twelve Years of Tracking 52-Hz Whale Calls from a Unique Source in the North Pacific” ได้ศึกษาและเฝ้าติดตามสิ่งมีชีวิตชนิดนี้เป็นเวลากว่า 12 ปี (1992-2004) และถูกตีพิมพ์เป็นครั้งแรกในปี 2004 ซึ่งเป็นปีที่ Watkins เสียชีวิต ..หลังจากนั้น ก็ไม่มีใครออกตามหา '52' อีกเลยด้วยนิยามของ ‘วาฬที่เหงาที่สุดในโลก’ เรื่องราวของวาฬ 52 เฮิรตซ์ ได้ถูกนำไปถ่ายทอดเป็นผลงานที่สะท้อนถึงความเหงาและเปล่าเปลี่ยวจากศิลปินทั่วทุกมุมโลก ไม่ว่าจะเป็นงานเขียน บทกวี ภาพวาด หรือบทเพลง ล้วนแล้วแต่เป็นงานที่สร้างสรรค์ออกมาอย่างสวยงามและแฝงไปด้วยความเศร้าที่ลึกซึ้ง นั่นทำให้ Josh Zemen สะดุดใจและเริ่มค้นหาข้อมูลทุกอย่างที่เกี่ยวกับ '52' ..มันคงเป็นเรื่องน่าเศร้า สำหรับสิ่งมีชีวิตที่ว่ายน้ำข้ามทวีปหลายพันธุ์ไมล์และคอยเปล่งเสียงเรียกเหมือนพยายามตามหาใครที่จะสามารถสื่อสารกับมันได้ แต่ทว่าไม่มีสิ่งใดตอบกลับเสียงเรียกของมันเลยตลอดหลายปีที่ผ่านมาJosh ไม่รู้ว่าเขาใช้เวลาอยู่กับ '52' นานแค่ไหน รู้ตัวอีกที มันก็ได้กลายเป็นโปรเจคถ่ายทำสารคดีไปเสียแล้วหากการส่งคลื่นเสียงของมัน คือ การพยายามตามหาใครสักคนที่สื่อสารกับมันได้แล้วถ้าหากวันหนึ่งมันเลิกเปล่งเสียงนั้นล่ะ?https://twitter.com/i/status/1418958235671932948Joshual Zemen เป็นผู้ผลิตภาพยนตร์ที่ไม่มีความรู้ใด ๆ เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ใต้ท้องทะเลแม้แต่น้อย สิ่งเดียวที่เขามีคือความแน่วแน่และความใคร่รู้ที่อยากพิสูจน์ว่าวาฬ 52 เฮิรตซ์มีอยู่จริงไหม มันเป็นวาฬสายพันธุ์ใหม่หรือจะเป็นวาฬตัวสุดท้ายบนโลกใบนี้? เขาเริ่มต้นจากการเดินทางไปพบผู้คนที่จะช่วยให้คำตอบกับเขาได้ บ้างก็มีคำถามว่ามันจะเป็นไปได้ไหม บ้างก็ขบขันกับความคิดที่เขาจะออกตามหาวาฬตัวเดียวในท้องทะเลอันกว้างใหญ่ ซึ่งไม่มีใครเคยเห็นมันมาก่อน และไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันเป็นวาฬจริงหรือเปล่า ..ใช่ เขาเองก็รู้ดีว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสักนิด แต่หากเสียงเรียกนั้นมีอยู่จริง ..มันก็คุ้มกับค่ากับการลองใช่ไหมล่ะจากจุดเริ่มต้นที่ไม่ได้ราบรื่นนัก คงไม่ต้องเดาว่าหลังบ้าน Josh ต้องทำการบ้านหนักและใช้ความพยายามมากขนาดไหน และในที่สุด ความตั้งใจของเขาก็มีคนเห็นและเริ่มก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างขึ้น เมื่อได้พาร์ทเนอร์อย่าง Adrian Grenier และ Lucy Sumner มาร่วมสร้างสารคดีชิ้นนี้ นอกจากนี้ยังมีนักแสดงระดับโลกอย่าง Leonardo DiCaprio เป็นผู้บริจาคทุนสร้างส่วนหนึ่งและเข้ามาเป็นผู้อำนวยการผลิตอีกด้วยหลังจากฟอร์มทีมและจัดสรรค์งบประมาณในการถ่ายทำ ประมาณ 7 เดือนให้หลัง Josh ก็ได้รับการตอบกลับจาก Dr.John Hildebrand นักวิทยาศาสตร์ทางทะเล จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซานดิเอโก ผู้ให้ข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับสิ่งที่คาดว่าน่าจะมีความเชื่อมโยงกับ '52' มันถูกค้นพบในบริเวณ Santa Barbara ชายฝั่งแคลิฟอร์เนีย และอาจจะเป็นสิ่งที่พวกเขากำลังตามหากันอยู่ก็ได้..'It’s out there!' -- มันอยู่ที่นั่น!การเดินทางตามหา '52' ได้เริ่มขึ้นแล้ว นอกจากเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ทันสมัย สิ่งที่ทำให้คนดูอย่างเรารู้สึกทึ่งกับสารคดีชิ้นนี้ก็คือ การทำงานเป็นทีมที่มีระบบและมีความเป็นมืออาชีพ ไม่ว่าจะเป็นทีมเฝ้าสังเกตการณ์ที่คอยฟังคลื่นเสียงของทุกสรรพสิ่งใต้น้ำ ทีมนำเครื่องติดตาม (GPS) ไปติดกับตัววาฬ ทีมถ่ายภาพ ไม่เว้นแม้กระทั่งลูกเรือ ทุกคนต่างใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองทำในสิ่งที่ดีที่สุดเพราะพวกเขารู้ว่าทุกวินาทีที่อยู่ในท้องทะเลนั้นสำคัญแค่ไหน และอีกสิ่งที่เชื่อว่าหากใครได้ดูก็คงรับรู้ได้เหมือนกัน นั่นคือ แววตาที่เป็นประกายเหมือนเด็ก ๆ ของพวกเขา การออกเดินทางตามหาสิ่งที่ไม่เคยมีใครพบมาก่อนในท้องทะเลที่เต็มไปด้วยปริศนา เป็นเหมือนออกไปผจญภัยที่ยิ่งใหญ่น่าท้าทาย ทำให้เรารู้สึกตื่นเต้นและลุ้นไปพร้อม ๆ กัน https://www.youtube.com/watch?v=5QkpvIbY5bMบทเพลง Love Will Find a Way ดังขึ้น..เหมือนพวกเขากำลังจะบอกกับ '52' ว่า ไม่ต้องกลัวเหงานะ พวกเรากำลังออกเดินทางตามหานายอยู่ https://www.instagram.com/p/CQy4UsEpgR5/เสียงร้องของวาฬสามารถเดินทางไปได้ไกลกว่าพันไมล์ ใต้ท้องทะเลอันกว้างใหญ่ที่เรามองไม่เห็น หากแสดงเป็นภาพคงเป็นคลื่นเสียงที่งดงามมากทีเดียว สารคดีเรื่องนี้ไม่เพียงแต่บอกเล่าเรื่องราวของการออกตามหา '52' แต่ยังได้สอดแทรกเรื่องราวของกับ วาฬ กับ มนุษย์ให้เราได้เห็นอีกหลายแง่มุม ไม่ว่าจะเป็นยุคของการล่าวาฬเพื่อเอามาทำน้ำมันในช่วงปี 1960 หรือการเดินเรือพาณิชย์ที่รบกวนระบบการสื่อสารของฝูงวาฬและก่อให้เกิดความสูญเสียอยู่บ่อยครั้ง ทำให้เราพบว่า มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่น่ารักเอาเสียเลยแต่ขณะเดียวกัน ก็ยังมีเรื่องราวที่ทำให้อบอุ่นหัวใจ เมื่อ 'เสียง' ของวาฬหลังค่อมได้ถูกบันทึกเป็นเพลงที่ใช้ชื่อว่า Songs of the Humpback Whale และได้รับความนิยมกันอย่างแพร่หลายในปี 1966 นับเป็นแผ่นเพลงเสียงของสัตว์ที่มียอดขายสูงสุดตลอดกาล และทำให้เกิดปรากฎการณ์ที่เปลี่ยนแปลงคนทั้งโลก ผู้คนหันมาให้ความสนใจและเรียกร้องให้หยุดฆ่าและทำร้ายวาฬจนเป็นผลสำเร็จ เป็นหลักฐานสำคัญที่บ่งบอกว่ามนุษย์ได้ตระหนักถึงความสำคัญของธรรมชาติและต้องการจะปกป้องมัน https://www.youtube.com/watch?v=b8MQTAYqa9gWhen you found out that they sing, everything changed.When people care, they can change the world-- Roger Payne แน่นอนว่าในการออกเดินทางตามหา '52' ย่อมมีทั้งเรื่องน่าตื่นเต้นและเต็มไปด้วยอุปสรรคมากมาย ตลอดระยะเวลา 7 วัน เราได้เห็นพวกเขาค่อย ๆ หาวิธีที่จะเข้าใกล้มันทีละก้าว ๆ และยังได้เห็นความน่าทึ่งของสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลที่โผล่ขึ้นมาทักทายให้เราได้เห็นระหว่างการเดินทาง แม้ทุกคนที่อยู่ในทีมนั้นต่างก็รู้ดีว่ามันเป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ แต่ก็ยังมีความหวังอยู่ลึก ๆ และพยายามทำทุกวันให้เต็มที่..แต่จวบจนวันสุดท้าย ก็ยังไร้ร่องรอยของ '52' ..เป็นธรรมดาที่เราจะรู้สึกเสียดายและไม่อยากให้การเดินทางนี้จบลง ใจหนึ่งก็อดคิดไม่ได้ว่าถ้าหากว่าพวกเขามีเวลาและทรัพยากรมากกว่านี้ เราอาจจะได้เห็นหน้าตาของวาฬ 52 เฮิรตซ์ และอาจจะได้รู้จักมันในชื่อใหม่ ที่ไม่ใช่เป็นเพียงแค่ตัวเลข ทว่า..ตราบใดที่ยังไม่มีใครพบ '52' เรื่องราวของมันยังคงเป็นปริศนาต่อไปแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้พบกับสิ่งที่คาดหวัง แต่เชื่อว่านี่คือก้าวเล็ก ๆ ที่สำคัญและสร้างแรงบรรดาลใจให้กับอีกหลายคนที่เชื่อว่า '52' มีอยู่จริงและกำลังเปล่งเสียงเรียกอยู่ใต้ท้องทะเล เรื่องราวยังไม่จบแค่นั้น! สารคดีได้สร้างความประหลาดใจกับเราอีกครั้ง ด้วยการบอกเล่าเรื่องราวของวาฬสายพันธุ์ใหม่ที่เป็นสายพันธุ์ผสมระหว่างวาฬสีน้ำเงินและวาฬฟิน ซึ่งคาดว่ามันน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับ '52' หรืออาจจะเป็น '52' ที่พวกเขาออกตามหา ภายหลังจากทีมสำรวจเดินทางกลับมาไม่นาน Josh ก็ได้รับการติดต่อจากทีม Dr.John Hildebrand และทราบข่าวที่ทำให้เขามีความหวังมากขึ้น เมื่อทีมสำรวจได้เปิดเผยข้อมูลการค้นพบคลื่นเสียง 52 เฮิรตซ์ที่ดังขึ้นอีกครั้ง ที่สำคัญไปกว่านั้น มันเป็นเสียงที่เกิดขึ้น 2 จุดในช่วงเวลาเดียวกัน คล้ายกับเป็นสื่อสารโต้ตอบของพวกมัน..นี่เป็นอาจจะเป็นสิ่งที่โลกกำลังจะบอกเราว่า การเปล่งเสียงของมันได้รับการขานรับแล้ว และ '52' ไม่ได้อยู่ลำพังเพียงตัวเดียวอีกต่อไปIt's not just one. There are two, probably moreไม่ใช่แค่หนึ่ง แต่มี '52' อยู่ที่นั่นถึง 2 ตัว หรืออาจจะมากกว่านั้นThe Loneliest Whale : The Search for 52 (2021) เป็นหนังสารคดีคุณภาพที่ทำออกมาได้เกินคาด เป็นการออกตามหา 'เสียงที่เหงาที่สุดใต้ท้องทะเล' ที่มีความหมายและสวยงาม นอกจากจะได้สัมผัสกับเรื่องราวน่าอัศจรรย์ของเหล่าวาฬแล้ว ยังได้ปลุกความเด็กในตัวเราให้ออกไปโลดแล่นผจญภัยอย่างน่าติดตามบางครั้งคลื่นความถี่ของเราอาจไม่ตรงกับใคร และทำให้เราเหนื่อยกับการเปล่งเสียงเรียกที่ไร้ความหมายเราแค่อาจจะต้องว่ายต่อไปอีกหน่อย และลองเปล่งเสียงดูอีกครั้งใครจะรู้ ..ที่นั่นอาจมีคนที่กำลังตามหาเราอยู่ก็ได้ เครดิตภาพภาพปก , ภาพประกอบ : [2] / Twitter : Bleecker Street ภาพประกอบ : [1] , [3] , [4] ,[6] / Instagram : josh.zeman ภาพประกอบ : [5] / Twitter : KSJ at MITภาพประกอบ : [7] / Twitter : HotDocsCinemaเครดิต VDOVDO 1 : The Loneliest Whale (2021) | Official Trailer | Joshua Zeman | Joseph George / Youtube : Elevation PicturesVDO [2] , [3] / Twitter : Bleecker StreetVDO 4 : THE LONELIEST WHALE | So Who Does Respond | Bleecker Street / Youtube : Bleecker StreetVDO [5] / Instagram : josh.zeman VDO [6] : Songs Of The Humpback Whale (Full album) / Youtube : Xi Pooh #รีวิว #รีวิวหนัง #สารคดี #ทะเล #ปลาวาฬ #วาฬ52เฮิรตซ์ #Whale52Hz #วาฬที่เหงาที่สุดในโลก #Theloneliestwhale #เสียงใต้ท้องทะเล #ภาพยนตร์สารคดี #สารคดีน่าดู จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !