เจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์ (Jeffrey Dahmer) ชื่อของฆาตกรต่อเนื่อง และทารุณกรรมทางเพศที่ได้ฉายาว่า "มนุษย์กินคน" ระยะเวลากว่า 13 ปี เขาได้ลงมือสังหารชายหนุ่มที่เป็นคู่นอนของเขา รวมทั้งสิ้น 17 ราย ทว่าเขากลับใช้ชีวิตปกติ และลอยนวลอยู่ใต้สายตาของคนในสังคมและตำรวจตลอดมา วันนี้เราจะพาทุกคนมาเจาะลึกกับซีรีส์เรื่อง Monster: The Jeffrey Dahmer Story จะพาคุณเข้าสู่โลกมืดที่ระบบสังคมถูกปิดเสียงไว้ รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! ** คำเตือน เนื้อหามีความรุนแรง และมีสปอยล์ค่ะ เรื่องย่อ ซีรีส์เรื่องนี้เล่าถึงเหตุการณ์ฆาตกรรมต่อเนื่องและการกระทำสุดโหดของ เจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์ (Jeffrey Dahmer) ผู้ซึ่งสังหารชายหนุ่ม 17 คน ระหว่างปี ค.ศ. 1978 – 1991 ตลอดระยะเวลา 13 ปี บนเส้นทางการฆาตรกรรมของเขา ซีรีส์เรื่องนี้ได้นำเสนอหลายมุมมอง ทั้งของครอบครัวผู้สูญเสีย ผู้รอดชีวิต และที่สำคัญที่สุดคือ เพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นผู้พยายามหยุดยั้งการกระทำของเจฟฟรีย์ แต่กลับทำอะไรไม่ได้ เนื่องจากระบบยุติธรรมเพิกเฉยต่อพวกเขาเพียงเพราะพวกเขาเป็นกลุ่มคนผิวสี นอกจากนี้ซีรีส์ยังลำดับเหตุการณ์ฆาตกรรมแต่ละคดี จนถึงวันสุดท้ายที่เขาถูกตำรวจจับกุม และกระบวนการไต่สวนที่เผยความโหดร้ายในการกระทำของเขา ไฮไลท์สำคัญของซีรีส์นี้ได้มีการแทรกคลิปเสียง ซึ่งเป็นบทสนทนาจริงๆ เพื่อให้ซีรีส์มีความเรียลมากยิ่งขึ้น นักแสดงนำ อีแวน ปีเตอร์ส (Evan Peters) นักแสดงชาวอเมริกันที่แฟนซีรีส์คุ้นหน้ากันดีจากผลงาน American Horror Story หลายซีซัน รวมถึงบทบาท “ควิกซิลเวอร์” ใน X-Men: Days of Future Past (2014), และการแสดงที่โชว์ฝีมือใน WandaVision (2021) และ Mare of Easttown (2021) โดยในซีรีส์ Monster: The Jeffrey Dahmer Story ได้นักแสดงดาวรุ่งอย่าง อีแวน รับบทเป็น เจฟฟรีย์ ฆาตกรต่อเนื่องที่ก่อคดีสะเทือนขวัญระดับโลก การแสดงของเขาไม่เพียงสร้างความเยือกเย็น แต่กลับสะกดทุกสายตาให้รับชมการกระทำแสนโหดร้ายของเขา และยังทำให้ผู้ชมสัมผัสถึงความโดดเดี่ยวและเข้าใจสภาวะจิตใจบิดเบี้ยวที่ซ่อนอยู่ในตัวฆาตกรคนนี้อย่างลึกซึ้ง https://www.instagram.com/reel/Ciihnb9pSYs/?igsh=N3hldzVtM3J4eHlr Jeffrey Dahmer : ฆาตรกรต่อเนื่องจากเรื่องจริงในตำนาน เจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์ (Jeffrey Dahmer) เกิดวันที่ 21 พฤษภาคม ค.ศ.1960 ที่เมืองมิลวอกี รัฐวิสคอนซิน ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นลูกชายของไลโอเนล ดาห์เมอร์ (Lionel Dahmer) นักวิทยาศาสตร์เคมี และจอยซ์ ดาห์เมอร์ (Joyce Dahmer) เจ้าหน้าที่ห้องแล็บซึ่งภายหลังผันตัวไปทำงานผู้ให้ปรึกษาทางจิตเวช ในช่วงที่ตั้งครรภ์และเลี้ยงดูเจฟฟรีย์ในวัยเด็ก จอยซ์มักจะรับประทานยาคลายเครียดและยานอนหลับเป็นประจำ (อาจส่งผลกับความผิดปกติของเจฟฟรีย์) อุปนิสัยของเจฟฟรีย์ เขาเป็นเด็กที่เงียบ ขี้อาย สนใจสิ่งแปลกๆ เช่น ชอบเก็บซากสัตว์ที่ตายแล้วมาชำแหละ (อาจได้รับอิทธิพลการเรียนรู้มาจากพ่อของเขา ผู้ชอบศึกษาเรื่องวิทยาศาสตร์) ตลอดเวลาในครอบครัวนั้น พ่อแม่มักจะมีปากเสียงกันบ่อยครั้ง จนในที่สุดพวกเขาก็ได้แยกทางกัน ยิ่งทำให้เจฟฟรีย์กลายเป็นคนโดดเดี่ยว ติดแอลกอฮอล์ และมีพฤติกรรมทางจิตที่รุนแรงขึ้น โดยเฉพาะความสนใจทางเพศ จนในที่สุดเขาได้ก้าวสู่การก่ออาชญากรรม เจฟฟรีย์มีวิธีการเลือกเหยื่อส่วนใหญ่เป็นชายผิวสีและชายหนุ่มเชื้อสายเอเชียตามสถานบันเทิงก่อนจะล่อลวงเหยื่อให้ไปที่อพาร์ตเมนต์ของตนเอง ด้วยบุคลิกที่เฟลนลี่ มีน้ำใจ แสดงความช่วยเหลือต่อผู้พบเห็น เหตุนี้จึงทำให้เหยื่อวางใจ จากนั้นเขาได้วางยาและทำให้หมดสติ โดยแรงจูงใจในการกระทำคือ ความต้องการครอบครองเหยื่อหรือไม่อยากให้ถูกทิ้งไป เขาจึงทำการถ่ายรูป, ชำแหละ, เก็บชิ้นส่วนร่างกาย, และกิน! ภายหลังถูกจับกุมในปี ค.ศ. 1991 เจฟฟรีย์ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต โดยไม่มีสิทธิ์ได้รับการปล่อยตัวในเรือนจำรัฐวิสคอนซิน และถูกฆ่าตายภายในเรือนจำเมื่อปี ค.ศ. 1994 เหมือนเรื่องจะจบลงแล้ว...แต่ทว่าได้เกิดความขัดแย้งของพ่อและแม่อีกครั้ง เมื่อแม่ของเจฟฟรีย์อยากให้เก็บสมองไว้เพื่อให้แพทย์ได้ศึกษาสภาพสมองของฆาตกรต่อเนื่อง แต่ในทางกลับกันฝั่งของพ่อกลับทำความต้องการของลูกชายที่เคยสั่งเสียเอาไว้ก่อนหน้า ซึ่งขอให้ทำลายร่างกายของเขา รวมถึงสมองทิ้งไปทั้งหมด จนท้ายที่สุด ศาลรัฐวิสคอนซินมีคำตัดสินให้ทำลายสมองของเจฟฟรีย์ สุดท้ายนี้จึงได้แต่ตั้งคำถามเอาไว้ว่าการหล่อหลอมความเป็นเจฟฟรีย์เกิดความผิดปกติของสมอง หรือการละเลยของสังคมและครอบครัวกันแน่ สะท้อนประเด็นปัญหาทางจิตวิทยา สังคม สู่ปัญหาอาชญากรรม หากมองเจาะลึกความโหดร้ายของเจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์ (Jeffrey Dahmer) คือภาพสะท้อนของความบกพร่องทางจิตใจ การเลี้ยงดู และการเพิกเฉยของสังคม ที่กลายเป็นแรงผลักให้เกิดอาชญากรรมสะเทือนขวัญอย่างต่อเนื่อง ซีรีส์ Monster: The Jeffrey Dahmer Story แสดงให้เห็นถึงความล้มเหลวของระบบยุติธรรม โดยเฉพาะการทำงานของตำรวจ การละเลยพื้นที่ชุมชนคนผิวสี และตั้งคำถามกับผู้ชมว่า ถ้าระบบทำงานมีประสิทธิภาพ หรือรับฟังเสียงจากผู้คนชายขอบมากกว่านี้ก็คงไม่เกิดโศกนาฏกรรมอย่างต่อเนื่องเช่นนี้ นอกจากนี้ รากฐานของความผิดปกติก่อตัวเมื่อเจฟฟรีย์เติบโตมาในบ้านที่เต็มไปด้วยความขัดแย้ง พ่อแม่ทะเลาะกันตลอดเวลา ทำให้เขาเติบโตในความโดดเดี่ยว ถูกมองว่าเป็นเด็กแปลกที่สนใจสิ่งผิดปกติ เช่น ซากสัตว์หรือการชำแหละร่างกาย สิ่งเหล่านี้อาจดูเป็นเพียงพฤติกรรมประหลาด แต่กลับไม่มีใครเข้าใจหรือช่วยเหลืออย่างจริงจัง ความไม่ใส่ใจของครอบครัว และระบบสังคมกลายเป็นช่องว่างของการก่อความรุนแรงที่เพิ่มมากขึ้น ประเด็นต่อมาคือเรื่องของ อัตลักษณ์ทางเพศของกลุ่ม LGBTQ+ เจฟฟรีย์เป็นชายรักร่วมเพศ แต่ความรุนแรงไม่ได้เกิดจากอัตลักษณ์ทางเพศของบุคคล เพียงแต่เป็นผลจากปัจจัยทางจิตใจ ครอบครัว และสังคม การวิเคราะห์ในมุมนี้จึงสำคัญเพื่อไม่ให้ซีรีส์สร้างตราบาปหรือความเข้าใจผิดต่อชุมชน LGBTQ+ และยังย้ำให้เคารพและให้เสียงแก่กลุ่มเพศทางเลือกเป็นสิ่งจำเป็นในการเล่าเรื่องจริงโดยไม่ละเมิดศักดิ์ศรี ความประทับใจในซีรีส์ ซีรีส์ Monster: The Jeffrey Dahmer Story เป็นผลงานซีรีส์ที่สร้างจากเรื่องจริง ถ้าพูดถึงความเข้มข้น บอกเลยว่าดาร์กสุดๆ ด้วยการแสดงของอีแวน ปีเตอร์ส (Evan Peters) เขาถ่ายทอดตัวตนของเจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์ (Jeffrey Dahmer) ได้เหมือนกับต้นฉบับอย่างน่าทึ่ง ตั้งแต่บุคลิกนิ่งๆ ความเย็นชาไปจนถึงน้ำเสียงที่ใช้พูดหลอกล่อเหยื่อให้เชื่อใจ จากคำพูดที่เหมือนจะช่วยเหลือ กลับกลายเป็นกับดักความโหดร้ายในที่สุด จากการรับชมซีรีส์เรื่องนี้ สิ่งที่ประทับใจมากคือ ความสมจริงของซีรีส์ ทั้งการแคสติ้ง ฉาก เสื้อผ้า ไปจนถึงบรรยากาศที่แสดงความอึดอัด ซีรีส์ยังแทรกฉากซึ้งใจได้อย่างดี เช่น ตอนที่เจฟฟรีย์พูดกับพ่อว่า “ถ้าพระเจ้าให้อภัยผม... พ่อจะให้อภัยผมไหม” เป็นฉากที่ทำให้เห็นมิติของความสัมพันธ์ในครอบครัวที่เต็มไปด้วยความเสียใจ ความผิดหวัง และความรัก อย่างไรก็ตามการกระทำสุดโหดของเจฟฟรีย์ไม่อาจลบล้างความผิดต่อสังคมได้ โดยรวมแล้วซีรีส์เรื่อง Monster: The Jeffrey Dahmer Story เป็นซีรีส์ที่ “หดหู่แต่หยุดดูไม่ได้” ให้คะแนนความประทับอยู่ที่ 9/10 คะแนน สำหรับใครที่กำลังลังเลว่าคุ้มค่าที่จะรับชมไหม ต้องบอกเลยว่า "คุ้มค่าอย่างแน่นอนค่ะ" (สำหรับใครอ่อนไหว ขอให้กดข้ามไปได้เลยนะคะ) เพราะคุ้มค่าทั้งในแง่การแสดง การเล่าเรื่อง และสะท้อนให้เห็นถึงความล้มเหลวของระบบยุติธรรมและสังคมที่ปล่อยให้เสียงที่ถูกมองข้าม จนความมืดแผ่ขยายตัวและคร่าชีวิตคนไปเรื่อยๆ ตัวอย่างซีรีส์ ประเภทซีรีส์ : อาชญากรรม, สยองขวัญ, ชีวประวัติสร้างจากเรื่องจริง แนะนำอายุที่ควรดู : 18 ปีขึ้นไป ซีรีส์มีเนื้อหาหนักแนวสยองขวัญและจิตวิทยา มีฉากและบทที่อาจกระทบจิตใจผู้ชมที่อายุน้อยหรืออ่อนไหว ภาษาต้นฉบับ : ภาษาอังกฤษ และพากย์ไทย ความยาวของซีรีส์ : จำนวน 10 ตอน โดยมีความยาวเฉลี่ยต่อตอนประมาณ 50 - 60 นาที สามารถรับชมได้ที่ : Netflix หรือรับชมได้ที่ Netflix ผ่านกล่อง TrueID TV ได้นะคะ 💕 https://www.youtube.com/watch?v=ubhvBw0dPoQ Monster: The Jeffrey Dahmer Story คือผลงานจากคดีจริง สะท้อนการตั้งคำถามของสังคมว่า ความโดดเดี่ยว และความเจ็บป่วยทางใจเป็นต้นกำเนิดของปีศาจในใจคนเราได้อย่างไร ท้ายที่สุดเรื่องนี้ไม่ใช่เพียงเรื่องของฆาตกรเพียงฝ่ายเดียว แต่มันคือการถ่ายทอดเสียงของเหยื่อที่ถูกละเลย จนความมืดกลืนกินมนุษย์ไปทีละน้อย หากคุณยังอยากสัมผัสเรื่องราวสยองขวัญที่สร้างจากคดีจริง สามารถตามไปดูซีรีส์เรื่องอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น ซีซัน 2 Monster: The Lyle and Erik Menendez Story และซีซัน 3 Monster: The Ed Gein Story ก็เป็นซีรีส์อีกสองเรื่องที่ไม่ควรพลาด ร่วมค้นหาความจริงและสัมผัสกับความสยองขวัญไปด้วยกัน เตรียมใจให้พร้อม…แล้วลองเปิดดูซีรีส์กันได้เลยค่ะ บทความอื่นๆ ที่แนะนำ รีวิวซีรีส์ Monster: The Ed Gein Story สร้างจากเรื่องจริง ขอบคุณรูปภาพ ภาพปก / ภาพที่1 จาก NetflixTH ภาพที่2 จาก Netflix ภาพที่3 / ภาพที่4 จาก Netflixth ขอบคุณวิดีโอ จาก AfricaOnNetflix Monster: The Jeffrey Dahmer Story จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !