The Big Short ชื่อไทยว่า เกมฉวยโอกาสรวย เป็นหนังการเงิน ที่ออกฉายในปี 2015 โดยดัดแปลงมาจากหนังสือชื่อเดียวกันของ Michael Lewis (Christian Bale) หนังเรื่องนี้เล่าเรื่องราวของกลุ่มนักลงทุนที่มองเห็นช่องโหว่ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ก่อนเกิดวิกฤตการณ์สินเชื่อซับไพรม์ในปี 2008เนื้อเรื่องย่อในช่วงต้นทศวรรษ 2000 Michael Burry (Christian Bale) นักลงทุนของเฮดจ์ฟันด์ มองเห็นช่องโหว่ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ เขาค้นพบว่ามีการปล่อยสินเชื่อซับไพรม์จำนวนมากให้กับผู้ที่มีเครดิตต่ำ ซึ่งมีความเสี่ยงสูงที่จะผิดนัดชำระหนี้ Burry จึงตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินที่เรียกว่า Collateralized Debt Obligation (CDO) ซึ่งเป็นตราสารที่เกิดจากการมัดรวมหนี้สินเชื่อเข้าด้วยกันในขณะเดียวกัน นักลงทุนคนอื่นๆ กลับมองไม่เห็นช่องโหว่ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ พวกเขาเชื่อว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง พวกเขาจึงพากันลงทุนใน CDO โดยไม่รู้ว่า CDO เหล่านี้เต็มไปด้วยหนี้สินที่มีความเสี่ยงสูงเมื่อตลาดอสังหาริมทรัพย์เริ่มซบเซาในปี 2007 ผู้คนเริ่มผิดนัดชำระหนี้ CDO ทำให้นักลงทุนจำนวนมากที่ถือ COD ล้มละลาย จนเกิดวิกฤตการณ์สินเชื่อซับไพรม์ในปี 2008นักลงทุนกลุ่มหนึ่งมองเห็นช่องโหว่ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ก่อนเกิดวิกฤตการณ์สินเชื่อซับไพรม์ นักลงทุนเหล่านี้ได้แก่ Michael Burry, Mark Baum (Steve Carell), Jared Vennett (Ryan Gosling), และ Ben Rickert (Brad Pitt) พวกเขาทำกำไรจำนวนมากจากตลาดอสังหาริมทรัพย์จะล่มสลายข้อมูลประเภท: ตลก-ดราม่านำแสดงโดย: Christian Bale, Steve Carell, Ryan Gosling, Brad Pitt, Marisa Tomei, Mark Ruffaloผู้กำกับ: Adam McKayความยาว: 129 นาทีตัวอย่างหนังhttps://www.youtube.com/watch?v=vgqG3ITMv1Qความรู้สึกหลังดูThe Big Short (เกมฉวยโอกาสรวย) จะพาคุณไปดูมุมมองของตัวละครแต่ละคน ท่ามกลางฉากบังหน้าของเศรษฐกิจที่กำลังเฟื่องฟู คุณจะได้เจอกับมุมมองของนักการเงิน คนทั่วไป ผู้จัดการกองทุน ที่มีมุมมองต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ บางคนคิดว่าเมื่อเศรษฐกิจเฟื่องฟู ตลาดอสังหาริมทรัพย์โตวันโตคืน นั้นคือสัญญาณที่เทพีแห่งความโชคดีบอกคุณลงทุน บางคนมองเห็นความพินาศของตลาดที่ไม่มีใครพูดถึง และบางคนมองเห็นโอกาสท่ามกลางความพินาศที่กำลังจะเกิดThe Big Short คือ หนังการเงินครับ เป็นหนังการเงินที่คนอยากเป็นนักลงทุนต้องดู เพราะ ประเด็นภายในเรื่องจะเป็นการตีแพร่ศีลธรรมของบรรดากองทุนใหญ่ๆ ที่มองเห็นแค่ “ผลกำไร” ถึงจะพูดแต่เรื่องการเงิน การธนาคาร เรื่องที่คนส่วนใหญ่เข้าใจถึงยาก แต่ภายในหนัง The Big Short จะอธิบายถึงสิ่งต่างๆ ที่กำลังเกิดขึ้นในตลาด ณ ตอนนั้น ได้ออกมาเข้าใจง่าย(มั้ง)ด้านการแสดง Christian Bale, Steve Carell และคนอื่นๆ แสดงได้ดี ตีบทนักการเงิน ผู้จัดการกองทุน แตก แถมยังมีการหยอดมุกตลกต่างๆ กันไปมาด้วย ผมชอบตรงบทสนทนาระหว่างตัวละครมาก ให้ความรู้สึกฟังแล้ว ฉลาดขึ้น 10 เท่า ฮ่าฮ่าถ้าใครที่คาดหวังว่าจะมาผ่อนคลาย หาอะไรเบาสมองดู หนังเรื่อง The Big Short คือหนังที่คุณไม่ควรดูเป็นอย่างยิ่ง เพราะคุณต้องใช้สมาธิโฟกัสกับบทสนทนาของตัวละครเป็นอย่างมาก แต่ถ้าใครที่ชอบเรื่องการเงิน หรืออยากเป็นนักลงทุน หนังเรื่องนี้ คือ หนึ่งในหนังที่คุณไม่พลาด เฉกเช่นหนังเรื่อง Margin call ที่ผมเคยเขียนรีวิวไปฉากที่ประทับใจผมชอบฉากที่ตัวละครต้องลงไปดูอสังหาริมทรัพย์เพื่อสำรวจหาข้อเท็จในการสนับสนุนว่า “ตอนนี้เกิดฟองสบู่ในเศรษฐกิจรึเปล่า” ในฐานะที่ผมเคยเรียนทางด้านธุรกิจ วิธีการหาข้อมูลที่ตรงกับความจริงและชัดเจนมากที่สุด คือ การใช้เท้าแล้วเดินสำรวจ คุณจะค้นพบหลายอย่าง เมื่อคุณเดินลงบนถนนเครดิตภาพThe Big Short : ภาพปก / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3Paramount Pictures : ตัวอย่างหนังบทความที่น่าสนใจรีวิวหนัง nope | อย่ามองขึ้นฟ้า ถ้าไม่อยากตายรีวิวหนัง Hacksaw ridge - ด้วยความเชื่อและศรัทธารีวิวหนัง Source code - แฝงร่าง ขวางนรกรีวิวหนัง 21 - เกมเดิมพันอัจฉริยะรีวิวหนัง Hidden figures | 3 สาวแกร่งแห่งนาซ่ารีวิวหนัง The imitation game - คุณค่าของคนอยู่ที่ผลงานรีวิวหนัง A good will hunting - หนึ่งในหนังที่ดีที่สุดตลอดกาลรีวิวหนัง The Man Who Knew Infinity - อัจฉริยะโลกไม่รักรีวิวหนัง The Matrix - เบื้องหลังของโลกที่คุณอยู่คอมมูนิตี้ “โลกคนรักหนัง” ห้องหวีดซีรีส์ดังออกใหม่มาแรง ป้ายยาหนังดีหนังโดน