Highlightการขายคืองาน “ขายให้”ความจำเป็นอย่าถือการปฏิเสธเป็นจริงเป็นจังคิดเสียว่าเป็นเรื่องธรรมดาคราวนี้จะมาบอกเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับการขายในฐานะผู้ซื้อสักหน่อยเท่าที่จำความได้ เคยเห็นพี่พนักงานขายเครื่องกรองน้ำที่แต่งกายด้วยเชิ้ตขาว ท่าทางแก้ ๆ กัง ๆ พยายามเสนอขายเครื่องกรองน้ำปะปาเป็นน้ำดื่มให้แม่ แต่พี่เขาก็ต้องจ๋อยกลับไป ตอนนั้นก็ไม่ทราบหรอกว่าเกิดอะไรขึ้นแต่อีก 3 วันกลับจากโรงเรียน กลับเจอเครื่องกรองน้ำลักษณะคล้ายๆ กัน ( แต่ไม่ใช่เครื่องนั้นแน่ๆ) ถูกติดตั้งบนฝาผนังบ้านแล้ว!!!ตอนนั้นสงสัยมากว่าใครกันนะสามารถขายเครื่องกรองน้ำให้กับแม่ของเราที่ชอบปฏิเสธจนเป็นนิสัยและไร้น้ำใจได้!“ขาย 100 คน ซื้อ 99 คน” เป็นหนังสือหมวดการตลาดเล่มแรกที่รีวิว ภายในเล่มบอกเล่าเรื่องราวการขายอย่างเทพ โดยเทพเจ้าแห่งการขายอย่าง อะกิระ คะกะตะ ซึ่งถ่ายทอดเรื่องราวและเรื่องเล่า ที่สนุก น่าติดตาม จนเผลออ่านจบโดยไม่รู้ตัวเตรียมพร้อมเข้าสู่การอ่านหนังสือเล่มนี้แบ่งออกเป็น 4 ส่วนใหญ่ๆ คือการขายคืองาน “ขายให้” — ภาคปรัชญาการขายให้ได้ในทันที — ภาคทฤษฎีอย่าถือการปฏิเสธเป็นจริงเป็นจรัง — ภาคตอบกลับการปฏิเสธควบคุมเจตนารมณ์ของอีกฝ่ายให้ได้ดังใจนึก — ภาคเคล็ดลับขั้นสุดยอดการขายคือกา่ร “ให้”ปกติเวลาเราซื้อของแล้วมีคนมาเสนอขายอย่างเอาเป็นเอาตาย สิ่งที่น่าลำบากใจมากที่สุดคือ เราจะรู้สึกว่าเราโดน ‘คุกคาม’ หรือไม่ก็เจอพนักงานขาย ‘เมินใส่’คนเราชอบการจับจ่ายซื้อของ มันเป็นความสุขอย่างหนึ่งที่ถึงแม้จะเสียเงินไป แต่กลับรู้สึกอิ่มเอมแต่หลายคนกลัวการขายของมาก หรือไม่ก็มีทัศนคติที่ว่าการตื้อเท่านั้นจะได้มาซึ่งยอดขาย ซึ่งตรงนี้เทพเจ้าแห่งกายขายได้ให้เทคนิคไว้ว่า ให้ระลึกเสมอว่าเรากำลังไป ‘ให้’ สินค้าที่ดี ที่เป็นประโยชน์แก่ลูกค้าฉะนั้น ลูกค้าจะเห็นถึงความตั้งใจของเรา หรือถ้าเขาไม่ซื้อเราก็จะไม่เสียใจ เพราะเราได้ทำหน้าที่ให้สิ่งดี ๆ ไปแล้วความจำเป็นเราจะไม่ทราบถึงความจำเป็นในการใช้สินค้าหรือผลิตภัณฑ์ใดๆ จนกว่าจะมีคนมาบอกความจำเป็นของมัน ซึ่งเป็นเรื่องแปลกแต่จริงก่อนหน้านี้เราอาจจะไม่มีความต้องการที่จะประหยัดค่าน้ำเพราะเราจ่ายแบบเหมาจ่าย แต่ถ้ามีนวัฒนกรรมใด ๆ ที่มาเสนอถึงที่ว่าเราจะประหยัดได้เท่านั้นเท่านี้ แน่นอนว่าเราก็จะตระหนักถึงความจำเป็นทันทีในหมวดนี้เป็นหมวดของการขายให้ได้ทันที ซึ่งการบอกถึงความจำเป็นให้แก่ลูกค้า แน่นอนว่า 99 คนใน 100 ต้องคล้อยตามอย่างแน่นอน เพราะในที่สุดแล้วลูกค้าก็จะสรา้งเหตุผลมาซัพพอร์ทความจำเป็นของเขาอยู่แล้วก็ของมันต้องมี!อย่าถือการปฏิเสธเป็นจริงเป็นจังมันเป็นมุกคลาสสิกที่เราจะปฏิเสธได้อย่างน่ารักและน่าเห็นใจด้วยคำว่า“สนใจนะ แต่ไม่มีเงิน”แต่ถ้าให้ถึงมือเทพเจ้าแห่งการขายทั้งที ไม่ว่าจะเป็นการปฏิเสธรูปแบบไหน ก็สามารถรับมือได้ลูกค้าปฏิเสธการซื้อของด้วยคำว่าไม่มีเงิน แท้จริงแล้วเขาอาจจะมีเงิน แต่กลัวการถูกคุกคามหรือกลัวการตัดสินใจ ซึ่งตรงนี้เราเองก็ต้องช่วยให้เขาตัดสินใจโดยการให้ทางเลือกและให้เขาได้ทราบถึงความจำเป็นของการตัดสินใจซื้อในครั้งนี้เห็นมะ การขายคือการให้เห็นๆ!!คิดเสียว่าเป็นเรื่องธรรมดาเวลาที่เราอยากให้คนอื่นทำอะไรให้เรา วิธีที่ดีที่สุดคือการพูดเหมือนว่าสิ่งนั้นจะเกิดขึ้นจริง หรือคิดเสียว่าเป็นเรื่องธรรมดา เช่นถ้าเราต้องการชวนเพื่อนไปดื่ม ถ้าเราพูดว่า ‘ไปดื่มกันไหม’ กับ ‘ไปดื่มกันเถอะ’ คิดว่าประโยคไหนที่เพื่อนจะไม่มีเวลาคิดเรื่องปฏิเสธเราได้เลยหรือโอกาสการปฏิเสธมันน้อยที่สุดละ?หรืออีกตัวอย่าง เราเห็นเสื้อสวยมาก แต่ไม่มั่นใจว่าจะเหมาะไหม เราจะตัดสินใจซื้อได้จากการที่พนักงานพูดว่า ‘สีขาวหรือคะ ก็…ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ’ กับ ‘สีขาวเหมาะกับคุณลูกค้ามากเลยค่ะ’ แบบไหนกันดีละ?ความโดดเด่นกระดาษถนอมสายตาทำให้อ่านสบายยิ่งขึ้น อีกทั้งเนื้อหายังเป็นกึ่งเทคนิคและเรื่องเล่า จึงทำให้อ่านเพลินมากอ่านแล้วชอบ อย่าลืมอุดหนุนหนังสือ! “ขาย 100 คน ซื้อ 99 คน”สำนักพิมพ์ อัมรินทร์หมวด การตลาดขอบคุณข้อมูลจาก : หนังสือ “ขาย 100 คน ซื้อ 99 คน” ภาพจาก jeffshore.com, ภาพจาก ideas.ted.com, ภาพจาก http://www.brandhook.com/, ภาพจาก http://uwimprint.ca/, ภาพจาก www.clubtexting.com