และแล้วก็มาถึงโปรเจกต์ Netflix ที่เป็นของออริจินอลประเทศไทยลำดับเรื่องล่าสุดภายในปี 2024 นี้อย่าง 'อย่ากลับบ้าน' หรือในชื่อ 'Don't Come Home' จากฝีมือผู้กำกับคุณ ต้น-วุฒิดนัย อินทรเกษตร เจ้าของมือรางวัลโฆษณาจากการกำกับ เจ้าของผลงานหนังสั้น #harass(com)ment และ #influencer และได้มือคนเขียนจากซีรีส์คุณภาพดีจากสองเรื่องใน Netflix มาช่วยพัฒนาอย่างคุณ อมราพร แผ่นดินทอง คนเขียนบท Analog Squad ทีมรักนักหลอก และ สาธุ โดยได้นักแสดงคุณภาพอย่าง นุ่น วรนุช , แพร พิชชาภา , ซินดี้ สิรินยา และท่านอื่นอีกมากมายมาแสดง รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! อย่ากลับบ้าน จะเล่าเรื่องราวถึงสองแม่ลูกอย่าง 'วารี' และ 'มิน' ที่ต้องเดินทางกลับบ้านที่ทิ้งจากไปนานกว่าสิบปีเมื่อต้องหนีจากสามีของตัววารีที่ปัญหากันมา เมื่อมาถึงที่สองแม่ลูกต้องกับพบเรื่องราวประหลาดต่าง ๆ ก่อนจะนำพาให้มินหายตัวไปจากบ้านหลังนี้และที่ ๆ สุดท้ายที่วารีเห็นก็คือตู้เสื้อผ้าภายในห้องนอนที่เชื่อมโยงความลับของบ้านหลังนี้ที่จากไปนาน ความรู้สึกหลังดูจบ เป็นอีกซีรีส์ของเน็ตฟลิกซ์ออริจินอลไทยที่ทำออกมาดีเกินคาดทั้งความสนุกและตัวคุณภาพของงาน อย่างแรกคือความสนุกตัวซีรีส์สามารถตีหัวคนดูให้อยู่หมัดได้ตั้งแต่ตอนแรก ด้วยการพาคนดูกระโจนเข้าสถานการณ์ต่าง ๆ ในตอนแรกที่ใส่มาอย่างถาโถม มาครบหลายด้านให้คาดเดาได้ยากไม่ว่าจะเป็นรสชาติเหนือธรรมชาติ น่ากลัว สืบสวน แล้วจบตอนด้วยการเซ็ตติ้งต่าง ๆ เงื่อนไขของเรื่องราวได้เสร็จสมบูรณ์ให้คนดูทำความเข้าใจได้ทัน ถือว่าเป็นตอนแรกของซีรีส์ออริจินอลไทยที่ไม่ค่อยได้เห็นที่จั่วหัวมาพร้อมไม่เสียเวลาเล่าให้นานเข้า ตลอดตั้งแต่ตอนสองขึ้นไปตัวซีรีส์ก็สามารถพาเราดูตัวซีรีส์ได้แบบอย่างตั้งใจและเสมือนตัวเราเองปิดตาเดินหาทางออกจากสมการรวมถึงปมเรื่องราวของเรื่องที่ทิ้งไว้ด้วยกลิ่นอายสืบสวน,ลึกลับและวิทยาศาสตร์ แม้จะเป็นไปทางไซไฟแต่ก็ไม่วายสอดแทรกประเด็นอันแรงกล้าอย่างการใช้ความรุนแรงในครอบครัว , ปัญหาภายในครอบครัว และการกล้าจิกกัดระบบการทำงานของตำรวจ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความกล้าสร้างสรรค์อย่างไร้ข้อจำกัดของบริหารสตรีมมิ่งเน็ตฟลิกซ์ที่สามารถใช้ตรงนี้เล่าเรื่องเพิ่มความสมจริงและรสชาติลงไปได้ ถ้ามองลึกลงไปกว่าพล็อตไซไฟ ตัวซีรีส์ก็พยายามบอกใบ้เล่าเรื่องของประเด็นดังกล่าวที่ว่ามาไปด้วยกันให้สอดรับพร้อมกันไม่แฟนตาซีไซไฟจ๋าจนเกินไปซึ่งเป็นข้อดีที่มีพาร์ทเหล่านี้ ที่ช่วยให้เรารู้สึกใกล้ชิดกับตัวละครในประเด็นดังกล่าวที่มีทั่วไปในธรรมชาติของมนุษย์ จึงออกมาเป็นซีรีส์ไซไฟที่หัวใจยังคงเป็นเรื่องของความรักของแม่ลูกได้ดีเลย อย่างที่สองตัวคุณภาพ อย่างที่เรารู้ว่าคอนเทนต์จากฝั่งอุตสหกรรมบ้านเราทั้งซีรีส์และหนัง ในพล็อตแปลกแนวไซไฟ จะมีความทะเยอทะยานในคอนเซปต์ที่ถูกต้องเหมาะสมและสูงจนน่าชื่นชม แต่ผลลัพธ์หลังเขียนและสร้างออกมา ผลงานอาจจะไปไม่ถึงขั้นนั้นที่มัดใจผู้ชมได้ในความกลาง ๆ และไม่อลังการในความไซไฟ เเต่อย่ากลับบ้านเป็นเสมือนตัวแก้บั๊คเหล่านั้นได้อย่างดี พาร์ทไซไฟภายในตัวเรื่องสามารถบอกเล่าออกมาได้เชื่อถือและดูตื่นเต้นน่าค้นหา แม้จะมีความคล้ายคอนเทนต์อะไรต่าง ๆ มามากมายแต่ในแง่ของการทำให้รู้สึกตามตัวซีรีส์ก็สามารถสร้างบทและสถานการณ์ให้คนดูเชื่อได้แล้วประมาณส่วนหนึ่ง ตัวบรรยากาศและงานสร้างที่ทำได้ดี และหลอกคนดูนช่วงแรกได้ดีว่าจะมาเอาดีด้านสยองขวัญหรือแนวไหนให้คนดูรู้สึกสงสัยก่อนจะพาเข้าเฉลยไปอีกพล็อตหนึ่งของตัวซีรีส์ก็สามารถสร้างงานตรงส่วนดังกล่าวดีอีก การเลือกโลเคชั่นเป็นบ้านกลางป่าห่างไกลความเจริญก็เข้าบรรยากาศความลึกลับได้ดีมาก ด้านนักแสดง นุ่น วรนุช แสดงดีตามภาษาของตัวเธอเองที่แสดงอะไร ๆ ก็อินก็ดีอยู่แล้ว การเข้ามาร่วมงานครั้งแรกกับ Netflix ถือว่าเริ่มต้นได้อย่างสวยงามเพราะได้มาอยู่ในโปรเจกต์ที่ตัวบทค่อนข้างแข็งแรง เช่นเดียวกับ แพร พิชชาภา หลังแจ้งเกิดเต็มตัวจาก พิไล ในกรงกรรม บนจอทีวีละครช่อง 3 มาครั้งนี้ก็แสดงดีได้เห็นบทบาทใหม่ ๆ ที่ไม่เคยแสดงได้อย่างดีเยี่ยม เช่นเดียวกับ ซินดี้ สิรินยา ในบทแม่ของวารี ที่แสดงได้ดีและสะใจมาก ๆ น่าจะเป็นหนึ่งในการแสดงของเธอที่ดีที่สุดเลยก็ว่าได้ เช่นเดียวกับนักแสดงท่านอื่น ๆ ที่ทำหน้าที่ตัวเองได้ดี แต่เหนือสิ่งใดสามตัวละครหญิงทั้งการแสดงและบทที่เขียนมาต่างสะท้อนปัญหาภายในครอบครัวและระบบปิตาธิปไตยออกมาอย่างใช้ได้แถมยังเชื่อมโยงไปมากันสะท้อนกันอย่างกลมเกลียวให้ชวนคิดได้ดีมาก ๆ เช่นกัน จุดสะดุดน่าจะเป็นปกติสำหรับพล็อตแนวไซไฟเหล่านี้ นั่นก็คือความสมเหตุสมผลของเรื่องราว แต่ทว่าโชคดีหน่อยตรงพล็อตหลัก ๆ สามารถสร้างออกมาได้เคลียร์เข้าใจแต่ดีเทลบางอย่างก็ยังตกหล่นและมีความไม่สมเหตุสมผลอยู่บ้างในบางโอกาส เช่นเดียวกับไดอะล็อคบางช่วงเหตุการณ์ที่ไม่ค่อยจะติดปากและดูเป็นจอละครไปหน่อยซึ่งต่างกับมวลรวมของซีรีส์ที่จะใช้คำพูดดูธรรมชาติดี แต่รวม ๆ แล้วไม่ได้หงุดหงิดขนาดขัดใจและเป็นแผลใหญ่ เพราะบทสรุปของเรื่องราวไซไฟนี้ก็โยงใยกลับมาได้ครบถ้วนเป็นอันเดียวแม้จะมีบางส่วนสัดส่วนหลุดไปบ้าง ภาพรวมแล้ว อย่ากลับบ้าน หรือ Don't Come Home คืออีกหนึ่งซีรีส์จากเน็ตฟลิกซ์ออริจินอลที่ดีเกินคาดทั้งความสนุกที่หลอกล่อคนดูด้วยกลิ่นอายสืบสวน ปริศนา สยองขวัญ และตัวคุณภาพของบทงานสร้างที่นำพาเรื่องราวแฟนตาซีนี้ให้ดูน่าสนใจและตามจนจบได้อย่างน่าชื่นชม ขอบคุณแหล่งที่มาของภาพ ภาพหน้าปก 1 จาก Facebook : Netflix Thailand ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 จาก Facebook : Netflix Thailand เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !