และแล้วก็มาถึงบทสรุปของ "Homeroom 29 ตัวประกัน" ซีรีส์ที่ติดตามชมได้ทาง ทรูไอดี เราเลือกที่จะเขียนประเดฺ็นนี้ก่อนหลาย ๆ เรื่องราวที่ยังอยากจะบอกเล่าถึงซีรีส์เรื่องนี้ในแง่มุมต่าง ๆ หลังจากที่เขียนมาแล้วหลายเรื่อง เพื่อเน้นให้เห็นถึงเรื่องราวการบูลลี่ที่เกิดขึ้นบนโลกโซเชียลว่าท้ายที่สุดแล้วเกิดอะไรขึ้นบ้าง และแน่นอนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับใคร ๆ ในโลกใบนี้ ก็ยังจะเกิดขึ้นต่อไปเพราะเรื่องราวเหล่านี้ก็จะยังมีผู้คนที่ตกเป็นเหยื่อเสมอ และที่สุดของบทสรุปในการบูลลี่ว่าจะจบลงอย่างไร ก็ยังไม่เคยมีข้อสรุปที่แท้จริง เพราะยังคงเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเสมอ ๆ แต่เราจะมาสรุปเรื่องราวในซีรีส์กันสักนิด เลือกมาบางมุมมอง เพื่อเพิ่มอรรถรสในการติดตามชมของเพื่อน ๆ นะคะ ซึ่งถ้าอยากจะแบ่งปันเรื่องราวในมุมของเพื่อน ๆ ก็คอมเมนต์ไว้ที่ด้านล่างบทความได้เลย รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! 1. ความอิจฉาคือจุดเริ่มต้นที่ใครสักคนต้องกลายเป็นเหยื่อ ! เมื่อมีคลิปไม่ดีที่ทำให้ผู้ที่อยู่ในคลิปต้องอับอาย และเสื่อมเสียชื่อเสียงหลุดออกมาบนโลกโซเชียล หญิงสาวที่อยู่ในคลิปถูกเชื่อว่าเป็น "เรน" (เจน กุลจิราณัฐ) นักเรียนชั้นม.6/1 โรงเรียนอคิระวิทยา แต่เรนรู้ดีว่าผู้หญิงในคลิปนั้นไม่ใช่เธอ เป็นคลิปที่ทำปลอมขึ้นมาเพื่อเล่นงานเธอ เรนจึงกลายเป็นเหยื่อบนโซเซียลโดยที่เธอไม่มีทางเลี่ยง สิ่งที่เหยื่ออย่างเรนทำก็คือแจ้งให้ผู้ปกครองรู้ว่าคลิปที่ถูกปล่อยออกมาไม่ใช่เธอ และแจ้งความเพื่อปกป้องตีวเอง เธฮเริ่มต้นขบวนการต่อสู้เพื่อตัวเอง ขณะที่ก็ต้องการกำลังใจจากคนรอบข้าง แต่กลับไม่มีใครอยู่เคียงข้างเธอเลย แม่แต่เพื่อนสนิท "นิทาน" (เจนนิษฐ์ โอ่ประเสริฐ) และคนรัก "ธาม" (พีค ภีมพล) ทุกคนเลือกที่จะเชื่อในสิ่งที่เห็นบนโซเชียล การแสดงออกของเพื่อนทุกคนในห้องที่เชื้อสนิทใจว่าเธอคือผู้หญิงในคลิปทำให้เรนเจ็บปวดที่สุด แต่สิ่งที่เรนไม่รู้เลยก็คือเบื้องหลังความเชื่อของหลาย ๆ คนมาจากความอิจฉาที่มีต่อเธอ "คอปเตอร์" (มาร์ค ศิวัช) อิจฉาที่เรนซึ่งบ้านรวยอยู่แล้วแต่กลับได้ทุนนักกีฬา ตัวเองที่ลำบากกว่าแต่กลับไม่ได้ จึงกล่าวหาว่าเรนได้ทุนเพราะหน้าตาดี ไม่ได้มีความสามารถอะไร, "ปริม" (ชาลี ชาลีดา) อิจฉาที่เรนแค่อยู่เฉย ๆ ก็มีมาดความเป็นคุณหนูไฮโซ ฉายแสงเปล่งประกายออร่าออกมาโดยที่เธอไม่ต้องทำอะไร, "อาร์ตี้" (คิ้ว อนงค์นาถ) ที่พยายามสนิทกับเรนเพราะอยากมีชื่อเสียงได้ชื่อว่าเป็นคนสนิทของคนดัง แต่เมื่อเรนรู้ทันแล้วถอยห่างจึงโกรธแค้นและอิจฉาเรนมากขึ้น ฯลฯ เมื่อครูวิณณ์ตั้งคำถามว่าใครมีส่วนที่ทำให้เรนตาย สิ่งที่เพื่อน ๆ ทุกคนทำก็คือการมองไปรอบ ๆ เพื่อหาคนผิดที่ไม่ใช่ตัวเอง ซีรีส์สะท้อนให้เห็นตัวของเราเองผ่านตัวละครเหล่านี้ว่าเมื่อเกิดปัญหาขึ้นการย้อนกลับมามองที่ตัวเราเองอย่างตรงไปตรงมา เราก็อาจจะเห็นถึงปัญหาที่เกิดขึ้นกับเหยื่อที่มีสาเหตุมาจากตัวเราได้เช่นกัน เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุดต่อไป 2. การกล่าวหาคนอื่นคือ Digital Footprint ที่จะไม่ลบเลือน "Digital Footprint" หรือ "รอยเท้าบนโลกดิจิทัล" เป็นร่องรอยดิจิทัลที่จะเกิดขึ้นเมื่อเราใช้งานอินเทอร์เน็ตบนโลกโซเชียลทุกอย่าง อาทิ การโพสต์ข้อความ การกดไลด์ กดแชร์ รวมถึงการใช้งานบนแพลตฟอร์ม (Platfrom) ต่าง ๆ ทุกสิ่งที่เราทำล้วนแล้วแต่ถูกบันทึกไว้และสามารถติดตามย้อนกลับไปได้ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่มันก็จะยังคงอยู่เสมอ ซีรีส์เล่าถึงผลที่จะเกิดจาก Digital Footprint เมื่อ "บีบี" (มิวสิค แพรวา) บอกกับทุกคนว่าเธอเชื่อว่า "ครูชลทิศ" (เพทาย ภูริต) คือ "Hunter" ซึ่งเป็นผู้ทำคลิปปลอมของเรนจนเป็นสาเหตุให้เรนต้องฆ่าตัวตาย แต่สิ่งที่บีบีทำนั้นเธอจงใจใส่ร้ายครูชลทิศ เพราะไม่พอใจกับบางเรื่องราวในอดีตที่เชื่อว่าเป็นฝีมือของครูชลทิศเช่นกัน ทั้ง ๆ ที่เขาไม่ได้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแม้แต่น้อย คำถามจาก "ครูวิณณ์" (มิว ศุภศิษฏ์) ครูผู้ซึ่งจับนักเรียน 29 คนไว้เป็นคัวประกัน เพื่อสืบหาเบื้องหลังการเสียชีวิตของ "เรน" ว่ามีใครเกี่ยวข้องบ้าง ก็คือเมื่อบีบีกล่าวหาครูชลทิศจนกลายเป็น Digital Footprint แล้วเธอจะรับผิดชอบต่อเรื่องนี้อย่างไร เพราะผลที่ตามมาในชีวิตของครูชลทิศก็คือการถูกมองไปแล้วว่าเป็นคนผิด เป็นครูที่ไม่ดี บทสรุปจากบทเรียนครั้งนี้ ครูวิณณ์ต้องการให้ทุกคนตระหนักว่าการกล่าวหาคนอื่นในสิ่งที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริง การนำข้อมูลปลอม ๆ ไปใส่ร้ายคนอื่นในโซเชียล จะส่งผลร้ายแรงต่อชีวิตของผู้ที่ถูกระทำอย่างไร ซึ่งก็สามารถมองย้อนในมุมกลับได้เช่นกัน และหากวันหนึ่งถ้าเราเป็นผู้ที่ถูกกระทำ เราจะผ่านพ้นเรื่องร้าย ๆ นั้นไปได้อย่างไร? 3. ครูวิณณ์ไม่ใช่จุดเริ่มต้นและไม่ใช่จุดจบของการต่อสู้เพื่อคนที่ถูกบูลลี่ การตัดสินใจเพื่อที่จะช่วยเหลือเหยื่อที่ถูกบูลลี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการช่วยเหลือนั้นจะต้องเกี่ยวข้องกับผู้คนมากมาย ทั้งผู้มีอิทธิพล มีอำนาจ และมากด้วยทรัพย์สินที่ไม่ง่ายที่จะตอบโต้กลับ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่ใครสักคน โดยเฉพาะกับคนตัวเล็ก ๆ ในสังคม จะตัดสินใจทำเรื่องที่ใหญ่เกินตัว และผลที่กระทบกลับอาจจะร้ายแรงเกินกว่าที่จะรับไหว "ครูวิณณ์" คือคนตัวเล็ก ๆ นั้น ที่ตัดสินใจลุกขึ้นมาทำเรื่องใหญ่ ในช่วงเวลาที่เขาควรจะใช้ชีวิตอย่างมีความสุข เพราะเป็นช่วงที่เขาป่วยหนัก ด้วยหวังว่าจะทำให้บาดแผลในใจทุกคนที่ได้รับผลกระทบจากการเสียชีวิตของเรนจะได้รับการเยียวยาและตระหนักรู้ถึงผลเสียของการบูลลี่ที่ไม่ส่งผลดีกับใครเลยทั้งผู้ที่กระทำและผู้ที่ถูกกระทำ ครูวิณณ์ไม่ใช่คนแรกที่ลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อคนที่ถูกบูลลี่ และแน่นอนว่าไม่ใช่คนสุดท้ายเพราะยังคงมีการบูลลี่อีกมากมายในสังคม แต่สิ่งที่ครูวิณณ์ทำ ก็คือการได้เริ่มต้นทำในสิ่งที่ควรทำ และบทสรุปของ "Homeroom 29 ตัวประกัน" ก็คือการจะบอกให้รู้ว่าในยุคเฟคนิวที่เต็มไปด้วยข่าวปลอม ดังนั้นจึงอย่าด่วนตัดสินใจใครโดยที่ไม่รู้ความจริง และไม่ควรใช้อคติในการตัดสินใจ ซึ่งซีรีส์ได้เล่าเรื่องราวที่มีจุดจบร้ายแรงให้เห็นผ่านการแสดงของเหล่านักแสดงฝีมือคุณภาพมากมายแล้ว ด้วยหวังว่าเรื่องร้าย ๆ จากการบูลลี่จะลดน้อยลง และไม่มีอีกต่อไปในที่สุด... รับชม HOMEROOM 29 ตัวประกัน บน TrueID คลิกเลย! - รู้จัก+เปิดวาร์ป 31 นักแสดง HOMEROOM 29 ตัวประกัน #HOMEROOM -รีวิวก่อนดูซีรีส์ HOMEROOM 29 ตัวประกัน น่าดูแค่ไหน? -รีวิวซีรีส์ HOMEROOM 29 ตัวประกัน Part1 ใครฆ่าเรน!! -รู้จัก "เจน กุลจิราณัฐ" จุดเริ่มต้นซีรีส์ "HOMEROOM 29 ตัวประกัน" - รู้จัก "พีค ภีมพล" ในบทบาท "ธาม" ซีรีส์ HOMEROOM #29ตัวประกัน ขอบคุณภาพประกอบจาก JUVE9 official , TrueID ภาพปก ภาพที่1 ภาพที่2 ภาพที่1 ภาพที่2 ภาพที่3 ภาพที่4 ภาพที่5 ภาพที่6 ภาพที่7 ภาพที่8 ภาพที่9 ภาพที่10 ภาพที่11 ภาพที่12 เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !