[รีวิวซีรีส์] House of the Dragon ซีซัน 2 ตอน 1-4 แค้นสะเทือนไต โหดตั้งแต่ออกสตาร์ท

สิ้นสุดการรอคอยถึง 2 ปีในที่สุดตอนแรกของ ‘House of the Dragon’ ในซีซันที่ 2 ก็ได้ฤกษ์ฉาย เมื่อวันจันทร์ที่ 17 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งคราวนี้สิ่งที่น่ากรี้ดที่สุดสำหรับแฟน ‘Game of Thrones’ หรือ ‘GOT’ ก็คือการที่เราจะได้เห็นฉากที่เราคุ้นเคยจากซีรีส์ภาคหลักและเริ่มจะได้เห็นตัวละครจากตระกูลต่าง ๆ ใน ‘GOT’ มากขึ้น

โดยเรื่องราวหลักในซีซันที่ 2 ได้ดำเนินต่อจากตอนจบสุดสะเทือนใจในครั้งก่อน กับการสูญเสียลูกชายของ เรนีรา ทาร์แกเรียน (เอมมา ดาร์ซี, Emma D’Arcy) ความแค้นครั้งนี้บวกกับการแอบอ้างชิงบัลลังก์ของ อลิเซนต์ ไฮทาวเวอร์ (โอลิเวีย คุก, Olivia Cooke) ทำให้เรนีรากับ เดมอน ทาร์แกเรียน (แมตต์ สมิธ, Matt Smith) ต้องวางหมากเพื่อโค่น คิงเอกอน (ทอม กลินน์ คาร์นีย์, Tom Glynn-Carney) ซึ่งกลยุทธิ์ในการชิงบัลลังก์เหล็กครั้งนี้เต็มไปด้วยเกมสกปรก

ความเข้มข้นของซีรีส์ซีซีนนี้จะแนะนำให้เรารู้จักกับทีมตัวละครสองทีมได้แก่ ทีมดำ นำโดย เรนีรา ทาร์แกเรียน ซึ่งเป็นผู้ได้รับสิทธิสืบสันตติวงศ์เดิม กับ ทีมเขียว นำโดย อลิเซนต์ ไฮทาวเวอร์ ผู้เปลี่ยนสถานะจากเพื่อนรักสู่คู่แค้นของเรนีรา ซึ่งจากซีรีส์ทั้ง 4 ตอนบอกได้เลยว่ายากมากที่จะเลือกข้างฝั่งไหน เพราะต่างคนก็ใช้วิธีการสกปรกเพื่อล้างแค้นและแย่งชิงอำนาจ และต่างก็มึเหตุให้ผู้ชมต้องเห็นใจในชะตากรรมของเพื่อนรักที่มาหักกันในเกมชิงอำนาจเกมนี้ซึ่งในซีรีส์ซีซีนนี้บอกเลยว่าขอบเขตการเล่าเรื่องที่ถูกขยายและตัวละครใหม่ ๆ มีบทบาทกับเรื่องราวเป็นอย่างมากโดยตัวละครที่น่าสนใจในซีซันนี้ที่อยากแนะนำได้แก่ มีซาเรีย จากนางรำและเมียเก็บของเดมอน ทาร์แกเรียน

โดยบท มีซาเรีย ตัวละครจากนิยาย A Dance of the dragons ซึ่งผู้รับบทนี้คือ โซโนยา มิซูโน่ (Sonoya Mizuno) ซึ่งในซีรีส์ซีซันแรกเราได้พบเธอมาบ้างแล้วในบทบาทเมียเก็บของ เดมอน ทาร์แกเรียน และโผล่มาตอนสุดท้ายในฐานะ “หนอนขาว” สายลับที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด โดยในซีซันนี้ มิซาเรีย จะมีบทบาททั้งกับ เรนีรา ทาร์แกเรียน และกลับมาเป็นหอกข้างแคร่กับ เดมอน ทาร์แกเรียน อีกที ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อตอน 2 ของซีรีส์ออนแอร์ชื่อของ โซโนยา มิซูโน่ สาวสวยที่ทำหนุ่ม ๆ ใจเต้นจาก ‘Ex-Machina’ จะมาอยู้ในสปอตไลต์ของแฟน ‘House of the Dragon’ แน่นอน

อีกตัวละครที่จะมีบทบาทสำคัญในซีซันนี้อย่างยิ่งคงหนีไม่พ้น เอมอน ทาร์แกเรียน รับบทโดย อีวาน มิตเชลล์ (Ewan Mitchell) ที่ในซีซันก่อนเพิ่งจุดไฟแค้นให้แก่ เรนีรา ผู้มีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องด้วยการไล่กวดและสังหารลูกชายสุดที่รักของอีกฝ่าย ในซีซันนี้บอกเลยว่าแม้เหลือตาข้างเดียว แต่ความอำมหิตและความกระหายในอำนาจจะทำให้สถานการณ์ของตระกูลทาร์แกเรียนต้องสะเทือนอีกครั้งแน่นอน ซึ่งเรายังบอกไม่ได้ว่าเป้าหมายต่อไปของเอมอนจะเป็นใคร แต่เชื่อว่าเสน่ห์เถื่อน ๆ โหด ๆ ของหนุ่มอีวาน มิตเชลล์ น่าจะทำให้สาว ๆ หวั่นไหวไม่น้อยเลยทีเดียว

อีกจุดที่ซีซัน 2 ของ ‘House of the Dragon’ จะกลายเป็นอีกไฮไลต์สำหรับวงการซีรีส์ฟอร์มยักษ์ปีนี้ คงหนีไม่พ้นทั้งการดึงเสน่ห์ของซีรีส์ในซีซันแรกทั้งฉากแฟลชแบ็คที่จะมาคลายปมบางอย่างที่ผู้ชมสงสัยและแน่นอนว่าฉากแฟนตาซีที่จะพิสูจน์ว่าคุณภาพงานวิช่วลเอฟเฟกต์ของซีรีส์ที่พะยี่ห้อ HBO ไม่แพ้หนังฉายโรงแน่นอน (เผลอ ๆ อาจจะล้ำหน้าไปเยอะเลยด้วยซ้ำ)

ไม่เพียงแต่เรื่องราวในซีรีส์จะมีจุดพลิกผันจนเดาไม่ถูกในเวลาแค่ครึ่งทางของซีรีส์หรือเต็มไปด้วยฉากโชว์เอฟเฟกต์โหด ๆ เพียบเท่านั้น แต่งานแสดงในซีรีส์ยังทำให้เห็นว่าทีมนักแสดงยังคงเป็นจุดแข็งสำคัญ โดยเฉพาะเอมมา ดาร์ซี กับ โอลิเวีย คุก ที่รับบท เรนีรา กับ อลิเซนต์ ที่ต้องเชือดเฉือนบทบาทกันไปมา เรียกได้ว่าทั้งสายตาและแอ็กติงของทั้งคู่ทำให้ผู้ชมหายใจไม่ทั่วท้อง และยิ่งในซีซันนี้ทั้ง เรนีรา และ อลิเซนต์ ต่างต้องเผชิญสถานการณ์ที่ยากลำบากทั้งเรื่องการเมืองและเรื่องในครอบครัวตัวเอง ซึ่งทั้งดาร์ซีและคุกต่างก็ให้การแสดงที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน

และแน่นอนว่า แมตต์ สมิธ ยังคงความเท่และความโหดในบท เดมอน ทาร์แกเรียน ไว้ได้แม้ในภาคนี้จะถูก อีวาน มิตเชลล์ ในบทเอมอน ทาร์แกเรียน แบ่งเสียงกรี้ดของสาว ๆ ไปบ้างก็ตามรวมถึง ความเซ็กซี่ของ เฟเบียน แฟรงเคิล (Fabien Frankel) ในบทเซอร์คริสตัน โคล ที่ในภาคนี้ดูจะแฟนเซอร์วิสกับสาว ๆ เป็นพิเศษด้วยความเหงาของอลิเซนต์ เซอร์โคลเลยถูกเรียกไปรับใช้บ่อยเป็นพิเศษในซีซันนี้

โดยภาพรวมแล้วต้องบอกว่า ‘House of the Dragon’ ซีซัน 2 เปิดตัวมาก็เข้มข้นแล้ว และเพียงแค่ 4 ตอนก็ทำให้เห็นว่าทีมสร้างใส่ใจทั้งเรื่องราวและคุณภาพงานสร้างจนทำให้กลายเป็นซีรีส์อีกหนึ่งเรื่องที่น่าติดตามมากในปี 2024