If cat Disappear From The World (2016) ถ้าแมวตัวนั้นหายไปจากโลกนี้"คุณจะเลือกยืดชีวิตของตัวเองออกไปหรือไม่ หากรู้ว่ากำลังจะตายอีกไม่นาน" แต่ต้องแลกมาด้วยการลบสิ่งของออกจากโลกใบนี้ เพื่อยืดชีวิตของตัวเองออกไปเพียงหนึ่งวันเท่านั้นหนุ่มบุรุษไปรษณีย์คนหนึ่งได้รับข่าวร้ายที่เหมือนถูกโลกทั้งใบถล่มใส่ เมื่อตรวจพบว่าตัวเองเป็นเนื้องอกในสมองระยะสุดท้าย นาฬิกาชีวิตของเขาจะเดินได้อีกไม่นาน แต่ด้วยความที่ใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวมาเนิ่นนาน เจ้าตัวก็เลยไม่รู้ว่าจะตีโพยตีพายกับชะตากรรมของตัวเองไปทำไม แต่แล้วเรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นหลังจากที่เขากลับถึงที่พัก จู่ ๆ ก็พบว่ามีคนหน้าเหมือนตัวเองนั่งรออยู่ที่บ้าน ทันทีที่เห็นเขาก็พอจะเดาออกได้เลยว่า ชายที่ใบหน้าเหมือนกันคนนี้คงไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอนชายคนนั้นแนะนำตัวว่า เขาไม่ใช่เทวดา ไม่ใช่ยมทูต หากจะเรียกว่าปีศาจก็อาจจะไม่ผิดนัก ปีศาจตนนี้มาพร้อมกับข้อเสนอยั่วยวนใจ เมื่อเสนอให้เขาสามารถมีชีวิตต่อไปได้อีกหนึ่งวัน เพื่อแลกกับการให้ปีศาจตนนั้นลบบางอย่างไปจากโลกใบนี้ แน่ล่ะว่าชีวิตบุรุษไปรษณีย์ที่ทำอะไรซ้ำซากจำเจเขาคิดว่ามีอีกหลายอย่างในชีวิตที่ยังอยากทำ มีอีกหลายคำที่ยังไม่เคยได้บอกกับคนสำคัญ เขาจึงตัดสินใจรับข้อเสนอการยืดชีวิตในวันแรก แลกกับการที่ปีศาจจะลบโทรศัพท์ออกไปจากโลกใบนี้ แล้วโลกที่ไม่มีโทรศัพท์ล่ะมันจะเป็นอย่างไร แล้วอะไรจะเป็นสิ่งต่อไปที่เขาจะยอมลบมันไปจากโลก เพียงเพื่อยืดชีวิตของตัวเองออกไปแบบวันต่อวันหนังดราม่าที่หลังจากดูจบแล้ว ส่วนตัวผมคิดว่าอารมณ์หนังนั้นคล้ายกับเรื่อง Forget Me Not (2015) ที่ อาซึสะ โอริเบะ (Akari Hayami) ตัวละครเอกของเรื่องกลายเป็นคนที่จะถูกผู้คนรอบข้างค่อย ๆ ลืมเธอไปจากความทรงจำ ความรู้สึกที่เกิดขึ้นตอนดูมันโหดร้าย หดหู่ น่ากลัว เหมือนกับว่าชีวิตคนเราทำไมถึงไร้ความหมายได้ขนาดนี้ กับ If cat Disappear From The World (2016) ก็เกิดความรู้สึกคล้ายกันขึ้นมา เมื่อสิ่งของต่าง ๆ ถูกสาปให้หายไปจากโลกนี้ ผู้คนที่เกี่ยวข้องกับเขาก็จะลืมเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับสิ่งของชิ้นนั้นด้วยเช่นกันหลังจากที่มีชีวิตอยู่ต่อเพิ่มขึ้นได้อีกหนึ่งวัน กลายเป็นว่าเขาตั้งคำถามว่าชีวิตเขากับโทรศัพท์ที่ถูกลบออกไป อย่างไหนมันมีค่ามากกว่ากัน เพราะโทรศัพท์มันทำให้เขามีตัวตนสำหรับใครบางคน แต่เมื่อมันไม่มีแล้วกลับทำให้เขากลายเป็นเพียงคนแปลกหน้า ที่ไม่มีความหมายอะไรต่อกันเลยหนังเล่าวนลูปด้วยการยืดชีวิตของตัวละครเอก แลกกับการลบสิ่งของออกไปทีละอย่าง ๆ บอกเล่าความสำคัญของของสิ่งนั้น ผ่านเรื่องราวและประสบการณ์ทั้งดีและร้าย ก่อนจะตั้งคำถามกับตัวละครว่า ทำไมเขาถึงตัดสินใจยืดชีวิตตัวเอง ทำไมเขาไม่สามารถทำใจยอมรับการตายได้ แต่กลับตัดสินใจยอมแลกกับของสำคัญในชีวิต นั่นก็เพราะตัวเขาเองก็ยังมีเรื่องค้างคามากมาย ทั้งกับคนรัก เพื่อน ครอบครัว รวมถึงสิ่งที่อยากจะทำกับตนเอง แต่กลับปล่อยให้เวลามันสูญเปล่าไป หากคนที่เป็นคอหนังน่าจะอินกับเรื่องนี้ ในพาทความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครเอกกับเพื่อนซี้ เท็ตสึยะ หรือที่เขาเรียกว่า ซึทาญ่า เพราะเพื่อนนักรักภาพยนตร์คนนี้ เปรียบเสมือนร้านเช่าวิดีโอ ซึทาญ่า ที่มีหนังมานำเสนอเขาไม่หยุดหย่อน อ่านมาถึงตรงนี้เหมือนแอบสปอยคงจะรู้กันแล้วว่า มีอะไรอีกอย่างที่จะโดนลบออกไปจากโลกใบนี้เป็นหนังที่ส่วนตัวผมคิดว่าไม่เหมาะกับการดูในช่วงชีวิตที่กำลังดาวน์ จิตตก หดหู่กับเรื่องราวในชีวิต ด้วยความที่เป็นหนังเล่าเรื่องเกี่ยวกับการทำใจ ยอมรับความตายที่กำลังมาถึง แถมยังเหมือนมีการเปรียบเทียบเล็ก ๆ ระหว่างคุณค่าของสิ่งของกับชีวิตของคน ว่าชีวิตของคนเราจริงแล้วมันสำคัญมากขนาดนั้นเลยหรือ เพราะต่อให้ไม่มีเราอยู่บนโลกใบนี้แล้ว โลกมันก็ยังหมุนชีวิตคนอื่นก็ยังดำเนินต่อไป เหมือนกับที่ตัวละครเอกถามกับตัวเองว่า หากเขาไม่อยู่บนโลกใบนี้แล้วจะมีใครเสียใจบางไหมแต่ในซอกลืบของความหดหู่ในหนังมันก็ยังมีแสงสว่างให้ตัวละครได้บ้างเมื่อถึงบทสรุป เพราะอย่างน้อยที่สุดแล้ว คนเรามีค่าตั้งแต่เกิดมาในวินาทีแรกต่อผู้ให้กำเนิด เพราะพวกเขารู้สึกขอบคุณเด็กที่เกิดขึ้นมา เมื่อการได้ชื่อว่าเป็นพ่อแม่คนจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อ ได้ให้กำเนิดและเลี้ยงดูลูกที่เกิดขึ้นมาเท่านั้นสรุปแล้ว If cat Disappear From The World (2016) ถ้าแมวตัวนั้นหายไปจากโลกนี้ เป็นหนังดราม่าที่ขอใช้คำว่า “ทำให้รู้สึกกลัว” เพราะต่อให้เราไม่อยู่แล้วบนโลกใบนี้ อย่างน้อยก็ยังมีคนที่คิดถึงเรา เสียใจ ร้องไห้ เพราะการจากไปของเรา แต่การมีชีวิตอยู่โดยกลายเป็นคนที่ถูกลืม ไม่เป็นที่รัก ที่ต้องการ มันเจ็บปวดมากมายกว่าหลายเท่านักDirector: Akira Nagaiขอบคุณเครดิตรูปภาพจากภาพยนตร์ : If cat Disappear From The World (2016) MONGKOL CINEMAเขียนโดยแอดมิน เพจ ปีนรั้วดูหนัง