Movie Full ReviewThe Handmaiden : เล่ห์รักนักล้วง (2016)หนังเรื่องแรกของ "คิมแทรี" ที่หลอกซ้อนหลอก เยี่ยมซ้อนเยี่ยม สมราคารางวัลด้วยชั้นเชิงและความแรงของเนื้อหาเมื่อหยิบหนังเรื่องนี้มาดูก็ให้หวนไปนึกถึงสมัยที่การดูหนังของดูไปบ่นไปต้องอาศัยร้านเช่าวีดีโอที่มีอิทธิพลสูงมากในอดีต และผู้เขียนคือคนที่ต้องดูหนังอย่างน้อยวันละหนึ่งเรื่องจนกลายเป็นลูกค้าประจำของร้านวีดีโอสองร้านใหญ่ในอำเภอจนสนิทกับเจ้าของร้าน และได้ผ่านวันเวลาเหล่านั้นมาจนถึงยุคที่มาเป็น VCD ที่ก็ยังต้องอาศัยร้านเช่าอยู่จนกระทั่งการมาของอินเตอร์เน็ตสปีดเล็กจิ๋วที่ผู้เขียนเป็นบ้านหลังแรกในหมู่บ้านที่ติดไว้ให้ลูกใช้ แล้วมันก็มาพร้อมกับแล้วการสั่งซื้อแผ่น DVD ออนไลน์ที่สามารถเลือกหนังได้จากทางร้าน Boomerang แล้วก็กลายเป็นจุดเริ่มต้นของความล่มสลายของร้านเช่า เพราะหลังจากนั้นพัฒนาการของอินเตอร์เน็ตที่ทั้งเร็วและแรงพร้อมกับการล่มสลายของร้านเช่าอย่างสมบูรณ์แบบเมื่อการดูหนังผ่านไฟล์ดิจิตอลเข้ามาเต็มรูปแบบ แล้วช่วงนี้เองที่เป็นสูญญากาศของการดูหนังทางเลือกของผู้เขียนเมื่อหนังที่ไม่ค่อยมีใครดูกันในพื้นที่แถวนี้ที่เมื่อก่อนยังพอสั่งจากร้านประจำได้ จึงทำให้หนังบางเรื่องที่เป็นหนังดีแต่ไม่ค่อยมีคนดูเริ่มหาดูยากสำหรับคนที่ตามเทคโนโลยีได้ช้ากว่าคนอื่นอย่างผู้เขียนทำให้ไม่ได้ดูหนังเรื่องนี้ในตอนที่หนังฉายหรือได้ฉายในโรงหรือไม่ก็ไม่ทราบ แต่หลังจากที่ผู้เขียนดูซีรีส์ Mr.Sunshine จบลงด้วยความประทับใจนักแสดง "คิมแทรี" จึงพยายามหางานเก่าของเธอมาพิสูจน์ และด้วยความที่ผู้เขียนไม่ค่อยดูหนังพากย์ไทยยิ่งทำให้หายากเข้าไปอีกจนในที่สุดก็ได้แผ่นหนังมาผ่านช่องทางออนไลน์จนได้ และเมื่อได้พิสูจน์จึงยอมรับว่าน่าเสียดายที่ไม่ได้ดูหนังเรื่องนี้เมื่อตอนออกใหม่ๆเพราะเมื่อเวลาผ่านมาหลายปีอะไรๆได้เห็นมามากมายจนบางอย่างไม่ยากต่อการคาดเดา แต่แม้จะเป็นเช่นนั้นก็ยังอึ่ง ทึ่ง เสียวอยู่ดี The Handmaidenเรื่องย่อในช่วงที่ญี่ปุ่นยึดครองเกาหลีซุคฮี (คิมแทรี) สาวน้อยนักล้วงกระเป๋าชาวเกาหลีได้ถูกติดต่อจากขุนนางเก๊ฟูจิวาระ (ฮาจองอู) ให้เข้าไปปลอมเป็นหญิงรับใช้ในคฤหาสน์ของคหบดีผู้ทรยศชาติเกาหลีไปแต่งงานกับหญิงชาวญี่ปุ่นใช้ชีวิตเยี่ยงคนญี่ปุ่นนามว่าโคซุกิ (โจจินอุง) ด้วยวัตถุประสงค์คือหลอกให้ฮิเดโกะ (คิมมินฮี) ตกหลุมรักขุนนางเก๊ฟูจิวาระแล้วแต่งงานและพากันหนี เนื่องจากฮิเดโกะก็ถูกหมายปองจากโคซุกิลุงเขยผู้มีเบื้องหลังที่น่ารังเกียจแต่เพราะมรดกที่ครอบครัวของฮิเดโกะทิ้งไว้ให้ทายาทเพียงคนเดียวอย่างเธอไปต้องตาขุนนางเก๊ฟูจิวาระ และเขาได้วางแผนหลอกให้ฮิเดโกะแต่งงานให้ถูกต้องตามกฏหมายแล้วไปกำจัดเธอทีหลังเมื่อหนีไปถึงญี่ปุ่น จนเมื่อซุคฮีที่เข้ามาอยู่บ้านนั้นในชื่อทามาโกะด้วยจุดประสงค์ในการหลอกฮิเดโกะด้วยการทำหน้าที่สาวรับใช้คนสนิท และทามาโกะก็ทำหน้าที่ของเธอได้เป็นอย่างดีถ้าไม่ใช่ว่ามีอะไรบางอย่างในความรู้สึกของทามาโกะและยังลุกลามไปยังความรู้สึกของฮิเดโกะจนทำให้แผนการเดิมเปลี่ยนไปเมื่อหญิงสาวสองคนมีความรู้สึกต่อกันเกินกว่านายหญิงกับสาวใช้ ซึ่งยุคนั้นอาจไม่มีใครคิดว่าจะเป็นไปได้และความรู้สึกนั้นของทามาโกะก็เริ่มรุนแรงจนผิดสังเกต ขุนนางเก๊ฟูจิวาระจึงต้องแก้เกมและพยายามประคองแผนการที่จะหลอกฮิเดโกะไปให้สุดทาง แล้วเมื่อได้โอกาส ขุนนางเก๊ฟูจิวาระกับฮิเดโกะและพ่วงด้วยทามาโกะตามเงื่อนไขของฮิเดโกะก็ได้หนีไปถึงญี่ปุ่น จนเมื่อพวกเขาได้แต่งงานกันทุกอย่างก็เป็นไปตามแผนซึ่งทามาโกะหรือซุคฮีจำต้องทำตามโดยไม่เต็มใจ จนกระทั่งถึงเวลาต้องกำจัดทามาโกะเรื่องจึงพลิกกลับที่มาพร้อมความแรงในประเด็นรักร่วมเพศที่เป็นตัวแปรและฉากเลิฟซีนที่เร้าร้อนของสองนางเอกที่ทำให้พลังของหนังแรงดีไม่มีตกเพราะมันเป็นน้ำหนักที่ถ่วงเรื่องไว้ให้แน่นหนา เยี่ยมซ้อนเยี่ยมด้วยการซ้อนเงื่อนกลไปมาอย่างแนบเนียนผ่านบทภาพยนตร์ที่แข็งแรงและความกล้าที่จะเล่นแรง ความจริงเรื่องของการหลอกซ้อนหลอกแบบนี้ถูกเล่ามานานมากแล้ว ทั้งงานทางตะวันตกทางตะวันออกของเราและแม้กระทั่งเกาหลีเอง แต่ความต่างอยู่ที่รายละเอียดเมื่อบทเลือกแบ่งออกเป็นสองส่วนที่ในเรื่องบอกว่าเป็นบทที่หนึ่งและบทที่สอง เหมือนการอ่านหนังสือคนละบทหรืออาจเป็นหนังสือคนละเล่มด้วยซ้ำเพราะเนื้อหาข้างในมองคนละมุม เริ่มจากการเล่าในมุมของซุคฮีก่อนในบทที่หนึ่งแล้วตลบหลังคนดู จากนั้นก็มองในมุมของฮิเดโกะในเรื่องเดียวกันแล้วคนดูก็หลังหักอีกครั้ง แต่ที่เป็นอยู่นั้นคือมีการเล่าเรื่องที่ละเอียดวางปมไว้มิดชิดและพลิกผันเล็กๆไปๆมาๆตลอดทั้งบทที่หนึ่งและบทที่สอง นั้นหมายความว่าเรื่องเต็มไปด้วยความพลิกผันเร้าใจ และความที่หนังวางตัวเป็นความซับซ้อนวางเกมเพื่อต้มตุ๋นหลอกลวงจึงต้องล่อหลอกคนดูไปด้วยแต่ความน่าเสียดายของผู้เขียนเป็นการส่วนตัวก็คือไม่ได้ดูเรื่องนี้ตอนชั้นเชิงแบบนี้ยังสดใหม่ ซึ่งเวลาที่ล่วงเลยมาทำให้ชั้นเชิงแบบนี้ถูกใช้และผ่านตามาจนคาดเดาได้ด้วยประสบการณ์ แต่ที่บทหนังมีความต่างคือการเลือกเล่นในส่วนของตัวแปรของเหตุการณ์ที่คงไม่ปิดบังอะไรเพราะหนังก็ผ่านมานาน การใส่ตัวแปรสำคัญที่มีผลต่อเกมซ่อนกลครั้งนี้ เลือกที่จะเล่นแรงด้วยการเล่าเรื่องของความรักระหว่างผู้หญิงกับผู้หญิง ใช่แล้วหนังเล่าเรื่องแผนที่แน่นหนาแล้วมีตัวแปรเป็นมารยาหญิงซึ่งถ้าว่ากันที่บริบททางสังคมเกาหลีเท่าที่พอรู้ก็คือแม้กระทั่งปัจจุบันยังไม่ได้เปิดกว้างเรื่องนี้นักอย่าไปพึงคิดถึงเมื่อตอนที่หนังออกฉายหนังเรื่องนี้จึงออกมาแรงด้วยประเด็นของคนข้ามเพศ และถ้านั่นยังไม่พอกับความรักที่เป็นตัวแปรครั้งนี้ถูกถ่ายทอดออกมาอย่างมีพัฒนาการตั้งแต่สายตามีความในกับสายตาที่เปลี่ยนแปลงไปจนกระทั่งเรื่องเซ็กซ์อันเป็นน้ำหนักที่ถ่วงมิติด้านความรักนี้ให้มีความลึกจนเชื่อได้ก็มาจากความเร้าร้อนของฉากเลิฟซีนที่คนดูต้องอึ้ง เพราะคาดไม่ถึงว่าจะจัดหนักปานนี้ทำให้คนดูเชื่อทั้งใจว่าหัวใจของผู้หญิงรักแรงแค้นแรงแค่ไหน และทำให้หนังเรื่องนี้ก็คือหนังพลังหญิงโดยแท้เพราะมิติส่วนนี้ลึกล้ำ รุนแรง ชัดเจน เมื่อคำกล่าวที่ว่ามารยาหญิงสามร้อยเล่มเกวียน แต่นั่นคือหนึ่งนางเดียวแต่เมื่อมาเป็นคู่เท่ากับว่ามีหกร้อยเล่มเกวียนแล้วจะมีหรือที่ผู้ชายที่มั่นใจในตัวเองสุดขีดจะต้านทานได้ แล้วก็ถูกถล่มราบคาบทั้งเรื่องของบทที่พาไปจุดที่ผู้หญิงเอาคืนผู้ชายอย่างสาสมจนกระทั่งแม้แต่คนดูที่เป็นผู้ชายยังไม่วายสาแก่ใจกลเกมแห่งความรักเมื่อเลือกที่จะใช้ความรักเป็นเกมก็ต้องเสี่ยงกับคำว่ารักซ้อนซ่อนรัก เมื่อผู้ชายที่คิดว่าตัวเองฉลาดทะนงตนว่าเปี่ยมเสน่ห์ที่ยากต้านทานต้องการใช้ความรักของคุณหนูผู้ไร้เดียงสามาเป็นเครื่องมือ ความผิดพลาดเพียงอย่างเดียวคือความทะนงตนของผู้ชายเพราะการส่งหญิงสาวไร้เดียงสาไปใกล้ชิดกับหญิงสาวที่ไร้เดียงสาอีกคนที่ไม่มีโอกาสได้ออกมาเห็นโลกภายนอกน่าจะเป็นเรื่องที่ควบคุมได้และมันควรจะเป็นตามเกมที่วางไว้ แต่เมื่อสมัยนั้นหรือแม้แต่ตอนนี้ใครจะคิดว่าผู้หญิงที่ไร้เดียงสาสองคนจะผูกสัมพันธ์แนบชิดกันทั้งทางใจและร่างกาย ใครจะคิดว่าในยุคสมัยที่ผู้ชายเป็นใหญ่ควบคุมโลกทั้งใบของตัวเองจะมีเรื่องของหญิงรักหญิงมาเป็นตัวแปรที่ไปๆมาๆผู้ชายกลายเป็นผู้ถูกควบคุมไปโดยปริยาย ไม่ต่างจากการเอาคืนอย่างสาสมของผู้หญิงที่ถูกกระทำมาตลอดที่หนังเล่าให้เห็นตลอดเรื่องทั้งสิทธิ์ที่จะใช้ชีวิตหรือกระทั่งสิทธิ์ที่จะรักเพราะในมุมของผู้ชายอาจคิดว่าผู้ชายเท่านั้นที่เป็นคนกำหนดปัจจัยเรื่องความรักแต่ทั้งนี้มันหาใช่กฎที่ตายตัว เพราะความจริงความรักคือเรื่องไม่มีใครบังคับใครได้ไม่มีใครกำหนดได้และความรักก็ไม่ได้ถูกจำกัดไว้เฉพาะระหว่างเพศชายกับเพศหญิง เพราะขุนนางเก๊ฟูจิวาระมั่นใจเกินไปว่าความหล่อเหลาเจ้าเสน่ห์ของตนจะทำให้ผู้หญิงอ่อนต่อโลกอย่างฮิเดโกะมาอยู่ในอุ้งมือหรือมาสยบอยู่แทบเท้าได้ แต่ปัจจัยที่สำคัญที่สุดคือความรักของซุคฮีที่มีต่อฮิเดโกะแล้วเกิดขึ้นในยุคที่คนคาดไม่ถึงผลที่ได้มันจึงทั้งอึ่ง ทึ่ง เสียว และสะใจในตอนท้าย เมื่อใครกันแน่ที่อ่อนเดียงสาใครกันแน่ที่รู้เดียงสาเกมซ่อนกลนี้ใครเป็นคนคุมและใครคือคนที่ต้องสยบจนบั้นท้ายเปลือยเปล่า เพราะความรักคือตัวแปรที่ไม่สามารถควบคุมได้หรือกระทั่งอาจมองได้ว่านี่คือเสียงร้องให้โลกได้ยินของผู้หญิงเกาหลี ที่ว่ากันตามตรงตามที่ได้เห็นผ่านตามาในหนังและซีรีส์ในปัจจุบันสังคมเกาหลีก็ยังเป็นสังคมที่นิยมชายผู้ชายมีอำนาจเผด็จการในบ้าน จึงไม่ต่างจากการร้องดังๆของผู้หญิงเกาหลีว่าพวกเธอก็มีความฉลาดทันเกมพวกเธอมีสิทธิ์ที่จะคิดมีสิทธิ์ที่จะรัก และยังบอกกับโลกอีกว่าการรักเพศเดียวกันไม่ใช่ความวิปริตผิดปกติแต่มันคือเรื่องธรรมชาติที่สามารถเกิดขึ้นได้กับการที่แค่ร่างกายไม่สัมพันธ์กับเพศสภาพในใจ และการนำเสนอแบบแรงจัดแบบนี้มันคือเสียงเรียกร้องที่ใครๆต้องฟัง และมันอาจเปลี่ยนมุมมองของผู้ชายที่คิดว่าตัวเองเป็นคนคุมเกมแต่แท้จริงแล้วผู้หญิงต่างหากที่เป็นคนคุมเกม ไม่เชื่อมาถามพ่อบ้านใจกล้าแถวนี้ดูได้พวกผู้ชายเป็นแค่ดอกไม้ริมทางด้วยความที่มาตรฐานการแสดงของนักแสดงเกาหลีและชื่อผู้กับพัคชานอุค (ปาร์คชานวุค) จึงเชื่อได้เลยว่าไม่มีทางที่ผู้กำกับท่านนี้จะคัดเลือกนักแสดงระดับธรรมดามารับผิดชอบตัวละครในหนังของเขา ชื่อของฮาจองอูที่เห็นเขาในหนังเกาหลีมามากมายจึงปรากฏแต่ยังไม่สะดุดใจเท่าโจจินอุงจากซีรีส์ Signal และสำหรับเรื่องนี้ฮาจองอูก็แสดงได้ดีอย่างน่าชื่นชมเพราะสามารถรับผิดชอบได้อย่างเยี่ยมแสบได้ใจ แต่สำหรับโจจินอุงคือการสวมวิญญาณชายชราตัณหากลับและวิตถารอย่างไม่มีที่ติอุดมไปด้วยความน่ารังเกียจตั้งแต่หัวจรดเท้ายันกิริยาท่าทางและเสียง ทว่าอาจเพราะนี่คือหนังพลังหญิงหนังที่เสียงของผู้หญิงดังกว่ายอดฝีมือฝ่ายชายเลยกลายเป็นนักแสดงสมทบไปอย่างไม่มีทางเลี่ยงและมันคือการโชว์พลังดารา ราศี และเสน่ห์ทางเพศแบบสุดยอดของคิมมินฮีในบทฮิเดโกะอย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งความไร้เดียงสาไม่รู้เรื่องราวทางโลกหรือแม้กระทั่งมารยาร้อยเล่ห์ไม่มีใครแข่งรัศมีกับเธอได้ด้วยการแสดงที่เชื่อทั้งใจและทำให้คนดูใจเต้นและวาบหวามแม้กระทั่งเสียงที่ได้ยินจากปากในการอ่านบทกวี และยิ่งได้ตัวสนับสนุนในระดับที่เรียกว่าแสดงในระดับตายกันไปข้างจนไม่อยากเชื่อว่านี่คือการแสดงเรื่องแรกกับหนังขนาดยาวของคิมแทรี เพราะบทซุคฮีหรือทามาโกะของเธอคือการสอดประสานของความรักที่รุนแรงและสามารถทำได้ทุกสิ่งเพื่อความรักกับความร้อยเล่ห์ของฮิเดโกะ การแสดงที่สอดประสานเนื้อแนบเนื้อใจแนบใจกันของนักแสดงหญิงทั้งสองคนไม่ต่างจากหยินคู่หยาง เมื่อความร้อยเล่ห์สามร้อยเล่มเกวียนมาประสานกัน ผู้ชายก็เป็นได้แค่ดอกไม้ริมทางให้เดินผ่านไปโดยไม่ชายตามองและราบคาบทั้งในเรื่องและการแสดงด้วยการแสดงที่สมบูรณ์แบบดั่งคนที่ผ่านการแสดงมากมายของคิมแทรีจึงไม่กล้าแม้แต่จะกังขากับการรับบทที่มีมิติลึกและพัฒนาการสูงอย่างในซีรีส์ Mr.Sunshine กระนั้นก็ต้องยอมรับว่าความเจิดจ้าในเรื่องนี้ยังไม่เท่าคิมมินฮีที่เฉิดฉายทอประกายสุดขีด อาจจะด้วยบทที่ต้องสวยรวยเสน่ห์ด้วยก็น่าใช่แต่การแสดงก็ทำได้อย่างไร้ทีติซึ่งผู้เขียนไม่รู้ว่าตอนที่หนังเรื่องนี้ออกมานั้นได้มาเข้าฉายโรงในบ้านเราหรือไม่ และฉากเลิฟซีนที่เร่าร้อนของสองนางเอกจะถูกตัดออกหรือไม่ซึ่งถ้าถูกตัดออกไปน้ำหนักของเรื่องคงจะเบาบางลงจนแทบไม่เหลือ แต่หากลองไม่นึกถึงฉากที่ว่าการแสดงของสองนางเอกก็คือสิ่งที่ควรค่าแก่การยืนปรบมือโดยไม่ต้องไปนึกถึงฉากเหล่านั้นที่ไม่ว่ายังไงก็ต้องติดตาผู้ชมไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือว่าผู้หญิงน่าเสียดายที่ไม่ได้ดูเมื่อหนังยังสดใหม่ แม้ชั้นเชิงที่เล่นในหนังได้ถูกใช้มามากมายในงานเกาหลีทั้งหนังทั้งซีรีส์ ที่ปัจจุบันถ้าดูหนังเกาหลีไม่จบจนวินาทีสุดท้ายก็ยังไว้ใจไม่ได้ เพราะเกาหลีที่มักตลบหลังคนดูแทบทุกเรื่องและทุกแนว กระนั้นสำหรับลูกเล่นและชั้นเชิงของหนังที่เรื่องนี้ที่เล่าแบบแยกเป็นสองส่วนชัดแต่มองกับคนละมุมแต่ก็ไม่ได้เล่นท่ายาก อาจเหมือนซับซ้อนแต่คือการเล่าเรื่องตรงๆที่เหนือชั้นดูง่ายเข้าใจง่ายและเร้าอารมณ์ ด้วยบทที่แน่นจนเรียกว่าถ้าเอาตามจริงคือถ้าดูรอบแรกตอนที่หนังออกฉายใหม่ๆจะยากมากที่จะเดาได้ แต่น่าเสียดายที่มาได้ดูตอนนี้ที่หนังได้ผ่านกาลเวลามาหลายปีประสบการณ์จึงทำให้เดาออกแล้วตั้งแต่ครึ่งเรื่อง แต่ถึงอย่างนั้นบทที่หนึ่งก็ยังเล่นงานผู้เขียนได้อยู่ แต่หลังจากนั้นก็เป็นไปตามที่คิดไว้แล้วเรียกว่าโดนหลอกครั้งเดียวไม่ยอมให้หลอกซ้ำแต่นั่นไม่ได้ทำให้อรรถรสในการชมลดลงเพราะรายละเอียดแน่นหนามีความพลิกผันเล็กบ้างใหญ่บ้างระหว่างทางให้ได้สนุกได้ลุ้นไปกับสองนางเอก ที่น่าสนใจคืออยากรู้ว่าจุดจบของพวกผู้ชายจะเป็นยังไงเมื่อพวกผู้หญิงเอาคืนแบบสาสมใจเหมือนกับจะบอกว่าผู้หญิงถ้าจะทำอะไรผู้ชายก็ขวางไม่ได้ เพราะผู้ชายจะมีสิ่งที่ผู้หญิงไม่มีนั่นคือศักดิ์ศรีความเป็นชายที่หนังจัดการเสียย่อยยับทั้งบทของฮาจองอูและบทของโจจินอุงโดยเฉพาะขุนนางเก๊ฟูจิวาระที่แม้จะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ก็อาจไม่เหมือนเดิมเพราะศักดิ์ศรีความเป็นชายหนุ่มหล่อเหลาเจ้าเสน่ห์ ได้ถูกทำลายย่อยยับ จนกระทั่งบทสรุปของขุนนางเก๊ที่เป็นแม้จะดูสาสมใจแต่อย่างน้อยก็อาจจะดีสำหรับเขาผู้แทบไม่เหลือความเป็นชายอยู่อีกเลย แต่ไม่ว่ายังไงหนังมีความละเมียดสนุกพลิกผันไปมาเป็นอีกหนึ่งงานที่คู่ควรกับการขวนขวายหามาดูเพราะความเยี่ยมระดับนี้ไม่ใช่จะมีให้เห็นกันบ่อยๆดูไปบ่นไปขอบคุณภาพประกอบภาพปก,ภาพที่ 1,2,3,4,5,6,7,8,9,10 จาก ocean.cjenm.com หมายเหตุ ผู้เขียน "ดูไปบ่นไป" คือบุคคลเดียวกับ Facebook Fanpage ดูไปบ่นไป อ่านบทความผลงานของ "คิมแทรี" โดย "ดูไปบ่นไป" ได้ที่นี่รีวิวจัดเต็ม Mr.Sunshine : สุภาพบุรุษตะวันฉาย (2018) งานระดับมาสเตอร์พีซ ที่คำว่า "ยอดเยี่ยม" คงยังไม่พอรีวิวจัดเต็ม Twenty Five Twenty One : ยี่สิบห้า ยี่สิบเอ็ด (2022) "ความรัก ความฝัน แรงบันดาลใจ ยุคสมัย และความจริงของชีวิต"รีวิวจัดเต็ม Little Forest (2018) "งานที่น่าจดจำของ "คิมแทรี" ภาพสวยดีต่อตา เนื้อหาดีต่อใจ" จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !