เรียกได้ว่าเป็นปีของ โดราเอมอน หรือ โดเรม่อน ในไทยสุดๆ เพราะตอนนี้เขากำลังมีงาน "100% Doraemon & Friends Tour in Thailand" ณ ลานจัดแสดงที่ ICONSIAM นิทรรศการระดับโลกของการ์ตูนดังในตำนานอย่าง Doraemon ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย เนื่องในโอกาสการเฉลิมฉลองครบรอบ 90 ปีของโดราเอมอนและผองเพื่อน การ์ตูนเรื่องดังในตำนานที่มีเหล่าแฟนคลับอย่างล้นหลามไปทั่วโลก ในโอกาสอันดีนี้เราเลยอยากขอเชิญชวนเพื่อนๆ มาดูเรื่องราวความลับเกี่ยวกับ โดราเอมอน และ โนบิตะ ที่หลายๆ คนอาจยังไม่เคยรู้มาก่อน จะมีเรื่องราวน่าประหลาดใจแบบไหนกันบ้าง มาดูกันได้เลยจ้า รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! รวมความลับเกี่ยวกับ โดราเอมอน และ โนบิตะ ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน โดราเอมอน คือ หุ่นยนต์ที่ถูกปฏิเสธจากโรงงานผู้ผลิต เห็นว่าโดราเอมอน มีความรู้ ความสามารถ พร้อมกับของวิเศษมากมายแบบนี้ เราอาจเข้าใจกันว่าจะต้องเป็นตัวละครที่เก่งกาจมากๆ แต่แท้จริงแล้วโดราเอมอนกลับเป็นของที่โรงงานตีให้ตกเกรด ด้วยเหตุผลที่ว่ามีอุปกรณ์บางอย่างไม่สามารถทำงานได้ดีเท่าที่ควร เช่น หนวดเรดาร์และกระดิ่ง จนกระทั่งท้ายที่สุดโนบิ เซวาชิ (เหลนของโนบิตะ) มารับไปดูแล แรงบันดาลใจในการสร้างตัวละครโดราเอมอนมาจากตุ๊กตาล้มลุก ทราบหรือไม่คะว่าผู้เขียนการ์ตูนดังเรื่องนี้อย่างคุณ ฟูจิโกะ เอฟ. ฟูจิโอะ (Fujiko F. Fujio) ได้แรงบันดาลใจของเจ้าหุ่นยนต์แมวสีฟ้านี้มาจาก ตุ๊กตาล้มลุก ของลูกสาว เรื่องมาจากเขาต้องคิดไอเดียมังงะเรื่องใหม่ แต่คิดอย่างไรก็คิดไม่ออกจนผล็อยหลับไป สิ่งแรกที่เขาตื่นมาเห็นก็คือตุ๊กตาล้มลุกของลูกสาว ทำให้คุณฟูจิโอะหยิบเอารายละเอียดบางอย่างแล้วนำมาผสมผสานเข้ากับแมวจนได้มาเป็นโดราเอมอนในท้ายที่สุด สีเดิมของโดราเอมอน คือ สีเหลือง และมีหูด้วยนะ ข้อนี้หลายคนอาจเคยทราบมาบ้างแล้ว แต่หลายๆ คนก็อาจจะยังไม่เคยรู้มาก่อน เดิมทีโดราเอมอนถูกผลิตให้เป็นสีเหลืองแถมยังมีหูอีกด้วย แล้วทำไมโดราเอมอนจึงเป็นแบบที่เราเห็นกันในปัจจุบัน? นั่นเป็นเพราะวันดีคืนดีโดราเอมอนโดนหนูมาแทะหูจนเหี้ยนไปทั้ง 2 ข้าง!! (นี่ก็เป็นอีกเหตุผลที่ทำให้น้องม่อนของเรากลัวหนูมากๆ) เหตุการณ์นี้ทำให้โดราเอมอนสะเทือนใจและเศร้ามากๆ จนน้ำตาไหลเป็นสายน้ำ ส่งผลให้สีเหลืองที่เคลือบตัวเขาไว้หลุดออกจนกลายเป็นสีฟ้าอย่างที่เราคุ้นตา แถมโทนเสียงก็ยังเปลี่ยนไปอีกด้วย เหตุผลที่ทำให้โดราเอมอนชอบกินโดรายากิ ข้อนี้มีหลายๆ เหตุผลที่ถูกเล่ากันมา แต่จากเหตุผลที่ชัดเจนที่สุดนั่นอาจเป็นเพราะว่าอาจารย์ฟูจิโอะชื่นชอบขนมโดรายากิมากๆ จึงได้นำขนมชนิดนี้มาเป็นของโปรดของโดราเอมอนด้วย นอกจากนี้ยังมีเหตุผลอื่นๆ อีกด้วย เช่น ชื่อของโดราเอมอนมีความคล้ายคลึงกับโดรายากิ หรือว่าจะเป็นเหตุผลจากที่โนราเมียโกะ (แฟนเก่าของโดราเอมอน) ชอบซื้อขนมโดรายากิให้โดราเอมอนกินอยู่บ่อยๆ โดราเอมอนมีของวิเศษมากถึง 4,500 ชิ้น จากข้อมูลที่บันทึกว่ากันว่าจำนวนของวิเศษที่โดราเอมอนมีติดตัวอยู่ที่ประมาณ 4,000-4,500 ชิ้น โดยของวิเศษแรกที่เขาใช้เพื่อย้อนเวลามาหาโนบิตะคือ เครื่องไทม์แมชชีน โดยของวิเศษชิ้นนี้ถูกเก็บไว้ที่ลิ้นชักโต๊ะเรียนของโนบิตะ และของวิเศษอีกชิ้นที่ถูกใช้เพื่อช่วยโนบิตะเป็นอย่างแรกๆ นั่นคือ คอปเตอร์ไม้ไผ่ โนบิตะ คือ เจ้าของสถิติโลกด้านการหลับเร็ว!! เห็นว่าตัวละครโนบิตะขี้เซา ว่างเป็นหลับแบบนี้ ไม่ใช่ว่าจะหลับแบบทั่วไปเลยนะ เพราะเขาถือครองสถิติแชมป์โลกด้านการหลับเร็วมากที่สุดในโลก โดยใช้เวลาในการผล็อยหลับเพียง 0.93 วินาทีเท่านั้น เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ของคนขี้เซาโดยแท้ ความสามารถพิเศษด้ายการเล่นเกมพันด้าย หรือเกมอายาโทริ เกมของเด็กๆ ในยุค 90 ที่โนบิตะมาหยิบพรสวรรค์ข้อนี้ติดตัวมาด้วย โดยอาจารย์สอนเล่นเกมพันด้ายของโนบิตะก็คือคุณยายของเขานั่นเอง เราอาจจะเคยเห็นผ่านๆ ตาในอนิเมะมาบ้างว่าเวลาที่เล่นเกมพันด้ายโนบิตะสามารถเล่นได้อย่างคล่องแคล่วมากๆ ถึงแม้เพื่อนๆ รอบตัวของเขาจะไม่เห็นว่าเรื่องนี้สำคัญและเป็นเพียงความสามารถในระดับเด็กๆ ก็ตาม (โถ น่าเอ็นดู) โนบิตะ คือ ตัวละครที่ข้อบกพร่องหลายอย่าง แต่เป็นคาแรกเตอร์ที่สร้างแรงบันดาลใจได้ดี จากในมังงะหรืออนิเมะจะเห็นได้เลยว่า ตัวละครของโนบิตะเต็มไปด้วยข้อบกพร่องจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นความขี้เซา เข้าเรียนไม่ทันเวลาบ่อยๆ เรียนไม่เก่ง เล่นกีฬาก็ไม่โดดเด่น ขี้กลัว แถมยังออกไปทางลูกแหง่ที่ทำอะไรก็มักจะร้องไห้แล้ววิ่งไปขอความช่วยเหลือจากโดราเอมอนเสมอๆ ถึงแม้มองดูแล้วจะไม่ใช่คาแรกเตอร์ของพระเอกในอุดมคติก็ตาม แต่ตัวละครของโนบิตะก็มีข้อดีอื่นๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นความกล้าหาญและความเสียสละ ที่เราจะเห็นได้จากหลายๆ ตอนว่าโนบิตะยอมเป็นคนเสียสละเพื่อเพื่อนฝูงของเขาเสมอ แถมยังเป็นคนที่ซื่อสัตย์ ซื่อตรงและมั่นคงในเรื่องความรักมากๆ สื่อให้เราได้เห็นว่าคนเราไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบทุกเรื่องเสมอไป นักวิจัยชาวจีน ตั้งชื่อรอยเท้าของไดโนเสาร์ที่ถูกค้นพบด้วยชื่อของโนบิตะ!! ในปี 2020 มีนักวิจัยชาวจีนที่เป็นแฟนตัวยงของการ์ตูนโดเรมอน ได้ตั้งชื่อรอยเท้าไดโนเสาร์กินเนื้อ ขนาดประมาณ 4 เมตร ซึ่งเป็นสายพันธุ์ใหม่ว่า Eubrontes nobitai เพื่อเป็นเกียรติแก่ "โนบิตะ" อีกด้วยนะ!! โดยนักวิจัยท่านนี้ให้เหตุผลว่า ภาพยนตร์เรื่อง โดราเอมอน: ไดโนเสาร์ของโนบิตะ (ฉายปี 1980) และ โดราเอมอน: ไดโนเสาร์ตัวใหม่ของโนบิตะ (ฉายปี 2020) เป็นแรงบันดาลใจหลักของการตั้งชื่อรอยเท้าครั้งนี้ โดยเขาต้องการยกย่องให้โนบิตะเป็นแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่ให้เด็กๆ หลายคน (รวมถึงตัวเขาเอง) หันมาหลงใหลเกี่ยวกับไดโนเสาร์ โอ้โห!! อ่านข้อนี้แล้วขนลุกมากๆ ชื่อตัวละครของโนบิตะ ถูกปรับเปลี่ยนให้เข้ากับวัฒนธรรมของบางประเทศด้วยนะ เราอาจจะคิดว่าชื่อของโนบิตะ หรือ Nobita Nobi จะถูกเรียกด้วยชื่อเดียวกันนี้ทั่วโลก แต่แท้จริงแล้วมีหลายประเทศที่ดัดแปลงชื่อของโนบิตะในภาพยนตร์บางภาคเพื่อให้เข้ากับวัฒนธรรมและบริบทของผู้ชมในประเทศ เช่น Noby ของประเทศสหรัฐอเมริการวมถึงประเทศอังกฤษ, Sidney ในประเทศแคนาดา, Specky ในประเทศมาเลเซีย (อ้างอิงจากที่ตัวละครของเขาสวมแว่น) โนบิตะได้รับความช่วยเหลือจากหลานในศตวรรษที่ 22 ทราบหรือไม่คะว่า ผู้ที่ส่งหุ่นยนต์แมวจากโลกอนาคตมายังปีปัจจุบัน คือ เซวาชิ โนบิ (Sewashi Nobi) ที่เป็นรุ่นเหลนของโนบิตะ เพื่อหวังเปลี่ยนแปลงอนาคตของวงศ์ตระกูล โดยหากโนบิตะไม่ได้รับความช่วยเหลือจากโดราเอมอน เขาจะโตไปเป็นหนุ่มวัยทำงานที่ประสบความล้มเหลวบ่อยมาก มีภาระหนี้สินรัดตัวจนถึงขั้นล้มละลาย ลูกหลาน เหลน ลื่อในอีกหลายๆ รุ่นถัดไปจะต้องใช้ชีวิตกันอย่างยากลำบาก จึงเป็นเหตุของการส่งหุ่นยนต์มาให้ความช่วยเหลือแก่โนบิตะ และนี่ก็เป็นรวมความลับเกี่ยวกับโดราเอมอน และโนบิตะที่หลายๆ คนอาจยังไม่เคยรู้มาก่อน เรียกได้ว่าเป็นการ์ตูนที่ไม่ใช่แค่เพียงเรื่องราวในภาพวาดหรืออนิเมะในจอโทรทัศน์ แต่กลายเป็นเรื่องเล่า เป็นตำนาน ที่จับใจเหล่าผู้ชมได้อย่างแน่นแฟ้น กลายเป็นความผูกพันธ์ระหว่างกันที่นับจากวันที่เริ่มสร้างการ์ตูนเรื่องนี้ขึ้นมาก็เป็นเวลารวมกว่า 90 ปีแล้ว อยู่ด้วยกันไปอีกนานแสนนานเลยนะ โดราเอมอน โนบิตะ และผองเพื่อนทุกๆ คน!! ภาพหน้าปก 1 จาก 【ドラえもん公式】ドラえもんチャンネル ภาพในเนื้อหา 1 2 3 4 5 6 จาก 【ドラえもん公式】ドラえもんチャンネル เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !