รีวิว Fullmetal Alchemist: The Final Alchemy (แขนกลคนแปรธาตุ: ปัจฉิมบท) ภาคสุดท้ายที่พอดูได้และดีกว่า 2 ภาคแรก บทความรีวิวนี้ ถูกเขียนขึ้นมาจากความรู้สึกส่วนตัวของผม หากผิดพลาดประการใด หรือไม่ถูกใจใครต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ แต่ก่อนจะมาเริ่มการรีวิวเรามาดูเรื่องย่อกันก่อนดีกว่าเรื่องย่อ Fullmetal Alchemist: The Final Alchemy (แขนกลคนแปรธาตุ: ปัจฉิมบท)ภาพยนตร์เรื่องนี้นับเป็นภาคที่ 3 ซึ่งต่อจาก Fullmetal Alchemist The Revenge of Scar (2021) ที่เพิ่งออกฉายทาง Netflix ไปเมื่อไม่นานมานี้ ภาคนี้จะเล่าต่อจากภาคที่แล้ว หลังจากที่เอ็ดเวิร์ด องค์ชายหลิน และเอ็นวี่ถูก กลัตโตนีกลืนกินเข้าไป เอ็ดเวิร์ดได้หาทางหลุดพ้นออกมาจากท้องของกลัตโตนีได้สำเร็จ ซึ่งในขณะนั้นกลัตโตนีกำลังอยู่กับชายที่เปรียบเสมือนพ่อของพวกโฮมุนครุส ทำให้เอ็ดที่ออกมาได้เจอเข้ากับวายร้ายตัวจริงเสียที หลังจากเจอกันเอ็ดก็ได้รู้ว่าพวกนี้กำลังวางแผนการใหญ่ที่อาจคร่าชีวิตผู้คนจำนวนมาก เอ็ดและพรรคพวกต้องหาทางที่จะหยุดยั้งแผนการในครั้งนี้ และต้องหาทางที่จะรักษาอัลให้กลับมามีมาร่างกายเหมือนเดิมให้ได้ สุดท้ายแล้วเรื่องราวทั้งหมดจะลงเอยอย่างไร พวกเขาจะต้องพบเจอกับอุปสรรคอะไรบ้างนั้น ทุกคนต้องไปรับชมด้วยตาตัวเอง Fullmetal Alchemist : The Final Alchemy (แขนกลคนแปรธาตุ: ปัจฉิมบท) รับชมได้แล้ววันนี้พร้อมพากย์ไทยทาง Netflixตัวอย่าง Fullmetal Alchemist: The Final Alchemy (แขนกลคนแปรธาตุ: ปัจฉิมบท)รีวิว Fullmetal Alchemist: The Final Alchemy (แขนกลคนแปรธาตุ: ปัจฉิมบท)ส่วนตัวมองว่าภาคนี้ยังพอโอเคกว่า 2 ภาคแรก แต่ที่ดีกว่าเดิมคือน่าจะเป็นเพราะบทซึ่งอิงมาจากการ์ตูนที่มันมีมุมมองที่น่าสนใจ คือพอดูแล้วรู้เลยว่าการ์ตูนต้นฉบับต้องดีแน่ๆ ถ้ามีการพูดถึงเรื่องเหล่านี้ ทั้งเรื่องแก่นแท้ที่จะต้องสูญเสียสิ่งที่เราหวงแหนไป และยังมีอีกหลายประเด็นที่น่าหยิบยกมาเล่น แต่ก็พอเข้าใจเพราะนี่เป็นหนังมันจึงไม่ได้มีเวลาอะไรมากมาย เขาก็จะเน้นขายแอ็คชั่นเยอะๆ และเกาะเนื้อหลักที่เป็นแกนเอาไว้ ซึ่งภาคนี้นับว่าทำได้ดีไม่ได้เน้นแต่แอ็คชั่นมากมายแถมยังมีเนื้อเรื่องที่น่าสนใจ แต่ก็ยังมีหลายฉากที่มันง่ายเกินไปมาก อย่างตอนที่อยู่ดีๆ ก็นึกขึ้นได้และเอางานวิจัยเทบนพื้น หลังจากนั้นแปปเดียวก็รู้แผนตัวร้ายแล้ว ซึ่งมันง่ายเกินไปและไม่สมเหตุสมผลเลย ยังดีที่การดำเนินเรื่องยังพอน่าติดตามและดึงดูดได้บ้าง ต่อมาด้านการแสดง ในส่วนนี้ยังคงทำได้ในมาตรฐานเดิม คือการแสดงแบบญี่ปุ่น ซึ่งหากใครที่ดูหนังญี่ปุ่นมาบ่อยแล้วก็ไม่น่าจะติดอะไรนะ คือเขาแสดงแบบในการ์ตูนเลย แสดงแบบโอเวอร์จัดเต็ม ส่วนตัวผมมองว่าทุกคนแสดงได้ดีตามมาตรฐานหนังญี่ปุ่นเลย ซึ่งใครชอบก็จะชอบไปเลย แต่ถ้าคนไม่ชอบก็ไม่ชอบไปเลย อันนี้แล้วแต่รสนิยมจริงๆ ตัวผมเองก็อยู่ในเกณฑ์ไม่ได้ชอบเท่าไหร่ แต่ก็ยังดูได้และไม่ได้ขัดใจขนาดนั้น เพราะดูหนังญี่ปุ่นมาเยอะแล้วเหมือนกันเลยอาจจะชินไปแล้ว น่าเสียดายอย่างเดียวคือเรื่องนี้น่าจะให้ฝั่งฮอลลีวู้ดทำเพราะตัวละครต่างๆ ล้วนชื่อเป็นฝรั่งทั้งนั้น สถานที่ก็ยุโรปอีกต่างหาก พอมาเป็นนักแสดงญี่ปุ่นมันเลยดูแปลกๆ ไปบ้าง ในด้านของฉากแอ็คชั่นก็นับว่าทำได้ดีใช้ได้ แต่ก็ยังไม่ดีมากพอให้น่าจดจำอยู่ดีส่วนสุดท้ายคือด้านงานภาพและการโปรดักชั่น ส่วนนี้ก็ทำได้เหมือนกับ 2 ภาคที่ผ่านมานั่นแหละ งาน CGI ยังลอยๆ ไปบ้างแต่ก็ไม่ได้แย่นะ ถือว่าโอเคและพอดูได้อยู่ แต่หากใครติดหนังฮอลลีวู้ดชอบดูงานเนี๊ยบๆ ก็อาจจะขัดใจและทนดูไม่ได้ก็ได้ การโปรดักชั่นก็เหมือนเดิมเลย เสื้อผ้าหน้าผมดูการ์ตูนๆ ไม่ได้ดูสมจริงสมจังอะไรมากมาย ฉากก็ดูรู้เลยว่าเซ็ทขึ้นมา แต่ก็ถือว่าพอถูไถและพอดูไปได้เพลินๆ ไม่ได้แย่ไปซะทีเดียว สรุปโดยรวมคือ ภาคนี้ทำได้ดีกว่า 2 ภาคแรกนิดหน่อย ดำเนินเรื่องได้ดีกว่าเดิมและดูยิ่งใหญ่กว่าเดิม มีฉากอลังการเยอะขึ้น แอ็คชั่นจัดเต็มมากขึ้น ใครที่ชอบดูแนวนี้ก็ลองไปหาดูกันได้ ไม่ได้แย่อย่างที่คิด อย่างไรก็ตาม อย่าเชื่อที่ผมรีวิว เพราะบางคนอาจจะไม่ชอบไปเลยก็ได้ ดังนั้น ทุกคนจึงต้องลองไปพิสูจน์ด้วยตาตัวเอง สุดท้ายนี้ ฝากกดแชร์ และกดติดตามด้วยนะครับชื่อเรื่อง : Fullmetal Alchemist: The Final Alchemy (แขนกลคนแปรธาตุ: ปัจฉิมบท)แนว : แฟนตาซี, แอ็คชั่น, ดราม่าความยาว : 144 นาทีระบบเสียง : เสียงไทยและบรรยายไทยช่องทางการรับชม : Netflixช่องทางอื่นๆในการติดตาม ละเลงหนังFacebook Fanpage : ละเลงหนังกลุ่มสำหรับพูดคุยเรื่องหนัง : พูดคุยเรื่องหนังทุกเรื่องบนโลก By ละเลงหนังบทความอื่นๆของ ละเลงหนัง :รีวิว Cyberpunk: Edgerunners อนิเมะโคตรดีที่อยากให้ทุกคนได้ดู แอ็คชั่นจัดเต็ม ดราม่าตับพัง และเต็มไปด้วยเสน่ห์ที่เหลือล้นรีวิว Big Mouth ซีรีส์อาชญากรรมสุดเข้มข้นจากเกาหลี เรื่องราวของทนายที่ถูกใส่ร้ายว่าเป็นอาญชกรเบอร์หนึ่งรีวิว Drifting Home (บ้านล่องลอย) ภาพยนตร์แอนิเมชั่นน้ำดีจาก Netflix เรื่องราวของกลุ่มเด็กที่ติดอยู่บนตึกลอยน้ำรีวิว ATHENA (อเธน่า) หนังแนวสงครามกลางเมืองจากฝรั่งเศส ถ่ายทอดได้อย่างสมจริงด้วยฉาก Long Take สุดเท่รีวิว Thai Cave Rescue (ถ้ำหลวง: ภารกิจแห่งความหวัง) ซีรีส์ฝีมือคนไทยจาก Netflix ที่อัดแน่นไปด้วยดราม่าเรียกน้ำตา และมุมมองใหม่ๆ ที่ไม่เคยเห็นแหล่งที่มาของรูปภาพและวิดีโอภาพปก : ภาพที่ 1 จาก Twitter : hagarenmovieภาพประกอบ : ภาพที่ 1 จาก Facebook : NetflixTH / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 ภาพที่ 2-4 จาก Twitter : hagarenmovieวิดีโอ : แขนกลคนแปรธาตุ: สการ์ชำระแค้น / ปัจฉิมบท | ตัวอย่างภาพยนตร์อย่างเป็นทางการ | Netflixจาก Youtube : Netflix Thailand จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !