“ปู มัณฑนา” ร่ำไห้ ไม่รู้ใครไปยุยง ลั่นเป็นหนี้ก็ต้องใช้คืน
“ปู มัณฑนา” ร่ำไห้ ไม่รู้ใครไปยุยง ลั่นเป็นหนี้ก็ต้องใช้คืน
ดูจะไม่จบง่ายๆ สำหรับประเด็นร้อนเรื่องของ “ปู มัณฑนา” กับนางแบบ “ลูกหมีรัศมี ทองสิริไพรศรี” จากปัญหาการกู้ยืมเงิน 2 ล้านบาท จนกลายเป็นประเด็นใหญ่โต ล่าสุด “ปู มัณฑนา” พร้อมสามี และ ทนาย ได้ออกมาแถลงร้องไห้เปิดใจถึงเรื่องดังกล่าวว่า
คือวันนั้นในห้องไกล่เกี่ย มีผู้ไกล่เกลี่ย 4 ท่าน และมีทนายฝั่งเขา มีพี่ลูกหมีอยู่ ทุกคนโอเค พี่ลูกหมีโอเค อยู่ที่ยอดหนี้ตามจริง ปูเลยถามว่า พี่จะเยียวยา ชดเชย ให้พี่ปูยังไง เรื่องทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง พี่ลูกหมีบอกว่า จะดำเนินการขอโทษทุกรายการ แล้ววันนั้นก็มีการขอโทษในห้อง และบอกว่า จะออกไปขอโทษต่อหน้าสื่อ แต่อยู่ๆ ก็มีคนเดินเข้ามาบอกว่า ผมไม่ให้ลูกความผม แล้วก็กลายเป็นอีกแบบทั้งที่วันนั้นจะจบด้วยดีแล้วนะ ไม่ใช่ลดให้เรานะคะ แต่ที่จริง 1.4 ล้าน มันคือมูลหนี้จริง
เขาโอเคตั้งแต่วันนั้นแล้วว่า จ่ายยอดตามหนี้จริง ไม่ใช่เขาลดให้เรา แต่พี่ปูไม่รู้ว่าใครยุยงให้เขาพูดหรือเปล่าว่า ให้เริ่มต้น 2 ล้าน แต่พอมีคนมายุ พูดอีกเรื่องนึงเลยค่ะ ในวันนั้น ลูกหมีบอกต่อหน้าเจ้าหน้าที่ว่า จะตะเวนสายขอโทษจบแล้วก็จ่าย จ่ายก้อนเดียวเลยค่ะ ไม่เคยบอกว่าไม่จ่ายนะคะ เราติดต่อตลอด มีแชทไลน์ ไม่เคยห่างหายไปไหน แม้แต่ตอนที่แจ้งความยังยินดีเรื่องลูกสอบติด
พี่ลูกหมีเขาบอกเองว่า ไม่ว่าจะรายการไหน ก็จะขอโทษเรา ในเรื่องเช็ก พี่ลูกหมีรู้ดีค่ะ ว่าเป็นสิ่งค้ำประกัน ไม่ใช่ให้เขาไปขึ้น เรื่องเซ็นกระดาษเปล่า เขาส่งสัญญาเงินกู้มาโดยไม่ได้บอกให้เซ็นอะไรเลย เราก็ถามเรื่องให้เขียนรายละเอียดหรือเปล่า เขาบอกไม่ต้องเดี๋ยวเขาผิดกฏหมาย
ตอนนั้นมูลหนี้จริงที่ทำธุรกิจด้วยกัน 2.7 ล้านบาท แต่ก็มีการจ่ายไปจนมาอยู่ที่ยอดหนี้ 1.4 ล้านบาท ธุรกิจที่ทำกันหลายคน บางคนเป้นเพื่อนของเพื่อน แต่เขาเอามายืนเป็น 10 คน เพื่อให้เป็นคดีฉ้อโกง บางคน เขาไม่ได้ออกมา เพราะเขารู้ว่าได้ผลประโยชนกันอย่างไร ที่ยืนเรียง 10 คน เหมือนเป็นเจ้าหนี้พี่ปู พี่ปูรู้จักคนเดียว ทัง้นี้พี่ปูยืนยันว่า ไม่ได้พูดว่า ไม่รู้จักพี่อ้อม
ถามว่าเจ้าหนี้เยอะจริงมั้ย คือไม่เยอะ ที่พี่ลูกหมีบอกว่า 8 ล้านภูเก็ต คือใครค่ะ ออกมาพูดสิค่ะ ที่พี่หนุ่มบอกว่า มีช่างแต่งหน้าที่พี่ปูยืมเงิน ใครค่ะ ออกมาเลยค่ะ ส่วนน้องนางเอกช่อง 7 ไม่อยากพูดเดี๋ยวเขาจะเสียหาย ถ้าบอกว่าเป็นหนี้จริง ให่ส่งหลักฐานมาที่บริษัท ยู ซัมมิท กรุ๊ป จำกัดค่ะ ไม่ขอโทษค่ะ เป็นหนี้ก็ต้องใช้ ลิลลี่เคยบอกว่าจะเป็นพยานให้เราว่าโดนหลอก 5 แสน เป็นหนี้ต้องคืนทุกคน
ด้าน “หาญส์ หิมะทองคำ” บอกต่อว่า ที่อยากให้ส่งหลักฐานการยืมเงินมาบริษัท เพราะเป็นบริษัทเรื่องการเงิน อยากทำให้เป็นระบบ เพื่อให้ทุกคนเข้ามาอยู่ตรงนี้ จะได้เป็นระบบ นี่คือคำตอบ ตอนยืม ยิมผ่านบุคคล ทำไมต้องให้ไปทวงผ่านบริษัท ไม่งั้นผมไม่ทราบว่า คือใคร เพราะคุณทำธุรกรรมกันเอง ผมไม่เคยรู้
พี่ปูไม่ได้ยืมเงินใครนะคะ พี่ลูกหมีเป็นคนเสนอ เรื่องการทำธุรกิจ อยากให้ยืมเงินมาปล่อยดอก เลยเป็นที่มาของการยืมเงินค่ะ ส่วน 2 ล้านไม่มีอยู่จริง ไม่เคยมีหลักฐานตรงนี้ บางคนที่ทำธุรกิจร่วมกันเขาก็อยากให้เอาเงินเขามาปล่อยดอก " ส่วนเรื่องที่สามีทราบไหมเรื่องการยืมเงินที่เกิดขึ้น ปู กล่าวว่า "เป็นเรื่องแม่บ้าน อยากมีรายได้เลยมาทำธุรกิจให้ยืมเงินกัน สามีไม่เคยทราบ"
เรื่องที่บอกว่าถังแตก มีเงินแค่ 4 บาท ไม่ใช่ค่ะ วันนั้นน้องลิลลี่ พาน้อง ก.ไก่ มา แล้วเขาก็เล่าว่ามีปัญหาอะไรบ้างในชีวิต จังหวะเดียวกับที่ปูก็เล่าว่า มีปัญหาเรื่องที่ดิน และ ก.ไก่ บอกว่า รู้จักอัยการสามารถช่วยเหลือได้ เขาขอยืมเงิน 5 แสน แล้วเพิ่งรู้จักกันวันนั้นจะให้โอนเหรอ ประจวบเหมาะกับลูกโทรมาขอเงินเล่นเกม เลยเป็นที่มา ลิลลี่ เลยบอกจะโอนเงินให้หลานแทน ซึ่งวันต่อมา เราก็คืนเขาเลยนะคะ
ด้าน “ปู” ยังเล่าต่ออีกว่า พี่ลูกหมียังไปบอกทุกพรรคการเมือง จนเจ้านายสามีโทรมา ทำให้เราร้องไห้เสียใจ ที่เราทำให้สามีเสื่อมเสียชื่อเสียง เพราะเขาไปพูดกับหลายพรรคมาก คือตอนนี้มีคนแอดไลน์ ปูมาเยอะมาก ทั้งตัวจริง ตัวปลอม ถ้าเป้นหนี้จริง ส่งหลักฐานมาก เพราะเรารู้อยู่แล้วว่า ใครทำธุรกิจกับเรา
กรณี อ้อม ที่ออกมาปรากฏตัวว่า เป็นเจ้าหนี้อีกราย ปู ชี้แจงถึงเรื่องนี้ว่า ตัวคุณอ้อมปล่อยดอกอยู่แล้ว และเคยถามว่า เพื่อนพี่ปูจะเอาไปลงทุนทำอะไร เขาให้พี่ปูพยายามเขียนว่า เป็นเงินปันผล ปูก็ไม่รู้ข้อกฏหมายว่าที่ให้เขียนแบบนั้นคืออะไร มีกระเป๋า มีนาฬิกา มีธุรกิจจริง ส่งข้อมูลให้ทนายแล้ว พี่ทำธุรกิจกับเพื่อนหลายคน ในส่วนที่ออกมาบอกว่าเราเป็นหนี้ อยากให้ส่งหลักฐานมาที่บริษัท หนี้ 6 ล้านไม่มีอยู่จริง ไม่ถึง 16 ล้านที่เคยมีข่าวออกมาค่ะ และพี่ลูกหมีรู้อยู่แล้วว่า เขาปล่อยดอกทุก 3 เดือน แล้วบอกให้เราเขียนเช็คล่วงหน้ามา แต่ตอนหลังบอกว่า จะปล่อยเป้นเดือนๆ ทั้งที่เราบอกเพื่อนไปแล้ว และมีแชทไลน์บอกหมด ที่ว่าอันไหนจ่ายช้าบวกเพิ่ม มีแชทไลน์ครบที่บอกว่า ปล่อยดอกต่อ
เรื่องน้องลิลลี่ ไม่ทราบว่า ไปโดนใครยุ ถึงได้ด่าเราแรงมาก ทั้งที่เราเพิ่งไปกินเที่ยวด้วยกัน ยอมรับว่าเสียใจ แต่ไม่เคยโกรธเลย ไม่ถือสา รู้อยู่ว่าน้องเป็นไง น้องเขาอยากเป็นดารา นักแสดง แล้วที่พาเขาไปกองถ่าย เพราะเขาอยากเจอสองดาราที่เขาจะคุยธุรกิจ ซึ่งเราไม่ได้ไปยุ่งด้วย เรารักน้องลิลลี่เหมือนเดิม แต่คดีความก็ค่อยว่ากันไป พี่ปูยังไม่ได้บอกว่า ฟ้องลิลลี่นะคะ ขอปรึกษาทนายก่อน ขอกลับไปคิดให้ใจเย็น ยังไม่คิดฟ้องใคร แต่ก็โดนด่าเยอะเหมือนกัน ที่จริงไปทานอาหารด้วยกันบ่อยมาก พี่อายุมากที่สุดในกลุ่ม แล้วเลี้ยงน้องๆมาตลอด 2 ปี แต่การที่เขาเลี้ยงเรามื้อเดียวพูดเหมือนเป็นบุญคุณ เอาไปพูดตลอด