เชื่อได้ว่าคุณผู้อ่านทุกท่านคงเคยจะได้ยินชื่อภาพยนตร์ไทยที่ชื่อเรื่อง "หลานม่า" กันมาบ้างแล้ว และก็คงเคยรับชมกันบ้างแล้วในโรงภาพยนตร์ก็คงจะทราบว่ามันมีความซาบซึ้งกินใจมากขนาดไหนใช่ไหมล่ะครับ และเมื่อภาพยนตร์มีการสร้างอารมณ์อันมากมายให้กับคุณผู้ชมคนไทยมากแค่ไหน ชาวต่างชาติที่ได้รับชมภาพยนตร์เรื่องนี้ในช่วงเวลาต่อมาก็ต้องบอกและยอมรับว่า ภาพยนตร์อย่าง "หลานม่า" ทำเรื่องราวออกมาให้ซาบซึ้งกินใจจริงๆ จนผลักดันทำให้ภาพยนตร์หลานม่าเป็นที่รู้จัก และในฐานะของแต้มเอง ที่เรียนภาพยนตร์ในประเทศจีนและได้เห็นกลุ่มตลาดผู้รับชมในต่างประเทศที่ได้รับชมภาพยนตร์หลานม่ามาแล้ว วันนี้ แต้มเอง จะมาวิเคราะห์ภาพยนตร์ หลานม่า กับการเป็นกระจกสะท้อนความทรงจำและความสำเร็จของภาพยนตร์ไทยในสายตาชาวจีนกันครับ รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! https://www.instagram.com/p/C-69uOItcoq/ เกริ่นก่อนว่าการวิเคราะห์ทั้งหมดเป็นความคิดและมุมมองของแต้มเองเท่านั้นนะครับ หากคุณผู้อ่านรู้สึกอย่างไรก็สามารถมาพูดคุยกันได้ในช่องแสดงความคิดเห็นครับ ภาพยนตร์เรื่อง "หลานม่า" นั่น ไม่ได้เป็นเพียงผลงานที่สะท้อนความซาบซึ้งในสายสัมพันธ์ครอบครัวเท่านั้นครับ แต่ยังเป็นตัวแทนของการเล่าเรื่องที่เข้าถึงใจผู้ชมในระดับสากล โดยเฉพาะกลุ่มผู้ชมชาวจีนที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม อย่างที่เราได้เห็นภาพตามโซเชียล ที่ชาวจีนเข้าไปรับชมภาพยนตร์ด้วยความสนุกสนาน และเดินออกมาน้ำตาไหลทุกคน เพราะงั้นครับ ความสำเร็จของภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากโชคช่วย แต่มาจากการผสมผสานระหว่างเนื้อหา การแสดง และการสร้างบริบทที่เชื่อมโยงกับวัฒนธรรมและอารมณ์ร่วมของผู้ชมได้อย่างแนบเนียนเลยก็ว่าได้ https://www.instagram.com/p/C-XcI_VRNiI/ การเล่าเรื่องที่เข้าถึงอารมณ์ของผู้ชม"หลานม่า" เลือกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างคนรุ่นใหม่และคนรุ่นเก่าที่มีพื้นฐานมาจากความรัก ความเสียสละ และความหวังในครอบครัว ซึ่งถือว่าเป็นหัวข้อที่จับใจและเป็นสากลในหลายวัฒนธรรมครับ โดยเฉพาะในจีนที่ครอบครัวมีบทบาทสำคัญต่อชีวิตประจำวัน ผู้ชมชาวจีนเองก็อาจรู้สึกเหมือนเห็นภาพชีวิตตัวเองผ่านตัวละครในเรื่อง ทั้งความขัดแย้งระหว่างวิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่ที่ต้องออกไปทำงานในเมืองใหญ่และคนรุ่นเก่าที่ยังยึดมั่นกับชีวิตชนบท ก็ถูกนำเสนออย่างลึกซึ้งและซาบซึ้ง ตัวละครในเรื่องไม่ใช่เพียงแต่เป็น "ตัวแทน" ของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่ยังสะท้อนความเป็นมนุษย์ที่ซับซ้อนและมีหลายมิติ ทำให้ผู้ชมรู้สึกเชื่อมโยงได้ง่ายนั่นเองครับ https://www.instagram.com/p/C-CzGT5Tquo/ การสร้างตัวละครที่น่าจดจำตัวละคร "หลานม่า" ซึ่งเป็นอาม่าเหม้งจูของตัวเอกในเรื่อง ไม่ได้เป็นเพียงตัวละครสมทบ แต่กลับกลายเป็นแกนหลักของเรื่องราว อาม่าไม่ได้ถูกสร้างให้เป็นเพียงผู้เฒ่าที่อ่อนแอหรือเรียบง่าย แต่เต็มไปด้วยพลัง ความอดทน และความรักที่ไม่มีเงื่อนไข ความสัมพันธ์ระหว่างอาม่ากับหลานชายจึงเปรียบเสมือนการเชื่อมโยงระหว่างอดีตและอนาคต การสร้างตัวละครนี้ให้มีความลึกซึ้งและมีความเป็นมนุษย์ ทำให้ผู้ชมรู้สึกผูกพันและอยากติดตามชีวิตของอาม่านั่นเอง https://www.instagram.com/p/C8WMjd5S0x5/ ด้วยความที่บริบทวัฒนธรรมและการเชื่อมโยงกับผู้ชมชาวจีนการตั้งค่าของภาพยนตร์ในบริบทชนบทที่เรียบง่ายและงดงาม มันก็เลยสะท้อนถึงชีวิตชนบทในประเทศจีนได้เป็นอย่างดีครับ ทั้งเรื่องของทัศนียภาพและวิถีชีวิตในเรื่อง ก็ยิ่งทำให้ความรู้สึกเหมือนจริง จนผู้ชมชาวจีนอาจรู้สึกเหมือนกลับไปเยี่ยมบ้านเกิด ความใส่ใจในรายละเอียดเหล่านี้ เช่น การใช้ภาษาท้องถิ่น อาหารพื้นบ้าน และเทศกาลประจำปี ไม่ได้เป็นเพียงฉากหลังของเรื่อง แต่เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เรื่องราวมีความหมายและมีชีวิตชีวา เพราะโดยพื้นฐานจากการรับชมเนื้อหาในเรื่อง เราก็จะเห็นความเชื่อมโยงไปยังครอบครัวของคนจีนได้นั่นเอง นอกจากในส่วนของเรื่องราวที่เป็นจุดเด่นและน่าสนใจแล้ว เรื่องของการตลาดและการเข้าถึงผู้ชมความสำเร็จของ "หลานม่า" ก็เรียกได้ว่ามีชั้นเชียงที่ดีเช่นเดียวกันครับ ซึ่งการนำเสนอภาพยนตร์โดยผ่านโซเชียลมีเดียและแพลตฟอร์มสตรีมมิงในจีน ก็ยิ่งช่วยให้ภาพยนตร์เข้าถึงกลุ่มผู้ชมได้กว้างขึ้น https://www.instagram.com/p/C7jFm5QtZhd/?img_index=1 นอกจากนี้ การที่เรื่องราวสะท้อนถึงคุณค่าและความรู้สึกที่ชาวจีนสามารถเข้าใจได้ง่าย ทำให้ภาพยนตร์กลายเป็นหัวข้อที่ถูกพูดถึงในวงกว้าง ความสำเร็จของ "หลานม่า" ไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่รายได้จากการฉาย แต่ยังกลายเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้สร้างภาพยนตร์รุ่นใหม่ที่ต้องการเข้าถึงตลาดจีน อย่างในข้อมูลล่าสุด มียอดการจำหน่ายบัตรรับชมภาพยนตร์เรื่องหลานม่า (ในภาษาจีนคือ 姥姥的外孙) มากกว่า 127 ล้านหยวน หรือประมาณ 608.48 ล้านบาทไปแล้วครับ นี่เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของภาพยนตร์ในเรื่องหลานม่ามากๆ เลย เรียกได้ว่าเราได้บทเรียนต่อวงการภาพยนตร์ไทยที่มาจากความสำเร็จของ "หลานม่า" ซึ่งชี้ให้เห็นถึงพลังของการเล่าเรื่องที่จริงใจและเข้าถึงอารมณ์ผู้ชม การสร้างตัวละครและบริบทที่สมจริงและลึกซึ้งสามารถช่วยให้ภาพยนตร์ทะลุพรมแดนวัฒนธรรมและกลายเป็นที่นิยมในตลาดต่างประเทศได้ แต้มเองก็เชื่อว่าภาพยนตร์ไทยสามารถเรียนรู้จากตัวอย่างนี้ได้ หากผู้สร้างภาพยนตร์หันมาให้ความสำคัญกับการเล่าเรื่องที่ใกล้ชิดกับชีวิตประจำวันของคนไทย และสะท้อนคุณค่าที่เป็นสากล ในขณะเดียวกันก็ต้องไม่ละเลยการศึกษาความต้องการและความชอบของผู้ชมในตลาดเป้าหมาย https://www.instagram.com/p/C7OPotEyY8U/ และในสุดท้ายแล้ว "หลานม่า" ไม่ได้เป็นเพียงภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จในเชิงพาณิชย์เท่านั้น แต่ยังเป็นตัวแทนของการสร้างความเชื่อมโยงทางอารมณ์ระหว่างวัฒนธรรมไทยและจีน ซึ่งเป็นสิ่งที่แต้มมองว่าน่าภาคภูมิใจและควรค่าแก่การศึกษาในเชิงลึกต่อไปครับ ว่าแต่คุณผู้อ่านไปรับชมภาพยนตร์เรื่องหลานม่ามาแล้ว คิดเห็นอย่างไร ก็สามารถมาพูดคุยกันได้ในช่อง “แสดงความคิดเห็น” ได้เลยนะครับ แต้มเอง เป็นพื้นที่ในการเล่าเรื่องราวที่น่าสนใจที่แต้มได้ไปเจอมา ทั้งสถานที่ อาหาร การใช้ชีวิต และเรื่องราวการเรียนอีกสารพัด ฝากกดติดตามด้วยนะครับ เครดิต รูปภาพหน้าปก รูปที่ 1 จาก - gdh559 รูปภาพประกอบบทความ รูปที่ 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 จาก - gdh559 ฝากติดตาม · แต้มเอง เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !