รีเซต

จับตา! “ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก” กับความท้าทายบท “มุนินทร์–มุตา” รีเทิร์นตำนาน “แรงเงา”

จับตา! “ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก” กับความท้าทายบท “มุนินทร์–มุตา” รีเทิร์นตำนาน “แรงเงา”
TNN ช่อง16
8 ธันวาคม 2568 ( 12:17 )
39

ละครระดับตำนานอย่าง “แรงเงา” กำลังกลับมาเขย่าวงการอีกครั้งในเวอร์ชันใหม่จากช่อง ONE และหนึ่งในความน่าสนใจที่สุดคือการจับคู่ให้ ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ มารับบท มุนินทร์–มุตา ฝาแฝดที่ทั้งเข้มข้นและซับซ้อนในระดับที่เรียกว่าบทพิสูจน์ฝีมือของนักแสดงตัวท็อปเท่านั้น

สำหรับคอละครไทย “แรงเงา” ไม่ใช่แค่ละคร แต่คือปรากฏการณ์ที่เคยสร้างประวัติศาสตร์มาแล้วหลายครั้ง ทั้งเวอร์ชันต้นฉบับและรีเมกก่อนหน้า ต่างได้รับกระแสตอบรับอย่างล้นหลาม ฉากเด็ดหลายฉากถูกพูดถึงจน “ถนนโล่ง” กลายเป็นคำจำกัดความในยุคที่ละครออกอากาศ เพราะผู้ชมเทไปนั่งหน้าจอตามดราม่าเข้มข้นชนิดหยุดหายใจ จึงไม่น่าแปลกใจที่การทำเวอร์ชันล่าสุดนี้จะถูกจับตามองเป็นพิเศษว่าผลงานจะออกมาในทิศทางไหน และนักแสดงยุคใหม่จะตีความตัวละครระดับตำนานอย่างไร

ใบเฟิร์นยอมรับตรงไปตรงมาว่า บทนี้ “ไม่แน่ใจว่าจะเอาอยู่ไหม” แต่ความท้าทายครั้งใหญ่ก็ทำให้เธอตั้งใจเต็มที่ เธอกล่าวว่า

“เฟิร์นก็จะทำให้ดีที่สุด เพราะว่าเราได้รับโอกาส และผู้ใหญ่ก็หมายมั่น… เราเองก็ต้องรอดูว่าเรื่องจะออกมาในทิศทางไหน เพราะตอนนี้ยังมีการปรับแก้อยู่”

ด้วยความที่เวอร์ชันก่อนประสบความสำเร็จสูงมาก ใบเฟิร์นเองก็ศึกษาจากคลิปที่ถูกตัดมา แม้จะไม่ได้ดูทั้งหมด แต่ก็รับรู้ถึงความเป็น “งานระดับตำนาน” ของฉากต่าง ๆ ที่ยังคงถูกพูดถึงถึงวันนี้ เธอบอกว่า เธอเองยังไม่รู้ว่าบทจะออกมาในโทนไหน เพราะทุกอย่างยังอยู่ในขั้นตอนปรับ แต่สิ่งหนึ่งที่ชัดคือ เธอพร้อมใส่พลังเต็มที่ไม่ว่าจะหนักแค่ไหน

นอกจากบทแฝดสุดท้าทายแล้ว งานนี้ยังมีรายงานว่ามี เจษ เจษฎ์พิพัฒ รับบท “วีกิจ” พระเอกของเรื่องอีกด้วย แม้เจ้าตัวจะบอกว่า

“อันนี้อยากให้ไปถามคุณเจษนะคะ ว่าเจ้าตัวรู้หรือยัง” เรียกว่ามีความลับหลายชั้นจริง ๆ สำหรับโปรเจกต์นี้

ใบเฟิร์นสารภาพอย่างน่ารักว่า ตัวเองเป็นคน “เก็บความลับไม่เก่ง” จนบางครั้งเผลอหลุดข้อมูลที่ยังพูดไม่ได้ เธอเล่าว่า “อะไรโป๊ะไปแล้วก็ให้โป๊ะไป… แต่บางเรื่องเขาห้ามพูด มันก็ทำให้เราลำบากใจบ้าง”

ยิ่งปีหน้า เธอบอกว่ามีอีกหลายโปรเจกต์ระดับใหญ่ที่รอเปิดตัว ทั้งละคร งานต่างประเทศที่ต้องเพิ่มทักษะการแสดงและภาษาจริงจัง รวมถึงผลงานภาพยนตร์ที่ตอนนี้ยังพูดไม่ได้ แต่ใบเฟิร์นส่งสัญญาณชัดว่า ปีหน้าเป็นปีที่เธออยากให้ทุกคนติดตาม เพราะจะได้เห็นเธอในมิติใหม่ที่ท้าทายกว่าเดิม

เมื่อประกอบทุกองค์ประกอบ ความเข้มข้นของบท ตำนานความสำเร็จของเวอร์ชันเก่า ความคาดหวังของผู้ชม และศักยภาพของใบเฟิร์น ทำให้ “แรงเงา” เวอร์ชันช่อง ONE กลายเป็นหนึ่งในโปรเจกต์ที่ถูกจับตามองที่สุดของปี

สำหรับ นวนิยาย “แรงเงา” ของ นันทนา วีระชน ถือเป็นหนึ่งในผลงานที่ทรงพลังที่สุดของวงการบันเทิงไทย เพราะถูกหยิบมาสร้างซ้ำหลายยุคหลายสมัย ทั้งในรูปแบบภาพยนตร์และละครโทรทัศน์ โดยแต่ละเวอร์ชันต่างสร้างปรากฏการณ์ในแบบของตนเอง และหล่อหลอมให้เรื่องราวของ “แรงเงา” กลายเป็นตำนานที่ยังคงถูกพูดถึงจนถึงทุกวันนี้

เส้นทางการดัดแปลงเริ่มต้นในปี 2529 เมื่อ “แรงเงา” ถูกสร้างเป็นภาพยนตร์เป็นครั้งแรก ก่อนจะถูกนำมาผลิตเป็นละครโทรทัศน์ในปี 2531 ภายใต้ชื่อ “แรงหึง” ถือเป็นต้นแบบการเล่าเรื่องบนหน้าจอที่เปิดประตูให้ผู้ชมได้รู้จักโครงสร้างดราม่าความสัมพันธ์และความขัดแย้งอันเข้มข้นระหว่างตัวละครหญิงแกร่งและโลกที่กดทับเธอ

กระแสของ “แรงเงา” กลับมารุนแรงอีกครั้งในปี 2544 เมื่อ บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น นำเรื่องนี้มาสร้างใหม่ พร้อมทัพนักแสดงอย่าง ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์, แอน ทองประสม, ยุทธพิชัย ชาญเลขา, สาวิตรี สามิภักดิ์ และด.ญ.พิมประภา ตั้งประภาพร ซึ่งเวอร์ชันนี้กลายเป็นที่จดจำไม่น้อย โดยเฉพาะการรับบทฝาแฝด “มุนินทร์–มุตา” ของแอน ทองประสม ที่ถือเป็นบททดสอบฝีมือระดับจริงจังของนักแสดงหญิงในยุคนั้น

ความนิยมของเรื่องนี้พุ่งสู่จุดสูงสุดอีกครั้งในปี 2555 เมื่อบริษัทเดิมได้ผลิตละคร “แรงเงา” ขึ้นมาใหม่ พร้อมส่ง เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ์ มารับบทคู่แฝดที่เต็มไปด้วยบาดแผล ความแข็งแกร่ง และความอ่อนไหว ขณะที่พระเอกวีกิจรับบทโดย ภูภูมิ พงศ์ภาณุ ร่วมด้วย รวิชญ์ เทิดวงส์ และธัญญ่า ธัญญาเรศ ในบท “นพนภา” ซึ่งกลายเป็นไวรัลระดับประเทศ กระแสของเวอร์ชันนี้แรงจนเกิดวลีที่ผู้ชมยังพูดถึง “วันละครออนแอร์ ถนนโล่ง” เพราะความเข้มข้นของเนื้อหาและฉากเผชิญหน้าที่สะเทือนจออย่างแท้จริง

กระแสตอบรับดังกล่าวนำไปสู่การสร้างภาคต่อในปี 2562 ภายใต้ชื่อ “แรงเงา 2 แรงเงาแรงแค้น” ซึ่งสานต่อเรื่องราวหลังเหตุการณ์ในภาคแรก โดยยังคงทีมเดิมทั้งเจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ์, ภูภูมิ พงศ์ภาณุ และธัญญ่า ธัญญาเรศ มาร่วมเปิดบทใหม่ของความขัดแย้งที่ลึกกว่าเดิม แม้ทิศทางเรื่องจะเปลี่ยนไปตามยุคสมัย แต่ “แรงเงา 2” ก็ยังพิสูจน์ให้เห็นถึงพลังของคาแรกเตอร์และฐานแฟนละครที่เหนียวแน่นไม่เสื่อมคลาย

การที่ “แรงเงา” ถูกสร้างซ้ำหลายครั้งสะท้อนให้เห็นว่าตัวเรื่องมีพลังมากพอที่จะเล่าใหม่ได้ในทุกยุค ตัวละครฝาแฝด “มุนินทร์–มุตา” ก็กลายเป็นหนึ่งในบทบาทที่นักแสดงหญิงหลายรุ่นต่างยอมรับว่าเป็นบทหินที่สุดบทหนึ่งในวงการ เพราะต้องถ่ายทอดทั้งความแตกต่างทางบุคลิก จิตใจ และเส้นทางชีวิตที่ขัดแย้งกันอย่างชัดเจน การรับบทนี้จึงไม่ใช่แค่การแสดง แต่คือการพิสูจน์ตัวตนทางการแสดงของนักแสดงหญิงทุกคนที่ได้รับความไว้วางใจให้สวมบทบาทนี้

ทั้งหมดนี้คือเหตุผลที่ผู้ชมกำลังจับตามองการตีความ “แรงเงา” เวอร์ชันล่าสุดของช่อง ONE ที่ได้ ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก มารับไม้ต่อในบทฝาแฝดอันเป็นตำนาน ซึ่งเธอกล่าวเองว่าเป็นบทที่ยาก แต่พร้อมทุ่มเต็มที่เพื่อให้สมกับความคาดหวังของแฟนละครและผู้ใหญ่ที่มอบโอกาสให้ บทที่เคยแจ้งเกิดนักแสดงหลายรุ่นกำลังจะกลับมาอีกครั้ง พร้อมพลังใหม่ ความสดใหม่ และมุมมองของนักแสดงยุคปัจจุบัน ทำให้โปรเจกต์นี้กลายเป็นหนึ่งในละครที่ถูกจับตาที่สุดของปีอย่างไม่ต้องสงสัย