Short CommentAt the Moment ณ ขณะนี้ (2023)บอกเล่าเรื่องราวความรักที่หลากหลายกับเรื่องพื้นฐานของชีวิตได้งดงามตราตรึงแต่ก็ดูเป็นชีวิตจริงที่เกิดกับใครก็ได้เปิดหัวบทความนี้คือมีเรื่องมาเล่าที่เป็นเรื่องจริงที่ว่าปัจจุบันด้วยช่องทางการรับชมหนังและซีรีส์ค่อนข้างเปิดกว้างเพราะระบบสตรีมมิ่งที่มีการแข่งขันกันสูง จากเดิมคนดูอาจมีทางเลือกจำกัดในการเลือกดูซีรีส์ต่างประเทศแต่ปัจจุบันกลับต้องเลือกดูตามความชอบและละคุณภาพจนบางครั้งหลงลืมไปบ้างเพราะทางเลือกมีมากเกินไป ที่จะเล่าคือคุณแม่บ้านของผู้เขียนนี่ล่ะที่เป็นตัวอย่างที่ชัดเพราะปกตินางก็จะดูละครไทยแต่เมื่อทางเลือกมีมากก็ดูเกาหลีบ้างญี่ปุ่นบ้างเพราะอัลกอริทึมของสตรีมมิ่งแนะนำตามประวัติการดูของผู้เขียน จนกระทั่งนางได้เปิดใจลองดูซีรีส์ไต้หวันเรื่อง Light the Night หรือแสงราตรี (2021-2022) กลายเป็นว่าบทสนทนาหลังนางดูจบสามภาคยี่สิบสี่ตอนรวดคือซีรีส์ไต้หวันมันดีขนาดนี้เลยหรือ แล้วทันทีที่นางเห็นเรื่องนี้ที่กำลังจะเขียนถึงวันนี้โชว์ขึ้นมาคำพูดต่อมาคือนางบอกว่าตอนนี้ไต้หวันก็มาแรงพอๆกับเกาหลีแต่สำหรับผู้เขียนแล้วกลับหลงเสน่ห์งานจากไต้หวันมานานอย่างที่ท่านผู้อ่านทราบ และเรื่องนี้ที่เพิ่งดูจบไปก็คือความยอดเยี่ยมในการเล่าเรื่องแบบไต้หวันที่ยังคงงดงามและจริงใจกับคนดูเรื่องความรักของคนมากหน้าที่เกิดขึ้นต่างกรรมต่างวาระแต่อยู่ในช่วงเวลาเดียวกัน หนึ่งคือความรักที่เกิดขึ้นในรายการเรียลลิตี้หาคู่ของจางหย่ง (เปอเรนต์ ซู) หนุ่มพนักงานร้านกาแฟกับเซียะเหว่ยถิง (กิงเกิล หวัง) หญิงสาวที่กำลังตามล่าความฝัน สองคือเฉินชุนปิน (เทอเรนซ์ หลิง) ไรเดอร์ที่บกพร่องทางการได้ยินกับหยางเชียนเชียน (พัฟฟ์ กัว) หมอนวดที่ชีวิตกำลังติดหล่ม สามคือซูเป่ยหมิง (ออสติน หลิน) ช่างทำผมที่ร่ำรวยความสัมพันธ์กับหวังเป่าหลิน (ลูลู่) ยูทูบเบอร์ตาบอด สี่คือเหยาซีสวน (นิคกี้ เซย์) นักเขียนนิยายรักกับหนุ่มบ้านตรงข้ามหลินยูเต๋อ (ชางกวงเฉิน) ห้าคือความรักที่เกิดในที่ทำงานของสองชายคือโกเจียหาว (จอห์นนี่ หยาง) กับเด็กฝึกงานรุ่นน้องหวงเส้ากวง (เดเร็ค ชาง) หกคือถ่านไฟเก่าที่กลับมาคุของโจ (เจซี หลิน) กับฟางจื่อหนาน (วิเวียน ซุง) เจ็ดคือความสุขบนความทุกข์เมื่อคู่สมรสนอกใจของเฉาติงหยู (อู๋คังเหริน) กับจางเหว่ยสวี (เสี่ยวเอส) แปดคือความรักที่น่ารักเมื่อต้องสลับบทบาทในครอบครัวของซูไป๋จุ่ย (เสี่ยวเจี่ยไค) กับเฉิงหว่านหยู (เอสเธอร์ หลิว) เก้าคือความรักที่ข้ามเส้นความเป็นเพื่อนของสองสาวหลัวซินหลาน (รูบี หลิน) กับติงจินเจี่ย (เคลลี่ หลิน) และสุดท้ายรักข้ามรุ่นที่ต้องเก็บงำไว้ของโปรดิวเซอร์รายการหาคู่โจวหลี่เหวิน (เจี่ยจิ้งเหวิน) กับรุ่นน้องที่เป็นทีมงานหวังเกาฉี (เจิ้งชิงหัว) และทุกความรักทุกมิติของความรักคือเกิดขึ้นในห้วงเวลาเดียวกันดังชื่อเรืองที่ว่า ณ ขณะนี้เล่าเรื่องย่อยเหมือนแยกจากกันแต่พัวพันกันทางใดทางหนึ่งทำให้ในขณะที่ใช้เวลาคุ้มค่าความน่าติดตามก็สูงส่ง นี่คือการเล่าเรื่องความรักสิบรูปแบบที่แยกกันเล่าในแบบของตัวเองมิติให้สัมผัสหัวใจต่างกันในเวลาเฉลี่ยประมาณห้าสิบนาทีต่อเรื่อง ที่สำคัญแต่ละเรื่องจะมีมิติเชิงลึกในเวลาสั้นๆครบรูปประโยคประธานกริยาและกรรมในการที่จะถูกความรักกระทำในวิธีที่ต่างกัน นั่นคือสิบตอนสิบเรื่องเล่าศูนย์กลางก็คือความรักที่เป็นคนละเรื่องแต่เรื่องทั้งหมดคือเกิดขึ้นในเวลาเดียวกันคือช่วงที่ประเทศไต้หวันกำลังเผชิญกับการระบาดของโควิดที่การใช้ชีวิตไม่ปกติเรื่องความรักก็ไม่ปกติตาม สิ่งที่เจ๋งคือการให้ตัวละครทั้งสิบตอนมีส่วนเกี่ยวข้องกันไม่ทางใดก็ทางหนึ่งซึ่งคนดูจะตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้เห็นตัวละครเมื่อตอนที่ผ่านๆมามาปรากฎตัว นั่นเพราะการเล่าเรื่องทุกเรื่องนั้นลงลึกได้อย่างน่าทึ่งในเวลาเท่าที่มีแต่ได้ใจคนดูจนตัวละครทุกคนเข้าไปนั่งในใจทำให้คนดูรู้สึกอยากรู้ว่าพวกเขาในตอนที่ผ่านๆมาเป็นยังไงต่อไป นั้นคือการเล่าเรื่องที่ทรงพลังได้ในเวลาอันสั้นคือใช้เวลาคุ้มค่าทำให้มีความน่าติดตามเพราะตัวละครได้ใจไปแล้วเล่าเรื่องง่ายๆพื้นๆแต่จับใจได้ความรู้สึกกับเรื่องธรรมดาที่ไม่ธรรมดาเพราะสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน สิ่งที่เหมือนเป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้งานจากไต้หวันมักได้ใจเสมอคือการเล่าเรื่องที่เป็นปัจเจก นั่นคือการเล่าเรื่องธรรมดาเรื่องของคนธรรมดาเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นกับคนข้างบ้านร้านค้าหน้าปากซอยหรือแม้กระทั่งตัวคนดูเอง งานจากไต้หวันมีน้อยมากที่จะเล่าถึงคุณชายคุณหนูไฮโซหรือต่อให้เล่าก็เล่าในมุมความเป็นมนุษย์ เช่นเรื่องนี้คือความรักปกคลุมไปทั่วทั้งวัยหนุ่มสาววัยทำงานนักธุรกิจชนชั้นกลางไปจนกระทั่งชนชั้นธรรมดาที่สุดของสังคม กับความรักที่เกิดขึ้นไม่ว่าบทสรุปจะออกมาแบบไหนคนดูจะเข้าใจเพราะความรักไม่ใช่เรื่องที่จะเข้าใจได้ง่ายแล้วการเล่าในแต่ละเรื่องยังไม่ได้มาเพื่อยากเล่นเชิงแต่เล่าไปตามขั้นตอนมีจุดเปลี่ยนมีพัฒนาการเพราะคนจะรักจะเลิกมันย่อมต้องมีจุดเปลี่ยน ทั้งยังมาเพื่อดึงอารมณ์จนมีอารมณ์ร่วมทุกอย่างทั้งหัวเราะขำขันโศกเศร้าซาบซึ้งเจ็บปวดแสนสาหัสรวมไปถึงเข่าใจโลกเข้าใจตัวเองและคนอื่น แน่นอนเมื่อเล่าถึงสิบตอนสิบความรักในมุมต่างกันย่อมต้องมีบ้างที่มากระทบกับตัวคนดูเองสักเรื่องหนึ่ง และความเยี่ยมคือเล่าในทุกช่วงวัยให้คนดูสัมผัสได้ตามประสบการณ์ชีวิตจึงทำให้ทุกเรื่องที่เล่าปักเข้ากลางใจทุกเรื่องกันไปครบถ้วนกระบวนความในมิติของความรักที่อาจมีสุขทุกข์เจ็บปวดและไม่สนว่าคนคนนั้นจะเป็นใครมาจากไหน เอาจริงถ้าจะให้แกะมิติทุกเรื่องสิบหน้าก็คงไม่หมดเอาเป็นว่าว่ากันที่ภาพรวมของความรัก เพราะความรักเป็นเรื่องที่คาดเดาไม่ได้ไม่สามารถอธิบายเป็นเรื่องเชิงวิทยาศาสตร์ได้แม้จะพยายามก็จะมีเรื่องของหัวใจมาขัดแย้งเสมอ ความรักที่เล่าในเรื่องนี้จึงครบเท่าที่จะคิดได้ในการรำลึกถึงการที่มนุษย์สักคนจะถูกความรักกระทำสักเรื่องเพราะมีหมดทั้งหวานชื่นเจ็บปวดน่ารักแต่ที่เจ๋งคือเล่าเรื่องความรักที่เป็นความรักแท้ไม่มีเจตนาใช้ความรักเป็นเครื่องมือแม้แต่เรื่องเดียว เพราะความรักเมื่อเกิดขึ้นแล้วไม่มีทางไถ่ถอนหัวใจจากมันต่อให้เลิกรากันความรักก็จะตอกตรึงไว้ไม่ทางใดทางหนึ่ง อาจเป็นทางที่ดีคือความทรงจำที่งดงามหรืออาจเป็นทางแย่ๆคือรอยแผลจากความรักที่ไม่มีวันลืมได้เรื่องนี้จึงเล่ามาหมดทั้งรักครั้งเก่าความรักที่ผิดพาดความรักครั้งใหม่ที่มีปัจจัยมากมายหญิงรักหญิงชายรักชายและฉลาดพอที่จะมิบทสรุปที่ไม่ใช่ลงเอยทุกเรื่องแต่สมบูรณ์ทุกเรื่อง เพราะความรักจะไม่สนว่าเป็นใครมากจากไหนและทุกคนมีความรักที่ดีได้มีความรักที่แย่ได้จนสุดท้ายสาเหตุของรักที่ดีหรือรักที่แย่ก็คือเรื่องของบุคคลแต่ความรักกลับลอยตัวเหนือปัญหาไปเพราะความรักมักเป็นเช่นนี้ในเวลาเท่าที่มีในแต่ละตอนนักแสดงสามารถนำพาหัวใจคนดูไปลงลึกกับมิติของความรักที่เล่าได้อย่างตราตรึง เพราะเล่าถึงสิบเรื่องยี่สิบคนจะให้อธิบายความยอดเยี่ยมเรื่องการแสดงทุกคนคงเป็นไปไม่ได้ จึงว่ากันที่ภาพรวมคือเมื่อดูงานจากไต้หวันมากขึ้นก็เริ่มคุ้นหน้านักแสดงมากขึ้นสิ่งที่ควรตามมาคือบทบาทก่อนหน้าที่จะเป็นภาพติดตา แต่กับเรื่องนี้หรือจะเรื่องอื่นก็ได้คือนักแสดงไต้หวันจะไม่เหลือคราบไคลของบทบาทที่เคยเห็นมาอยู่เลยอาจเพราะงานจากไต้หวันมักจะเล่าเรื่องที่มีความเป็นมนุษย์และนักแสดงก็เป็นมนุษย์ แต่ถ้าจะเอาเจาะจงลงไปผู้เขียนชอบอู๋คังเหรินที่เห็นเล่นมาทุกบทแม้กระทั่งสาวประเภทสองแต่เรื่องนี้ต้องมารับบทสามีที่ภรรยานอกใจที่เข้าคู่กับเสี่ยวเอสได้แบบที่คนดูรู้สึกตามไปได้เลย หรือจะเป็นเจี่ยจิ้งเหวินที่มาในมาดสาวใหญ่ผู้แข็งนอกอ่อนในหรือเคลลี่ หลินที่มาในมิติของหญิงรักหญิงที่ต้องซ่อนความเจ็บปวดไว้และสายตาที่ประสานกับรูบี หลินซินหรูนั่นคือใช่ยิ่งกว่าใช่ จึงนับว่าเวลาที่น้อยในการเล่าแต่ละเรื่องได้ประทับตรึงเข้าไปในใจคนดูได้เพราะการแสดงเป็นปัจจัยสำคัญซีรีส์ไต้หวันยังยอดเยี่ยมไม่เคยแผ่วสร้างความประทับใจให้เสมอกับความรู้สึกไม่อิ่ม ไม่ทราบว่าผู้เขียนเป็นคนเดียวหรือไม่ที่ดูซีรีส์ไต้หวันแล้วรู้สึกว่ามีแรงดึงดูดตั้งแต่เพลงเปิดจนไม่กดข้าม และนี่คือซีรีส์เรื่องที่สามติดต่อกันแล้วในการดูงานจากไต้หวันแล้วต้องดูซ้ำเพราะทั้งอิ่มเอมทั้งประทับใจกับภาพสวยเพลงเพราะการเล่าเรื่องที่แสนธรรมดาแต่รู้สึกว่าจริง ซึ่งความจริงการเล่าเรื่องของงานจากไต้หวันออกจะซื่อๆตรงๆด้วยซ้ำแต่ก็เหมือนเป็นความจริงใจกับคนดูเช่นเรื่องนี้ที่ในขณะที่ลุ้นไปกับเรื่องความรักในแต่ละตอนแรงดึงดูดร่วมกับการผูกสัมพันธ์ของตัวละครก็แรงพอ ส่วนตัวแล้วผู้เขียนชอบตอนที่สองคือความรักของคนธรรมดาที่สุดในสังคมที่เป็นความเรียบง่ายในชีวิตที่สะท้อนกับตอนที่เจ็ดกับการนอกใจในคู่สมรสชั้นธุรกิจ หรือจะเป็นตอนที่หกที่ความรักไม่สมหวังเพราะไม่พยายามจูนเข้าหากันกับความรักที่ต้องเก็บไว้ในใจที่ต้องทิ้งระยะห่างไว้จากเรื่องวัยและหน้าที่การงานในตอนสุดท้าย และในตอนสุดท้ายนี่เองที่ทุกคนมาสัมผัสกันให้กลายเป็นเรื่องเล่าชีวิตจริงที่จริงกว่านี้อาจไม่มีอีกแล้ว แน่นอนเมื่อรับรู้ความรู้สึกครบทุกอย่างจากความรักจึงรู้สึกไม่อิ่มตามมานั่นคือยังอยากดูว่าทุกคนจะเดินไปต่อจากนี้และใช้ชีวิตยังไง นับเป็นงานชั้นเยี่ยมที่ไม่ควรปล่อยไปตามกาลเวลาดูไปบ่นไปขอบคุณภาพประกอบภาพปก,ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2,3,4,5,6,7,8, จาก Instagram netflixtw ถ้าคุณชอบซีรีส์ไต้หวัน คุณจะชอบเรื่องเหล่านี้https://entertainment.trueid.net/detail/o2roZovGRgYOhttps://entertainment.trueid.net/detail/mOom95okmmjrhttps://entertainment.trueid.net/detail/3DG24vv4VNbk จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !