รีเซต

รีวิวหนัง "Final Destination Bloodlines ทายาทโกงตาย" ความตายคัมแบ็กสุดจะอึ้ง..จึ้งจริงแม่!

รีวิวหนัง "Final Destination Bloodlines ทายาทโกงตาย" ความตายคัมแบ็กสุดจะอึ้ง..จึ้งจริงแม่!
Jeaneration
15 พฤษภาคม 2568 ( 16:00 )
78

และนี่ก็คือการคัมแบ็กกลับมาอีกครั้งในรอบ 14 ปีเต็ม ของแฟรนไชส์หนังเขย่าขวัญที่เคยสร้างตำนานอันเรืองรองมาได้ตั้งแต่ยุค Y2K กลับมาหนนี้ที่เหมือนเป็นการยกเครื่องใหม่ที่ยังคงเสน่ห์อันแพรวพราวของหนังชุดนี้เอาไว้ได้อย่างตรงจริตใน "Final Destination Bloodlines ไฟนอลเดสติเนชัน ทายาทโกงตาย" การโกงความตายระลอกใหม่ได้ถูกละเลงขึ้นในบทใหม่ ๆ ที่จะทะลวงใจจึ้งผู้ชมในศักราชนี้

หญิงสาววัยรุ่นคนหนึ่งมีความฝันอันเลวร้ายเกี่ยวกับเหตุการณ์ตึกถล่มในยุค 1960s อย่างซํ้า ๆ เธอค้นพบว่าฝันร้ายเหล่านี้เป็นลางสังหรณ์ที่เธอได้รับมาจากคุณย่าของเธอ โดยคุณย่าของเธอได้คาดเดาเหตุการณ์ตึกถล่มและช่วยชีวิตคนกลุ่มหนึ่งจากความตายเอาไว้ได้ เมื่อเวลาผ่านไปหลายทศวรรษ ผู้เป็นหลานสาวก็เริ่มที่จะมองเห็นนิมิตการเสียชีวิตของคนในครอบครัว เธอได้เข้าใจแล้วว่ามันจะมีเหตุการณ์สยองเกิดขึ้น และต้องต่อสู้เพื่อที่จะไม่ให้ความตายพรากทั้งตระกูลของเธอไป

แม้ว่าในยุคนี้จะเต็มไปด้วยคอนเทนท์เก่า ๆ อายุ 20-30 ปีได้หวนกลับมามีลมหายใจในวงการหนังฮอลลีวูดอีกครั้งอยู่หลากหลายเรื่อง แต่สำหรับแฟรนไชส์ Final Destination ยังนับว่าเป็นหนังที่เปี่ยมล้นไปด้วยกิมมิกที่เป็นเสน่ห์ ชนิดที่แทบจะไม่ได้ปรุงแต่งและปรับปรุงอะไรมากสักเท่าไหร่ ก็สามารถเล่นกับใจคนดูได้อย่างทรงประสิทธิภาพ เหมือนกับในภาคนี้ที่สามารถละเลงงานสร้างออกมาได้แทบจะไม่มีอะไรที่ใหม่เลยสักนิด แต่ยังทรงอิทธิพลในหัวใจของผู้ชมได้แบบอยู่หมัด

การจับคู่กำกับของคู่หูที่อาจจะไม่ค่อยคุ้นชื่อสักเท่าไหร่ อย่าง "แช็ค ลิพอฟสกี" กับ "อดัม สไตน์" ที่แจ้งเกิดมาจากหนังลึกลับไซไฟ Freaks เมื่อหลายปีก่อน หลังจากนั้นก็ยังไม่มีผลงานที่เข้าตาเท่าไหร่ แต่ก็ได้รับมอบหมายให้มาดูแลโปรเจกต์นี้ ที่พวกเขาสามารถละเลงใส่ประสบการณ์และความคลุกคลีกับหนังชุดนี้ที่พวกเขาก็เติบโตมาพร้อม ๆ กับตำนานโกงตาย กลายเป็นว่าการผนึกกำลังครั้งนี้ของทั้งคู่ รังสรรค์ผลงานอันเป็นมาสเตอร์พีชของตัวเองออกมาได้สำเร็จ

แต่ก็ยังได้อีกหนึ่งองค์ประกอบที่เป็นแม่เหล็กสำคัญของหนัง อย่าง งานสร้างสรรค์บทหนังที่เต็มไปด้วยอรรถรสและการไปถึงจุดสุดยอดที่มาจากฝีมือการเขียนของผู้ที่รู้จักกับแฟรนไชส์หนังชุดเป็นอย่างดี อย่าง "กาย บูซิก" (จาก Ready of Not และ Abigail) กับ "ลอรี อีแวนส์ เทย์เลอร์" (จาก Best Rest และ Cellar Door) พร้อมกับได้ "จอน วัตต์ส" (จาก Spider-Man: No Way Home) มากุมบังเหียนในฐานะโปรดิวเซอร์หลัก และหัวหน้าทีมสร้างสรรค์สตอรี่หลักของหนังเรื่องนี้ กลายออกมาเป็นบทหนังที่จี้ตรงจุดและเซอร์วิสแฟน ๆ ได้อย่างทรงพลัง

ไฮไลต์ในตำนานของหนังโกงตาย ก็คือฉากเปิดที่มักจะสร้างความสะพรึงที่โจษจันอยู่เสมอ ใน Final Destination Bloodlines ก็ยังสามารถเปิดตัวได้อย่างน่าประทับใจด้วยดี เรียกได้ว่าหนังสามารถตอบแทนแฟน ๆ ไดดีตั้งแต่วินาทีแรกไปจนถึงวินาทีสุดท้ายของตัวเรื่องก็ว่าได้ แม้ว่าโครงสร้างเรื่องราวและบทหนังจะหาความแปลกใหม่ที่แตกต่างจากภาคก่อน ๆ แทบไม่ได้เลยด้วยซ้ำ แต่มันก็คืออรรถรสความเพลินและความสนุก กับกลวิธีที่ทำให้การตายเป็นเรื่องของความบันเทิง

แน่นอนว่า Final Destination Bloodlines ยังคงเสน่ห์ที่พึงมีของหนังชุด Final Destination ด้วยดี คนดูต่างรู้ดีกว่าจะมีความตายเกิดขึ้นอยู่ตรงหน้า แต่ก็ยังเป็นสิ่งที่คาดเดาอะไรเลยไม่ได้อยู่ดีกว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับชะตากรรมของตัวละครต่าง ๆ นี่จึงเป็นเอกลักษณ์ที่หนังเรื่องนี้ยังสามารถใส่เข้ามาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และยังทำงานได้ดีกับการสร้างประสบการณ์ในโรงภาพยนตร์ที่นาน ๆ ทีจะได้สัมผัสอะไรเช่นนี้

ในแง่งานสร้างก็ถือว่ายังจัดหนักจัดเต็มในการละเลงทำให้การตายเป็นความบันเทิง ที่ทั้งสนุกและหวาดเสียวสยดสยองไปพร้อม ๆ กัน งานออกแบบโปรดักชันของหนังเรื่องนี้ก็ยังดีเด่นและลงล็อกลงจังหวะเป๊ะ ๆ ไปพร้อมกับการหยอกเย้าของความตายที่มากระตุ้นต่อมความเสียวให้กับผู้ชม ทำให้การถ่ายทอดฉากสุดสยองต่าง ๆ ทำออกมาได้ถึงใจถึงอารมณ์ในทุกโมเมนต์ของหนังเรื่องนี้ ถึงจะมีที่ติแต่ความสนุกก็ทำให้มองข้ามร่องรอยความบกพร่องต่าง ๆ เหล่านั้นไปทั้งหมด

ทีมนักแสดงใน Final Destination Bloodlines อาจจะไม่ใช่ดาราที่มีชื่อเสียงสักเท่าไหร่ ส่วนใหญ่ยังเป็นดาราเกรดรอง ๆ และเพิ่งจะแจ้งเกิดมีชั่วโมงบินทางการแสดงไม่เยอะเท่าไหร่ แต่นั่นก็เป็นอีกเสน่ห์ของหนังชุดนี้ในทุก ๆ ภาค ที่ไม่เน้นการใช้บริการดารดัง เพราะอย่างน้อย ๆ เราน่าจะรู้ดีถึงโชคชะตาที่พวกเขาจะต้องเผชิญ ดังนั้นการแสดงก็ถือว่าคลุกเคล้าไปกับตัวหนังได้ดี จะมีเล่นใหญ่เล่นโตอยู่บ้าง แต่มันก็เป็นการเสริมอรรถรสให้กับตัวหนังในแง่ที่ดี

ภาพรวมแล้ว Final Destination Bloodlines น่าจะกลายเป็นหนังชุดโกงตายเรื่องโปรดเรื่องล่าสุดของเรา ที่ไต่ทะยานขึ้นมาแซงหน้าภาคก่อน ๆ หน้านี้ทั้ง 5 ภาคที่ผ่านมาอยู่อันดับต้น ๆ นี่คือความชาญฉลาดในการปัดฝุ่นนำเอาวัตถุดิบที่ยังทรงคุณค่ามาประยุกต์ใหม่ ที่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าคอนเซ็ปต์โกงความตายแทบไม่มีวันหมดอายุเลย ยังสามารถละเลงสร้างและไปได้ต่อเรื่อย ๆ

ยิ่งภาคนี้ได้ทำการปูเรื่องปูทางต่อเติมจักรวาลให้ดูยิ่งใหญ่มากขึ้นด้วย ร่วมด้วยการหยอดใส่อีสเตอร์เอ้กต่าง ๆ ที่สามารถสร้างความเอ๊ะ ๆ ให้กับแฟนหนังชุดนี้ได้อย่างดี ซ้ำยังมีจังหวะการเล่าเรื่องที่ยังคงเสน่ห์เอาไว้ได้อย่างเจิดจรัส ไม่มีอะไรใหม่ วนอยู่ในลูปเดิมแต่ยังประคับประคองออกมาได้สนุกถึงใจ หยิกแกมหยอกแฟรนไชส์ตัวเองนิด ๆ หน่อย ๆ พอบันเทิงใจดี นี่จึงกลายเป็นการคัมแบ็กกลับมาที่แสนจะอบอุ่นของแฟรนไชส์หนังที่ยังคงคลาสสิกได้ตลอดกาล...

ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง Final Destination Bloodlines ทายาทโกงตาย

  • ประเภท: สยองขวัญ
  • ผู้กำกับ: แช็ค ลิพอฟสกี, อดัม สไตน์
  • นำแสดงโดย: แกเบรียล โรส, โทนี ท็อดด์, ริชาร์ด ฮาร์มอน, เบร็ค แบสซิงเจอร์
  • ความยาว: 109 นาที
  • กำหนดฉายในไทย: 22 พฤษภาคม 2025

Movie.TrueID METRIC: Final Destination Bloodlines ทายาทโกงตาย

  • ภาพรวม
    ⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰ (8.5/10)
  • การเล่าเรื่อง
    ⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰ (ุ8.7/10)
  • การแสดง
    ⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰ (7.9/10)
  • เทคนิคงานสร้าง
    ⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰ (8.5/10)
  • บทภาพยนตร์
    ⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰ (8.2/10)

-------------------------------------

>> ดูหนังออนไลน์ได้ที่ Movie.TrueID <<

หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับทรูไอดีสามารถเข้าไปได้ที่ TrueID Help Center เป็นช่องทางใหม่ที่ให้ข้อมูลและการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเกี่ยวกับทรูไอดี คลิกเลย >> https://bit.ly/3xEgdAa