ทิม อัลเลน ออกโรงพูดถึงดราม่า "Lightyear" สาเหตุที่เขาไม่กลับมาพากย์เสียง
กลายเป็นประเด็นดราม่าเบา ๆ กับกลุ่มแฟนหนังชุด Toy Story บางส่วนที่ไม่รู้ปลื้มสักเท่าไหร่ที่มนต์ขลังความคลาสสิกได้ขาดหายไปในหนังภาคแยก "Lightyear" ของพิกซาร์ที่เพิ่งจะออกฉายไป เมื่อพระเอกหนุ่ม "คริส อีแวนส์" มารับหน้าที่พากย์เสียงแทน "ทิม อัลเลน" ตำนานที่ให้เสียงเป็น บัซ ไลท์เยียร์ มาอย่างยาวนานในหนังต้นฉบับทั้ง 4 ภาคที่ผ่านมา กลายเป็นประเด็นถกเถียงในโลกโซเชียลนับตั้งแต่ลงโรงฉายเป็นต้นมา
และล่าสุดดูเหมือนว่าตำนาน ทิม อัลเลน จะออกมาจากความเงียบและพูดอธิบายอะไรให้กับแฟน ๆ ได้ทำความเข้าใจ แม้ว่าเขาจะไม่ได้รู้สึกน้อยใจและหวงแหนบทที่ตัวเองเคยได้ทำงานมาหลายปี เขากลับรู้สึกยินดีที่ได้เห็นรุ่นน้องมารับหน้าที่นี้ต่อ ด้วยเหตุผลที่สมเหตุผลสมผลเพราะว่าหนังเรื่องใหม่ที่เพิ่งฉายนั้น มันไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องของของเล่นอีกต่อไปแล้ว
"ที่ผมอยู่เฉย ๆ มาตลอดเพราะว่ามันไม่มีอะไรต้องทำด้วยแล้วครับ เมื่อนานมาแล้วเราเคยพูดคุยถึงเรื่องนี้กันอยู่เหมือนกันนะ ตอนนี้ผมยังบอกอยู่เลยว่า 'เออ...หนังมันน่าจะออกมาสนุกดีนะ' แต่เมื่อผ่านไปหลายปีนับตั้งแต่หนังต้นฉบับทั้ง 4 ภาคหลัก มันได้พัฒนากลายเป็นหนังเรื่องใหม่ ทีมงานใหม่ ที่แทบไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับฉบับดั้งเดิมเลย เอาจริง ๆ ผมก็ยังนึกว่าพวกเขาจะสร้างหนังฉบับคนแสดงด้วยซ้ำ ตอนที่พวกเขาบอกผมว่าจะทำหนังเกี่ยวกับคนไม่ใช่ของเล่น" ทิม อัลเลน ได้อธิบายไว้กับ ExtraTV
นอกจากนี้ ทิม อัลเลน ก็ยังอธิบายเสริมอีกว่า บัซ ไลท์เยียร์ ในเวอร์ชั่นนี้ยังไงก็ยังไม่เหมาะกับเขาอยู่ดี เพราะความสัมพันธ์ระหว่างเขากับบัซในอดีต ไม่สามารถนำมาโยงเข้ากับหนัง Lightyear เรื่องนี้ได้โดยตรงอีกแล้ว ซึ่งถ้าหากเป็นเช่นนั้นเขาอาจจะสนใจกลับมาสานต่อด้วยซ้ำ
"คือมันไม่มี บัซ ใน Toy Story ไม่มี วู้ดดี้ ไม่มีอะไรที่เหมือนเดิม ผมไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าแนวคิดจะออกเป็นอย่างไร ผมก็คิดว่ามันก็่น่าจะออกมาวิเศษทีเดียวแหละ แต่ภายใต้สิ่งเหล่านั้นมันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับโลกของของเล่นที่เราคุ้นเคยเลย มันไม่มีความสัมพันธ์กับบัซในเวอร์ชั่นแล้ว มันเป็นเรื่องราวของเขาที่มีความสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ผมว่าถ้ามีการเชื่อมโยงมากกว่านี้ก็อาจจะสนใจกลับไปทำหน้าที่ต่อครับ"
Lightyear ถือว่าเป็นหนังของดิสนีย์/พิกซาร์ เรื่องแรกในรอบ 2 ปี ที่ได้กลับเข้าโรงฉายอีกครั้ง หลังจากสถานการณ์โควิด-19 แต่ปรากฏว่าหนังมีสถานการณ์รายได้ค่อนข้างน่าเป็นห่วง โดยขณะนี้หนังทำเงินทั่วโลกไปได้ราว ๆ 156 ล้านเหรียญ จากทุนสร้าง 200 ล้าน แม้ว่ากระแสวิจารณ์ถือว่าทำออกมาได้ในระดับที่น่าพอใจ แต่ผลลัพธ์ของหนังถือว่าต่ำกว่ามาตรฐานที่ประเมินเอาไว้
----------------------------------
>> ดูหนังออนไลน์ได้ที่ Movie.TrueID <<
หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับทรูไอดีสามารถเข้าไปได้ที่ TrueID Help Center เป็นช่องทางใหม่ที่ให้ข้อมูลและการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเกี่ยวกับทรูไอดี คลิกเลย >> https://bit.ly/3xEgdAa