รีวิวหนัง "The Rhythm Section" วิถีนักฆ่าสาวมือใหม่ หัวใจไม่ยอม..มูฟออน
วิจารณ์ รีวิวหนัง The Rhythm Section
ก็เหมือนกับวลีที่ว่า Life Goes On... ชีวิตไม่ว่าจะประสบพบเจอเรื่องราวทั้งดีทั้งร้าย ก็ไม่มีสิ่งไหนคงอยู่กับเราไปได้ตลอดกาล เป็นประโยคเด็ดๆ ที่บอกให้กำลังใจคนที่กำลังอยากจะมูฟออน แต่คงไม่เหมือนกับหญิงสาวที่ชื่อว่า "สเตฟานี" ที่นอกจากจะไม่ยอมมูฟออนไปจากเหตุโศกนาฏกรรมแห่งชีวิต ยังเลือกที่จะจมปลักอยู่กับช่วงเวลานั้นและกลายเป็นบ่อเกิดการทำลายชีวิตตัวเองอย่างสิ้นเชิง และเรื่องว่าที่อยู่ในหนังแอคชั่นดราม่า "The Rhythm Section"
เรื่องราวของ สเตฟานี ที่เพิ่งผ่านเหตุการณ์เลวร้ายที่สุดในชีวิตของเธอ เมื่อสมาชิกทั้งครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่หรือน้องๆ ต้องเสียชีวิตลงจากเหตุวินาศกรรมวางระเบิดเครื่องบินโดยสารลำหนึ่ง เป็นเหตุทำให้ผู้โดยสารและลูกเรือต้องเสียชีวิตยกลำ เธอเป็นเพียงคนเดียวที่เหลือรอดในตระกูล เพราะไปขึ้นเครื่องไม่ทัน ทำให้เธอจมปลักอยู่กับความคิดที่โทษตัวเองและเสียใจกับการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ในครั้งนี้ ทำให้ชีวิตเธอเสียสูญและผันตัวเองกลายเป็นผู้หญิงขายบริการ
และก็มีผู้ที่เข้ามาเปิดประเด็นให้เธอเริ่มมีเป้าหมายใหม่ในชีวิต ซึ่งก็คือการล้างแค้นให้กับผู้บริสุทธิ์ทุกคน เธอจึงได้ออกตามหาเบาะแสและมือวางระเบิดในครั้งแรก มุ่งหมายจะเด็ดหัวมันให้หายแค้น โดยที่เธอต้องก้าวเข้าสู่วงการนักฆ่าไร้ตัวตนสุดอันตราย แม้สภาพร่างกายจะยังไม่พร้อมสู้กับผู้ก่อการร้าย แต่จิตใจเด็ดเดี่ยวด้วยแรงผลักดันจากความโกรธแค้น ทำให้เธอต้องชำระแค้นครั้งนี้ให้ได้
หนังดัดแปลงมาจากนิยายชื่อเดียวกันของ "มาร์ค เบอร์เนลล์" โดยเขายังทำหน้าที่เขียนบทหนังเรื่องนี้ด้วยตัวเองอีกด้วย ผลลัพธ์ที่ได้ออกมาจึงกลายเป็นหนังที่เต็มไปด้วยความน่าเบื่อ เพราะการเล่าเรื่องที่ไร้จุดเด่น จุดไคลแม็กซ์ที่น่าสนใจ เขาได้เขียนบทหนังออกมาโดยใช้สไตล์การเล่าเรื่องแบบในนิยาย หนังจึงออกมากลายเป็นเส้นตรงที่จืดชืด และงานกำกับของผู้กำกับหญิง "รีด โมราโน" ก็ไม่ได้ช่วยพยุงตัวหนังเอาไว้แต่อย่างใด
แต่ก็ต้องยอมรับว่าเธอได้นำเอาทักษะการถ่ายภาพและกำกับภาพออกมาใช้ในหนังเรื่องนี้ได้อย่างน่าพอใจ แต่ในเมื่อมาเจอบทหนังที่ราบเรียบ ทำให้กลายเป็นหนังแอคชั่นดราม่าที่ดำเนินเรื่องไปตามจังหวะที่ไม่มีอะไรน่าสนใจ หนังความยาวกว่า 100 นาที แต่เสียเวลาในการปูเรื่องราวค่อนข้างนาน กว่ามาถึงจุดเปลี่ยนของตัวเอง และนำไปสู่ไคลแม็กซ์ของหนัง ทำให้ไม่มีอะไรโดดเด่นออกมาเลยสักอย่าง
และการแสดงในหนังเรื่องนี้ของ "เบลค ไลฟ์ลี" ก็ไม่ได้โดดเด่นอะไรแต่อย่างใด บางครั้งเรายังแทบไม่เชื่อเลยว่าเธอเป็นนักฆ่าสาวจริงๆ ในเมื่อที่บทหนังไม่สามารถทำให้เชื่อได้ แม้จะเป็นหนึ่งในบทบาทใหม่ๆ ของเธอที่ได้รับ แต่ก็ยังไม่ใช่บทที่ดีอะไรกับอาชีพของเธอ ขณะที่ "จู๊ด ลอว์" ที่เข้ามาสมทบในหนังเรื่องด้วย กลับเป็นตัวละครที่น่าค้นหาดี แต่ไร้มิติอย่างสิ้นเชิง ไม่ต่างกับการมาทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงนักฆ่าคนใหม่ธรรมดาๆ เท่านั้น
หนังมาพร้อมกับสูตรสำเร็จสไตล์หนังแอคชั่นดราม่าที่ปูเรื่องและพาคนดูตามเรื่องราวสืบสวนสอบสวนไปด้วย แต่สิ่งที่หนังทำไม่ได้ก็คือ "ความสนุก" ตลอดทั้งเรื่อง แม้โทนของหนังอยากจะให้เป็นเหมือนหนังชุด เจสัน บอร์น ฉบับผู้หญิง แต่กลับทำได้ไม่ถึงจุดนั้นเลยสักทางอย่างน่าเสียดาย ในท้ายที่สุดก็เป็นเพียงหนังแก้แค้นทั่วๆ ไป ที่เหมือนจะมีอะไรแต่ก็มีความซ้ำซากอยู่เต็มไปหมด
The Rhythm Section กลายเป็นหนังที่ขาดทุนทันทีที่ออกฉาย ทำเงินไปทั่วโลกได้ไม่ถึง 6 ล้านเหรียญ จากทุนสร้างที่ใช้ไปกว่า 50 ล้านเหรียญ คงต้องยอมรับว่าเป็นหนังที่ไม่ได้มีความหวังใดๆ แต่ก็กลับทำออกได้น้อยกว่าความที่ไม่คาดหวังอีกด้วยซ้ำ คุณสามารถไปตามล้างแค้นและหาตนตอของโศกนาฏกรรมชีวิตได้ในหนัง The Rhythm Section ฉายออนไลน์ที่ TrueID (กดที่รูปภาพด้านล่างเพื่อดูหนัง)
----------------------------------------------------