Series Review Beyond Goodbye (2024) เกินจะเอ่ยคำลา โรแมนติกดราม่าซาบซึ้งตราตรึงภาพสวยเพลงเพราะที่ญี่ปุ่นถนัดมือที่อาจดูเหมือนของเคยๆแต่รายละเอียดอาจไม่ได้อยู่ในความคาดหมาย รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! อาจเหมือนว่าผู้เขียนชอบดูคอนเทนต์เกาหลีทั้งหนังทั้งซีรีส์และแต่คอนเทนต์ญี่ปุ่นก็ไม่ได้ชอบน้อยไปกว่ากันอย่างที่ช่วงหลังท่านผู้อ่านอาจจะได้อ่านงานเขียนเกี่ยวกับหนังหรือซีรีส์ญี่ปุ่นบ่อยขึ้น แน่นอนว่าเพราะการมาของระบบสตรีมมิ่งที่เปิดกว้างให้มีความหลากหลายของเนื้อหาที่มาจากหลายแหล่งและงานจากญี่ปุ่นที่เมื่อก่อนอาจหาดูยากกว่าเกาหลีแต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว เพราะงานจากญี่ปุ่นเริ่มมีมากขึ้นโดยเฉพาะเจ้าใหญ่อย่าง NETFLIX ที่เริ่มมีการเอาซีรีส์ที่ออกอากาศทางบ้านเขามาลงจอมากขึ้นทั้งของ TBS แล้วปัจจุบันเริ่มมีของ FUJI TV มาเรื่อยๆ ส่วนที่ยังคงความน่าสนใจจนกระทั่งสามารถทำให้คนดูที่ชื่นชอบคอนเทนต์ญี่ปุ่นตั้งตารอได้เริ่มมากขึ้นก็ตามแผนการตลาดของทาง NETFLIX ที่ให้แต่ละชาติสร้างคอนเทนต์ Original ของตัวเอง จนมาถึงเรื่องนี้ที่ผู้เขียนตั้งตารอที่จะดูเพราะดูจากหน้าเสื่อแล้วคงจะเป็นแนวที่ญี่ปุ่นถนัดซึ่งก็คือแนวที่คนดูคอนเทนต์ญี่ปุ่นรัก แถมยังได้นักแสดงแม่เหล็กอย่างเคนทาโร่ ซาคากุจิมาประชันความโรแมนติกกับคาสุมิ อาริมูระทำให้ยิ่งต้องดู ระหว่างการเดินทางไปท่องเที่ยวซาเอโกะ (คาสุมิ อาริมูระ) ก็ถูกยูซุเกะ (โทมะ อิคุตะ) แฟนหนุ่มขอแต่งงานและแน่นอนว่าเธอตอบรับก่อนที่เซอร์ไพรส์ของเขาจะมาถึงเพราะที่ผ่านมาทั้งคู่รักกันมาก แต่ความสุขก็อยู่ได้เพียงไม่กี่นาทีหิมะก็ถล่มลงมาทำให้รถเมล์ที่เธอและเขาโดยสารประสบอุบัติเหตุซึ่งซาเอโกะรอดชีวิตแต่ยูซุเกะโชคไม่ดีแบบนั้น ทว่าการที่ยูซุเกะเป็นผู้บริจาคอวัยวะหัวใจของเขาก็ถูกส่งต่อไปปลูกถ่ายให้กับคนไข้รายหนึ่งซึ่งก็คือคาซึ (เคนทาโร่ ซาคากุจิ) ที่เขาและภรรยามิกิ (ยูริ นากามูระ) หมดหวังไปแล้ว เมื่อคาซึรอดชีวิตได้อย่างปาฏิหาริย์แต่ซาเอโกะคือผู้สูญเสียที่ความจริงเขาและเธอไม่ควรได้พบกันแต่การที่คาซึและซาเอโกะบังเอิญใช้ชีวิตอยู่ในเมืองเดียวกันโดยสารรถไฟสายเดียวกันหัวใจที่เป็นก้อนเนื้อของยูซุเกะที่อยู่ในร่างกายใหม่ก็ได้พบกับซาเอโกะอีกครั้ง ทั้งที่ความจริงไม่ควรมีอะไรเกิดขึ้นและมันควรเป็นแค่คนแปลกหน้าสองคนมาเจอกันแต่กลับไม่เป็นเช่นนั้นเมื่อหัวใจของยูซุเกะยังหลงเหลือความทรงจำอยู่และความทรงจำนั้นก็คือซาเอโกะ เล่าเรื่องเรียบง่ายร้อยเรียงเรื่องน้ำเน่าให้ออกมาสวยงามอย่างเรียบร้อย กลมกล่อม และสมจริง นี่คือเรื่องความรักสามทางคือความรักที่โรแมนติกซาบซึ้งระหว่างคนสองคนที่เหมือนฟ้าส่งมาคู่กันคือซาเอโกะกับยูซุเกะกับความรักที่เป็นความจริงแท้คือการแต่งงานด้วยความรักที่มีแต่คู่ครองที่พึงใจมาก่อนของคาซึและมิกิ ส่วนความรักสุดท้ายคือความรักที่ก่อตัวเหนือปาฏิหาริย์เมื่อความทรงจำไม่ถูกลบเลือนจากหัวใจจริงๆที่เป็นแรงดึงดูดที่มาจากการที่หัวใจของคนรักมาอยู่ในร่างกายของคนอีกคนแล้วความทรงจำของหัวใจก็พาคนสองคนให้มีอะไรก่อตัวขึ้นในใจที่เป็นเรื่องของจิตและสมอง ซึ่งเรื่องแบบนี้เอาจริงคือมันน้ำเน่าเต็มประดาประมาณอ่านหรือดูหนังที่สร้างจากนิยายของ Nicholas Sparks ที่เอาเรื่องน้ำเน่ามาเล่าให้ซาบซึ้งได้เสมอคืออ่านหรือดูไปก็ได้กลิ่นคละคลุ้งแต่มันก็ซาบซึ้งตราตรึงทุกที แต่เรื่องน้ำเน่านี้คราวนี้ถูกเล่าเรียบง่ายเรื่องของคนที่ธรรมดาใช้ชีวิตตามครรลองของคนธรรมดาแต่ร้อยเรียงอย่างเรียบร้อย ทำให้แปดตอนที่เล่าที่อาจดูยาวจนไม่น่าจะมีอะไรมาเล่าแต่กลับเล่าได้เล่าถึงทำให้เรื่องออกมาทั้งสวยงาม กลมกล่อม และสมจริง ให้ความโรแมนติกที่จับต้องสัมผัสได้มาดึงดูดอารมณ์ด้วยความอยากรู้บนพื้นฐานเรื่องง่ายๆของหัวใจ เอาจริงคือแรงดึงดูดของเรื่องนี้คือเรื่องอารมณ์ที่ขัดแย้งกับความรู้สึกประมาณหนึ่งคือครึ่งจริงครึ่งฝันกับอีกหนึ่งคือชีวิตจริงที่ต้องมีคนเจ็บปวด หรืออีกนัยหนึ่งคือเรื่องโรแมนติกที่มาจากการที่หัวใจของคนหนึ่งคนที่ร่างกายตายไปแล้วแต่หัวใจยังเต้นอยู่ในร่างของคนอีกคนเพื่อที่จะมาพบกันอีกครั้งตามสัจวาจา แต่มันดันต้องขัดแย้งกับมโนสำนึกของมนุษย์เมื่อหัวใจเจ้ากรรมที่ยังไม่ลืมคนรักของมันดันมาอยู่ในร่างกายของคนที่ก็มีความรักของตัวเองและยิ่งหนักหนาเพราะเขาแต่งงานแล้ว ในความโรแมนติกจึงถูกสามัญสำนึกฉุดรั้งแต่ก็มีพลังพอที่จะทำให้อยากรู้ว่าเรื่องของคนสามคนนี้จะลงเอยด้วยดีได้อย่างไรหรือจะเลยเถิดไปได้ถึงไหนเราะมองเหลี่ยมไหนก็ไม่มีใครผิด นั่นเพราะเรื่องของคนสามคนคือเรื่องพื้นฐานง่ายๆของหัวใจเป็นความรักที่ยากจะต้านทานทำให้อารมณ์ที่ขัดแย้งกับความรู้สึกนั้นพาคนดูล่องลอยไปกับจิตนาการว่าทุกอย่างจะไปถึงจุดไหนเพราะในความโรแมนติกที่หัวใจรับรู้สัมผัสได้ก็รุนแรงพอกันกับมโนสำนึกที่บอกให้สมองคิดว่ามันไม่ควรจะเป็นแบบนั้น เพราะความรักจะผูกตรึงกับความทรงจำจึงบอกยากว่ารักเพราะความทรงจำหรือความทรงจำทำให้รัก ความรักกับความทรงจำมันคือเรื่องที่แยกกันไม่ออกเหตุที่ความรักจะสร้างความทรงจำให้มนุษย์ทุกผู้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีหรือร้าย ในกรณีนี้คือเรื่องของความทรงจำของสองคู่สี่คนที่ถูกตัวแปรของความทรงจำของหัวใจที่ยังผูกตรึงอยู่ด้วยกันแน่นอนมันคือเรื่องของเหตุและผลที่ไม่อาจพิสูจน์ได้ทางวิทยาศาสตร์ เพราะบางครั้งหัวใจก็สั่งให้สมองทำอะไรที่อยู่นอกเหนือกฎเกณฑ์ได้และยิ่งจะเหนือความคาดหมายถ้ามันถูกความรักสั่งหัวใจไปสั่งสมองอีกที และกับซาเอโกะนั้นความทรงจำของเธอที่มีร่มกับยูซุเกะมันล้ำค่าเกินกว่าจะปล่อยให้มันเลือนหายไปตามการตายของยูซุเกะ ทว่าคาซึก็แสนดีที่ขนาดความเป็นคาซึยังทำให้ความรักและความทรงจำที่อาจไม่สมบูรณ์เพราะสุขภาพของเขากับมิกิเป็นเรื่องงดงาม จึงไม่ยากอะไรที่เมื่อถึงจุดหนึ่งซาเอโกะจะสับสนว่าที่เธอหลงล่องลอยไปกับความรู้สึกเป็นเพราะความทรงจำของยูซุเกะในร่างของคาซึหรือความเป็นคาซึที่ทำให้เธอรู้สึกแบบนั้น แน่นอนความสับสนย่อมมาหาคาซึเพราะเขายังรักมิกิอยู่เต็มหัวใจและจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลงแต่บางอย่างในร่างกายกลับปล่อยซาเอโกะไปไม่ได้ เก่งกาจในการสร้างตัวละครที่ไม่ว่าใครก็คู่ควรได้หัวใจคนดูไปครอบครองที่มาพร้อมการแสดงเยี่ยมๆตามจริตของคนญี่ปุ่น สี่คนสี่ตัวละครที่มีมิติตัวละครที่ต่างกันชัดทุกคนแต่ก็เป็นส่วนผสมที่ลงตัวเหลือประมาณเพราะแม้จะมีเรื่องของความรักที่ทำให้คนเจ็บปวดแต่ทุกตัวละครก็คู่ควรที่คนดูจะเทใจให้ เคนทาโร่ ซาคากุจิในบทคาซึยังคงทำได้เยี่ยมในการเป็นคนเงียบขรึมจิตใจดีที่ใครอยู่ใกล้จะอบอุ่น ส่วนคาสุมิ อาริมูระในบทซาเอโกะที่เรื่องนี้เป็นคนช่างเจรจาก็เหมาะสมอย่างยิ่งในนิยามของคำว่าเกิดมาเพื่อให้โลกนี้สวยสดใส ด้านโทมะ อิคุตะในบทยูซุเกะก็คือน้ำยาปรับผ้านุ่มที่สามารถทำให้ผู้คนรอบกายได้กลิ่นหอมสดชื่นและมองเห็นโลกในมุมที่นุ่มละมุนที่แม้ว่าบทจะน้อยกว่าใครเพื่อนแต่ความรู้สึกยังเหมือนเขาร่วมจออยู่ในทุกซีน สุดท้ายยูริ นากามูระในบทมิกิคือก็เยี่ยมในการเป็นคนที่เจ็บปวดอย่างไม่ควรเจ็บเพราะเธอไม่ได้ทำอะไรผิดเลยและเธอรักคาซึจนมองเห็นความเปลี่ยนแปลงของสามีได้ตั้งแต่แรก และด้วยการผสานกันอย่างลงตัวของบทในส่วนของตัวละครที่ผูกสัมพันธ์กันอย่างแน่นแฟ้นโดยไม่ต้องบีบคั้นก็ทำให้พลังของการแสดงในจริตของคนญี่ปุ่นแบบนี้แหละที่ได้ใจคนดู เหมือนไปแบบเรื่อยๆมาเรียงๆแต่ไม่อาจละสายตาได้ส่วนหนึ่งอาจเพราะเรื่องถูกเล่าในฟีลคล้ายซีรีส์ฝรั่ง เอาจริงแม้จะเล่าเรื่องด้วยความเรียบเรื่อยให้ภาพที่สวยจนสะกดสายตาได้สื่อสารกับอารมณ์คนดูคู่กับเพลงที่ไพเราะประทับโสตแต่ถ้าว่ากันที่การเดินเรื่องและชั้นเชิงในการเล่ากลับคล้ายดูซีรีส์ฝรั่ง ยืนยันง่ายๆจากการที่คนที่ไม่เคยดูซีรีส์ญี่ปุ่นอย่างคุณแม่บ้านมาดูพร้อมกับผู้เขียนยังต้องมนต์สะกดจนต้องดูจนจบครบทั้งแปดตอน แน่นอนในส่วนของบทยังคงเห็นเป็นญี่ปุ่นที่มักเขียนบทด้วยภาษาวรรณกรรมคือให้ตีความระหว่างบรรทัดและในที่นี้คือตีความผ่านภาพที่เห็นที่บางครั้งก็ไม่อธิบายอย่างสำเร็จรูปเช่นบทสนทนาในฉากสุดท้าย ต่อมาคือการเดินหน้าไปแบบเรื่อยๆมาเรียงๆแต่ไม่อาจละสายตาได้เพราะบางครั้งจุดเล็กน้อยเพียงน้อยนิดมันคือชิ้นส่วนสำคัญที่จะทำให้หัวใจสัมผัสได้ในความโรแมนติกที่ดราม่าเข้มจัดแต่ไม่ยัดเยียดแบบนี้ ยิ่งเรื่องนี้ถ้าจะบีบหรือขยี้จริงๆน้ำตาคงไหลเป็นโอ่งเพราะวัตถุดิบพร้อมขนาดนั้นแต่ญี่ปุ่นก็ยังเป็นญี่ปุ่นที่แม้จะเล่าเรื่องที่ดูเป็นอินเตอร์ขึ้นแต่ DNA ความเป็นญี่ปุ่นก็ยังไม่เปลี่ยนเพราะสุดท้ายก็โลกสวยแม้จะเป็นเรื่องที่หนักหนาสาหัสต่อหัวใจแต่ก็สามารถมองได้ในมุมสวยงามเสมอๆ ดูไปบ่นไป ขอบคุณภาพประกอบ ภาพปก / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2,3,4,5,6,7,8 จาก Instagram netflixjp เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !