“อาย วราไพรินทร์” หอบหลักฐาน ลุยฟ้องกลับคนก่อกวน กล่าวหาหลอกลวงส่งสินค้าไปขาย
“อาย วราไพรินทร์” หอบหลักฐาน ลุยฟ้องกลับคนก่อกวน กล่าวหาหลอกลวงส่งสินค้าไปขาย
ดาราสาว “อาย วราไพรินทร์” ควงทนาย พร้อมหลักฐานครบ ชี้แจง ประเด็นแก๊งค์ก่อกวนไปร้องกองปราบ กล่าวหาหลอกลวง ให้ส่งสินค้าไปขายที่ตะวันออกกลาง พร้อมลุยแจ้งความดำเนินคดีหัวโจกจ้องทำลายให้ตนเสื่อมเสียชื่อเสียง
“อาย วราไพรินทร์” ขอชี้แจงความจริงทุกประเด็น ตนได้มีการจัดสัมนาธุรกิจ ให้ความรู้ กลุ่มเจ้าของแบรนด์ที่มีความสนใจในการส่งสินค้าไปขายที่ตะวันออกกลาง โดยมีเงื่อนการส่งสินค้าต่างๆ มีความแตกต่างกันไป เช่น ส่งสินค้าไปขายในห้างคาร์ฟูที่บาร์เรนก็จะมีการจัดเก็บค่าใช้จ่ายการดำเนินงานต่างๆ เพียงแค่50เปอร์เซ็นต์เท่านั่นจากที่จะต้องจ่ายจริงให้กับห้างคาร์ฟู100เปอร์เซ็นต์ ซึ่งตนได้มีคอนเทคตรงและได้เงื่อนไขพิเศษจากห้างคาร์ฟูเป็นกรณีพิเศษหรือส่งสินค้าไปขายแค่ในช็อปของไทยวราที่ประเทศบาร์เรนก็จะมีการจัดเก็บค่าบริการและดำเนินการเพียงแค่ปีละ 2-5หมื่นบาทเท่านั้นและยังมีบริการพิเศษหากภายใน1ปีสินค้ายังขายไม่หมดก็จะต่อสัญญาให้ฟรีโดยไม่เก็บค่าบริการใด แต่หากสินค้าหมดอายุก็ต้องมีการทำลายเผาทิ้งตามกฏหมายประเทศบาห์เรน ซึ่งเงื่อนไขการทำลายสินค้าก็จะมีการแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรต่อเจ้าของแบรนด์ทุกครั้ง
แต่หากไม่สามารถนำสินค้าเข้าไปขายที่ประเทศบาร์เรนได้อาจด้วยเงื่อนไขไม่ผ่านการตรวจสอบ ทางตนก็จะมีการคืนค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้ ซึ่งกลุ่มบุคคลที่เข้าไปร้องเรียนที่นั้น ก็เป็นกลุ่มคนเจ้าของสินค้าที่ตนได้มีการนำส่งสินค้าไปจำหน่ายที่ประเทศบาร์เรนตามสัญญาครบถ้วน โดยทางเรามีภาพและหลักฐานการจัดจำหน่ายครบถ้วน และบางรายรอการพิจารณาของห้างบาห์เรน ทางบริษัทเลยให้ขายในช็อปตน ฟรี ! แต่กลุ่มคนเหล่านี้มีบางคนที่ไม่พอใจเพราะสินค้าขายไม่ดีไม่เป็นที่นิยมในประเทศบาห์เรน จึงออกมาโวยวาย โพสต์สร้างความเสียหาย อยากเร่งการเงินค่าดำเนินการคืนอีกทั้งยังนำเรื่องราวไปโพสต์ หรือให้ข้อมูลอันเป็นเท็จทำให้ตนเสื่อมเสียชื่อเสียง เราจึงจำเป็นต้องดำเนินคดีต่อไป
อาย ขอยืนยันว่าตนทำงานอย่างโปร่งใส และมีสินค้าที่ตนต้องดูแลในการส่งออกที่ประเทศบาห์เรน อีกหลายร้อยแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จ และเข้ามาให้กำลังใจ เราจึงจำเป็นต้องออกมาชี้แจงเพื่อความเชื่อมั่นต่อคู่สัญญาที่ขายดีตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เราโดนข่มขู่ตลอดจากหัวหน้าแก๊งค์ที่ให้สัมภาษณ์ป่วนทุกหน่วยงาน และทักไปหาหลายๆ แบรนด์มาร่วมกับตน ไม่มาก็พูดไม่ดี และได้ไปรวมตัวลูกค้าที่เจรจาตกลงกับเราอยู่ 8 ราย ซึ่งทางเรายินดีรับผิดชอบในเคสที่รอการอนุมัติเข้าห้างไม่ไหวเพื่อคืนเงินมัดจำ แต่เคสแบรนด์กะทิไม่พอใจ ด้วยประเด็นที่ตนผิด และทางบริษัทไม่สามารถคืนเงินเข้าห้างให้ได้เพราะ สินค้าเข้าไปวางจำหน่ายแล้ว